"มิน พีชญา" เธอหายไปไหน?

"มิน พีชญา" เธอหายไปไหน?

1

"มิน พีชญา" เธอหายไปไหน?

     ก่อนอื่น ขอส่งความสุขมายังผู้อ่าน และผู้มีอุปการคุณ เนื่องใน “วันปีใหม่ไทย” ด้วยครับ ซึ่งเด็กสมัยใหม่อาจจะไม่รู้จัก “ปีใหม่ไทย” เพราะปกติมีแต่ “วันปีใหม่” 1 มกราฯ รู้เพียงว่า 13 เมษาฯ คือวันสงกรานต์ ที่ได้เล่นน้ำ ปะแป้งสาวๆ สนุกสนานครื้นเครง “ปีใหม่ไทย” คือจังได๋?

      สมัยโบราณ คนไทยถือว่า วันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย ซึ่งจะตรงช่วงเดือนพฤศจิกาฯ หรือธันวาฯ ให้เป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่พอมาสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการเปลี่ยนวันที่ 1 เมษาฯ เป็นวันขึ้นปีใหม่ จนต่อมาในยุคของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในปี พ.ศ.2483 ได้เปลี่ยนวันปีใหม่ให้เป็นสากล คือ 1 มกราฯ แต่คนโบราณก็ยังคุ้นเคยกับ “วันปีใหม่ไทย” ในเดือนเมษาฯ จึงกําหนดให้วันที่ 13 เมษาฯ เป็น “วันขึ้นปีใหม่ไทย” ร่วมด้วย นั่นคือที่มาของ “วันปีใหม่ไทย” ที่ขอเล่าคร่าวๆ เพื่อที่คนรุ่นหลัง จะได้รู้ที่มา-ที่ไป ไม่รู้แค่ว่า เป็นวันสาดน้ำ-เล่นน้ำ เท่านั้น ปีนี้นางสงกรานต์อาจจะดูดุหน่อย เพราะ “นางโคราคะเทวี” มีเสือเป็นพาหนะ มีภักษาหารเป็นน้ำมันซะด้วย อืมมม...แค่ได้ยินชื่อพาหนะและภักษาหาร ก็ทําให้ผมสะดุ้งโหยงหลายตลบ เพราะวันนี้อะไรหลายๆ อย่าง แยกเขี้ยว ยิงฟัน คํารามฮึ่มฮำใส่กัน ก็ได้ภาวนาว่า อย่าให้เป็นจริงเป็นจัง เหมือนอย่างที่เป็นข่าว เอ๊า...มาว่าเรื่องของเราดีกว่า!!

     วันนี้ขออนุญาตผู้อ่าน ตามหา “คนหาย” ไม่ใช่ที่ไหนหรอกครับ เป็นนางเอกชื่อดังของช่อง 7 สี นามว่า “มิน-พีชญา วัฒนามนตรี” เพราะเห็นเธอหายไปจากจอทีวีเป็นปีแล้ว เลยคิดถึง เท่านั้นแหละ 

      “มิน-พีชญา” ไม่ใช่นางเอก “ขี้ไก่” ที่เล่นละครแล้วเรตติ้งหายจ้อย แต่เธอเป็นหนึ่งใน “นางเอก” ของช่อง 7 สี ที่เล่นละครแล้ว ส่วนใหญ่จะ “กู้เรตติ้ง” ให้เสมอ อันนี้ไม่ใช่ผมขี้โม้ หรืออวดอ้าง เพื่อที่จะเข้าข้าง “มิน-พีชญา” แต่เป็นเรื่องจริงที่พิสูจน์ได้ และยืนยันให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ จําได้ไหมครับ ช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งช่อง 7 สี ถูกละครช่องคู่แข่งโหมกระหน่ำ โดนทั้งหมัด ศอก เข่า ซวนเซ แทบจะหมอบกลางเวทีให้กรรมการนับ 10

      แต่พอ “ปิ่นอนงค์” ลงจอเท่านั้น “คอละคร” หันมากดรีโมทยิงตรงไปที่ช่อง 7 สีทันที “มิน-พีชญา” ประกบกับพระเอกอย่าง “เวียร์-ศุกลวัฒน์” กลายเป็นขนมจีนผสมน้ำยาที่ลงตัว คนดูต้องลุ้นทุกฉาก ทุกตอน จบตอนแล้ว ยังอดระลึกถึงไม่ได้ ตอนหน้านางเอกจะประสบชะตากรรมอย่างไรหนอ?

      ที่สําคัญ ละครเรื่องนี้ “มิน-พีชญา” ทุ่มเทเล่นอย่างเต็มที่ จนได้รับฉายา “นางเอกปากเปื่อย” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เธอทุ่มให้กับการเล่นแบบสุดๆ ไม่ใช่นางเอกหน่อมแน้ม ประเภทสนิมสร้อย หลังจากนั้นก็สร้างปรากฏการณ์ กระตุกเรตติ้งอีกครั้งใน “ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ” ก่อนจะหายเข้ากลีบเมฆจนป่านนี้

      “มิน-พีชญา” เล่นละครให้กับช่อง 7 สี ตั้งแต่ปี 2552 ในละครพื้นบ้าน “ปลาบู่ทอง” ตอนนี้ก็พ.ศ.2557 เธอเล่นละครมาแล้ว 10 เรื่อง เมื่อถัวเฉลี่ยออกมาแล้ว เท่ากับว่า เล่นละครปีละ 2 เรื่อง

       ตามสารบบละครของช่อง 7 สี ในปีนี้ “มิน-พีชญา” มีลิสต์รายชื่อ ได้เล่นละครอยู่เรื่องเดียว นั่นคือ “ล่ารักสุดขอบฟ้า” ของค่าย “มุมใหม่” ผู้จัดฯ เจ้าเดียวกับ “ปิ่นอนงค์” จบจากละครเรื่อง “ล่ารักสุดขอบฟ้า” ยังไม่มีวี่แวว ได้ข่าว “มิน-พีชญา” มีละครเรื่องใหม่ตามมา ในขณะที่นางเอกหน้าใหม่ๆ อีกหลายคน ที่เข้ามารุ่นหลัง มีละครต่อเนื่อง บางคนปีหนึ่ง 3-4 เรื่อง จนกลายเป็น “ดาราหน้าช้ำ”

       ขณะที่ “มิน-พีชญา” กลายเป็น “ดาราช้ำใน” เพราะไม่รู้สาเหตุ ว่าทําไม งานละครน้อยลงทุกขณะ ทั้งที่ตอนนี้เธอก็ไม่มีพันธะเรื่องการเรียน เพราะเรียนจบปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เรียบร้อย แล้ว

       ผมไม่เชื่อหรอกว่าช่อง 7 สี จะมีระบบเส้นสาย เหมือนเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ตามที่เขาพูดต่อๆ กันมา เพียงแต่ช่อง 7 สี อาจจะมองผ่าน ไม่เห็นหัวเห็นหาง เลยไม่อยู่ในสายตา 

       จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ในสายตาของ “คอละคร” เขาว่ามายังงั้น!?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments