คืออะไรพิธี “จองเปรียง” ที่ “แม่นายการะเกด” และ “คุณหญิงจำปา” เตรียมตัวจะไปใน EP ต่อไป
เป็นละครฮอตต่อเนื่องมีเรตติ้งทะลุ 7 ติดต่อกันมา 5 ตอนแล้วสำหรับละคร พรหมลิขิต ที่ “โป๊ป ธนวรรธน์” ประกบ “เบลล่า ราณี” ทั้งนี้ใน EP13 “แม่นายการะเกด” และ “คุณหญิงจำปา” ได้เอ่ยถึงการเตรียมตัวที่จะไปร่วมพิธี “จองเปรียง” ซึ่งน่าจะออนแอร์ในลำดับต่อไป
อ่านข่าวต่อ: เผยเบื้องหลังชุดไทย “ลายโคมแก้วกุดั่นน้อย” ที่ “เบลล่า ราณี” สวมโชว์อลังการงามดั่งนางฟ้าการะเกด
สำหรับ “จองเปรียง” สื่อศิลปวัฒนธรรมรายงานเมื่อปี 2563 อธิบาย “จองเปรียง” ;เป็นพิธีบูชาไฟถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา เมื่อสมัยอยุธยาทำโดยชักโคมและลดชุด แล้วกำหนดให้มีในเดือน 12 (ราวตุลาคม-พฤศจิกายน) ทั้งนี้ ได้ต้นแบบจาก “ทิวาลี” พิธีบูชาไฟของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดีย
ทั้งนี้มีรายงานอีกว่า กฎมณเฑียรบาล สมัยอยุธยาตอนต้น ระบุว่าเดือน 12 มีพิธี “จองเปรียงลดชุดลอยโคมลงน้ำ” โดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นพิธีเดียวกันทั้งหมด
อธิบายชัด ๆ จองเปรียง หมายถึง โคมมีชุดดวงไฟได้จากจุดเผาน้ำมันเนย แล้วชักด้วยสายรอกยกโคมไฟขึ้นแขวนยอดเสา
จองเปรียง หมายถึง ดวงไฟตามประทีปสว่างไสวที่ได้จากการจุดไฟเผาน้ำมันเนย จอง มาจากคำเขมรว่า “จง” (อ่าน จอง) แปลว่า ผูก, โยง ในที่นี้หมายถึงดูแลประคับประคองให้มีแสงสว่าง เช่น เลี้ยงไฟไม่ให้ดับ ตรงกับ “ตาม” ในคำว่า “ตามไฟ” (ผู้รู้ภาษามอญว่าจอง แปลว่า เผา) เปรียง มาจากคำเขมรว่า “เปฺรง” (อ่านว่า เปรง) แปลว่า น้ำมัน ในที่นี้หมายถึงน้ำมันเนยที่ได้จากนมเปรี้ยว (จากน้ำนมของวัว, ควาย) ผสมน้ำแล้วเจียวให้แตกมัน
ภาพที่เห็นชัดเจนมากที่สุดคือภาพพิธีจองเปรียง ซึ่งเป็นจิตรกรรมวัดสุวรรณาราม พิธีดังกล่าวนิยมกันมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 และเลิกไปในรัชกาลที่ 6