เปิดใจ "เควิน คอสต์เนอร์" กับผลงานล่าสุด Draft Day
เคยไหม? ที่อยากจะทำบางสิ่งบางอย่างตามสัญชาตญานของตัวเอง.. เคยไหม? ที่พร้อมจะทุ่มทุกอย่างเพื่อทำตามหัวใจฝัน.. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์ 1 วันเปลี่ยนชีวิตพร้อมกัน กับ Draft Day ผลงานคุณภาพเรื่องใหม่ล่าสุดของ เควิน คอสต์เนอร์ นักแสดงยอดฝีมือเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์ ภาพยนตร์กำกับโดย อีวาน ไรท์แมน ผู้กำกับเจ้าของผลงาน Up in the Air ที่เคยเข้าชิงออสการ์มากถึง 6 สาขา
Draft Day เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันสำคัญแห่งวงการกีฬาอย่างวันดราฟท์ ที่ทีมอเมริกันฟุตบอลอาชีพจะเลือกผู้เล่นจากระดับมหาวิทยาลัยเข้าร่วมทีมของตน นับเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของ ซอนนี่ วีเวอร์ (เควิน คอสเนอร์) ผู้จัดการทั่วไปของอดีตทีมเคยรุ่งอย่าง Cleveland Browns ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบชะตากรรมในการเฟ้นหาสมาชิกใหม่เพื่อมากอบกู้ทีมดาวร่วงของเขาไว้ให้ได้ ซอนนี่ต้องรับมือกับปัญหารอบด้าน พร้อมเดิมพันทั้งเรื่องส่วนตัวและอาชีพการทำงาน ใน 1 วันวุ่นวายนี้
อะไรทำให้คุณตัดสินใจที่จะแสดงในภาพยนตร์แนวกีฬา
จริงแล้วผมเลือกภาพยนตร์ที่อยากจะแสดงโดยพิจารณาจากบทที่มีคุณภาพครับ ผมจะตัดสินใจทันทีถ้ารู้สึกว่ามันคือบทที่ใช้สำหรับตัวผม ซึ่งปกติแล้วผมเป็นคนที่หลงใหลในเรื่องของกีฬาอยู่แล้ว
ทำไมคุณถึงเลือกภาพยนตร์เกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอล
จริงๆ แล้วผมเคยได้รับการเสนอบทภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอลมาก่อนหน้านี้ 2-3 ครั้ง แต่เป็นบทบาทของผู้เล่น ซึ่งผมไม่ชอบการเข้าฉากสนามแข่งปลอมๆ เพื่อทำการแข่งขันปลอมๆเอาซะเลยครับ ครั้งนี้ผมจึงรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ทำงานร่วมกับ NFL จริงๆในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Draft Day
คุณทำการค้นคว้าข้อมูลหรือเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนที่จะมารับบทผู้จัดการในภาพยนตร์เรื่องนี้
ผมโชคดีมากที่มีโอกาศได้พูดคุยกับผู้จัดการจริงๆของทีมดังๆในวงการอเมริกันฟุตบอล ซึ่งทำให้ผมมีความเข้าใจเกี่ยวกับการแข่งขัน พร้อมทั้งเข้าใจถึงความรู้สึกกดดัน สิ้นหวัง ที่พวกเขาต้องแบกรับไว้
ในภาพยนตร์เรื่องนี้คุณต้องรับบทผู้จัดการของทีมคลีฟแลนด์ บราวน์ แล้วคุณในพูดคุยกับสมาชิกของทีมนี้ในชีวิตจริงบ้างไหม ปฏิกิริยาของพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง
ผมคิดว่าสมาชิกทีมคลิฟแวนด์ บราวน์ต่างก็รักภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ เราตั้งใจถ่ายทอดทุกรายละเอียดของทีมออกมาอย่างซื่อสัตย์และตรงตามความเป็นจริงมากที่สุด
อะไรคือสิ่งที่คุณชอบที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้
ผมรู้สึกว่า Draft Day มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นภาพยนตร์คลาสสิค ผมไม่แน่ใจว่ามันจะทำรายได้ดีในบ็อกซ์ออฟฟิศมั้ย แต่มันจะต้องเป็นอมตะและเป็นภาพยนตร์ที่ผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ดูมัน ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้มันมีความพิเศษสุดๆแล้วครับ
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิด รวมทั้งยังเกี่ยวกับพละกำลังและเงินตรา ในชีวิตจริง คุณเคยทำอะไรตามสัญชาตญานของตัวเองบ้างไหม
ผมใช้ชีวิตด้วยความมั่นใจอยู่แล้วครับ ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิตด็คือการรู้ว่าตัวเองทำอะไร ย้อนกลับไปสมัยที่เราอายุ 18-19 และยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ผู้คนมักจะถามพ่อแม่เราว่า “เด็กคนนี้จะทำอะไรต่อไป” ซึ่งทำให้คุณอยากจะตอบพวกเขาไปว่า “ใครจะสนล่ะวะ! มันไม่ใช่เรื่องของแกซะหน่อย” ผมมักจะคิดอยู่เสมอครับว่าอะไรคือสิ่งที่ผมอยากจะทำในชีวิต ที่ทำให้ผมพร้อมจะเสี่ยงทุกสิ่งที่ผมมีเพื่อทำมัน ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง บ้าน และสิ่งนั้นก็คือการสร้างภาพยนตร์ดีๆออกมา
คุณคิดว่าอะไรคือแง่มุมที่สร้างสรรค์และน่าดึงดูดใจในภาพยนตร์เรื่องนี้
ผมคิดว่าถ้าหากเราอยากที่จะสร้างภาพยนตร์กีฬาดีๆซักเรื่อง เราควรจะตัดเรื่องของกีฬาออกไปแล้วมุ่งความสนใจไปที่เรื่องราวของผู้คน ผู้คนไม่อยากรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงหรือแง่มุมที่มีความเป็นเทคนิคมากขนาดนั้นหรอกครับ มันจะต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่สร้างความประทับใจและตอบได้ว่าทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงควรค่าแก่การเสียเวลาดู ซึ่ง Draft Day คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันยุ่งเหยิงวันหนึ่งที่ทุกคนจะต้องไม่มีวันลืม
ซอนนี่ ต้องพบกับความกดดันอย่างมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ แล้วในชีวิตจริงล่ะ คุณรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้อย่างไร
ผมคิดว่าตัวเองรับมือกับความกดดันได้ค่อนข้างดีครับ ยิ่งอยู่ภายใต้ความกดดัน หรือสภาวะที่บ้าคลั่ง ผมคิดว่าผมมักจะทำสิ่งต่างๆได้ดีกว่าเดิมเสียอีก มีบางช่วงของชีวิตนะครับที่ผมต้องทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อทำสิ่งๆหนึ่ง แต่ผมก็เชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อมั่นในผู้คนรอบข้าง ความฝันคือแรงผลักดันให้แก่ชีวิตของผมครับ
วันไหนที่คุณคิดว่าเป็นวันดราฟท์ในชีวิตของคุณ
น่าจะเป็นวันที่ผมได้รับเลือกให้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Big Chill นะ ผมยังจำวินาทีนั้นได้ดีเลยครับ
