รพ. ปิยะเวทเคลียร์ “ณวัฒน์” แจงออกรพ.แต่เช้าแล้ว

รพ. ปิยะเวทเคลียร์ “ณวัฒน์” แจงออกรพ.แต่เช้าแล้ว
         จากกรณี “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ไลฟ์สดกล่าวหาแพทย์ให้ย้ายออกจากรพ.ดังที่ทราบ ล่าสุด  นพ. วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท ร.พ. ปิยะเวท ได้เปิดแถลงข่าวว่า

อ่านข่าวต่อ:ฟาดกลับ! “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เคลียร์ชัดกรณีถูกพาดพิง

       สืบจากการรักษา“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” 3 กค จากโควิดรับไว้รักษา 20 วันที่ผ่านมา เนื่องจากอาการเจ็บป่วยมีบางช่วงป่วยรุนแรง คณะแพทย์ให้การดูแลรักษาดีขึ้น แต่เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากรอการรักษา เป็นผู้สูงอายุ มากรวมถึงเด็กเล็ก เชื่อว่าทุกรพ. ประสบภาวะเดียวกัน ฝ่ายบริหารขอความร่วมมือผู้ป่วยทุกท่านที่อาการดีขึ้น ถ้ามีความพร้อมจะกลับไปพักที่ hospital 2500 เตียง ก็ยินดีให้ไปพักที่นั่นหรือที่บ้านก็ได้ 
       เราอนุญาตให้เขากลับได้ ถ้าออกซิเจนสูงพอที่กลับไปพักที่บ้านต่อได้ด้วยค่าที่สูงกว่าเดิมเยอะ แม้จะไม่ร้อยเปอร์เซนต์แต่ก็ปลอดภัย กรณีที่ให้กลับบ้านคือได้สวมเครื่องช่วยออกซิเจน เขาสามารถใส่หรือถอน แต่อาจจะแสดงอาการเหนื่อยได้ เขามีประกันหลายอย่าง โดยหลัก โควิด ทางรัฐจะดูแลให้ก่อนอยู่แล้ว สปสช.เป็นคนจัดการ แต่ตอนนี้ ใช้สิทธิประกันเบื้องต้นก่อน 

       กรณีการไลฟ์ในรพ.ปกติในรพ. เราไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ในรพ.แต่ในห้องส่วนตัว คนไข้จะเฟสก็ไม่ได้ห้าม รพ.ไม่เคยออกกฎ จริงๆ การพาดพิงองค์กรหรือบุคคลที่สามเขาต้องรับผิดชอบส่วนนั้น  ถามว่าการดำเนินการกับเขา ที่พาดพิงคือรพ.พยายามหาทางให้เรื่องราวจบลงด้วยดี ตอนนี้คนไข้กลับบ้านแล้ว ให้แพทย์ติดตามเรื่องการรักษาด้วยความห่วงใย เรื่องหมอวิชัยที่ถูกพาดพิงเป็นสิทธิของเขาจะตัดสินใจจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เรื่องการไล่คุณหมอออกไม่เป็นความจริง แพทย์ก็คงคล้ายอาชีพอื่น ถ้าไม่สบายใจ จะมีปัญหาเราก็ให้เขาไปพักผ่อนก่อน  

สรุป 
1. แพทย์รักษาให้ตามโปรแกรมครบถ้วน ณวัฒน์กลับไปพักที่บ้าน มีการติดตามผลต่อ
2. ทีมแพทย์และ ณวัฒน์ได้เคลียร์กันเข้าใจดี
3. ณวัฒน์ ออกไปจากร.พ.ตอนเช้าตรู่ 23 กค 64
4. อ.วิชัย ผู้โทรแจ้งณวัฒน์ โดนกระแสสังคมโจมตี ขอไปพักร้อน
5. สำหรับคลิปเสียงระหว่างณวัฒน์กับแพทย์นั้นไม่ทราบใครปล่อย

       สอบถาม “สาคร ศิริชัย” ทนายความชื่อดังเผยกรณี “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” มีคลิปหลุดกับแพทย์อ้างให้ออกรพ.ระหว่างการรักษาโควิด19 เขาเผยว่ามีข้อสงสัยสามประการคือหนึ่ง คลิปเสียงใครบันทึก ผู้บันทึกและเผยแพร่มีความผิดตามกฎหมายเนื่องจากไม่ได้ความยินยอมจากคู่กรณี  สองการติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องรักษานั้นหากมิใช่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรักษานั้น แต่เป็นการบันทึกพฤติกรรมของคนไข้โดยคนไข้ไม่ยินยอมน่าจะไม่สามารถทำได้สามการให้ออกจากรพ. เพื่อเข้ารักษาต่อใน hospitel ทั้งๆที่การรักษาจะจบในวันที่29 กค.นั้นควรให้แพทย์ผู้รักษาวินิจฉัยมากกว่าทางผู้บริหาร รพ.