“แจม” เคลียร์ชัด! ที่ปรี๊ดเพจดังเพราะคำหยาบไม่ใช่คนรุมขุดรูป

“แจม” เคลียร์ชัด! ที่ปรี๊ดเพจดังเพราะคำหยาบไม่ใช่คนรุมขุดรูป 

    กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทางเพจเม้าท์ข่าวบันเทิงชื่อดังบนเฟซบุ๊กได้โพสต์ข่าวของนักร้อง-นักแสดงสาว “แจม ชรัฐฐา อิมราพร” หรือ “แจม เนโกะจั๊มพ์” เกี่ยวกับเรื่องจมูกของเธอ ซึ่งทำเอาสาวแจมออกอาการไม่พอใจถึงการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมของเพจดังกล่าว จึงเข้าไปคอมเมนต์ชี้แจงในโพสต์ และบนอินสตาแกรมของตนเอง โดยล่าสุดมีโอกาสได้พูดคุยกับสาวแจม เธอก็ได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า

   ก็ตอนเห็นก็รู้สึกตกใจ ว่าทำไมถึงเขียนแรงมาก คือแรงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงที่เขียนแซว แต่หมายถึงเค้าใช้คำที่แรง เราก็เลยรู้สึกว่ามันเกินไปหรือเปล่า คือเค้าใช้คำที่มันไม่สุภาพ เราไม่ได้ไม่พอใจเรื่องคนมาขุดรูปเก่าเลย คือขุดไปเหอะ เพราะเราก็ทำงานตั้งแต่อายุ 16 แล้ว ไม่ได้ซีเรียส เราเป็นคนไม่ซีเรียสเรื่องพวกนี้เลย แต่แค่ไม่ชอบที่เขาแซวแล้วใช้คำที่มันดูไม่โอเค มันดูเหมือนไม่ให้เกียรติกันเลย
จริงๆ คนอื่นอาจจะรับได้ แต่แจมเป็นคนที่ส่วนตัวไม่ชอบให้ใครมาพูดจาใช้คำหยาบ เราก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะเพจไหน จะเว็บไหน จะกอสสิบที่ไหน การแซวดารา เม้าท์ดาราเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราแค่รู้สึกว่า เดี๋ยวนี้มันมาถึงขนาดนี้แล้วเหรอ ต้องลงท้ายด่ากันขนาดนี้เลยเหรอ คือมันเป็นคำด่า เราก็รู้สึกไม่ชอบตรงนี้ ก็เลยเข้าไปเมนต์เพื่อที่จะบอกเค้าว่าเม้าท์ได้นะ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้คำที่รุนแรงขนาดนี้ 

   ส่วนคอมเมนต์ในเพจก็อ่านนะ เราไม่สามารถห้ามคนทั้งโลกได้ แล้วคนที่อ่านเค้าก็อ่านตามกัน  พิมพ์ตามกันไป เมนต์ๆ กันไป คืออันนี้มันเป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ เราก็ไม่ได้อะไร แต่เราแค่รู้สึกว่าด้วยความที่เค้าเป็นเจ้าของเพจ เป็นคนเขียน เราก็รู้สึกว่าเค้าควรที่จะต้องเขียนให้คนอ่านแล้วรู้สึกดีได้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามเรื่องที่จะเม้าท์ไม่เม้าท์ใคร จริงๆ ก็ชินแล้ว แต่เอาตรงๆ คือ เราไม่ได้แคร์เลย ไม่ได้ซีเรียสเลย คือเม้าท์ไปเถอะ แต่เราแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคำตอนจบประโยคที่เค้าเขียน มันจะต้องเป็นคำหยาบ เราก็รู้สึกว่ามันจะเยอะไปแล้ว เราอ่านก็รู้สึกว่าโกรธเราหรือไง คือเราก็เข้าใจว่าเค้าต้องการให้เพจเค้าดูแซ่บ แต่เราถือ ก็รู้สึกว่าอย่างเว็บทั่วๆ ไป คือเว็บกอสสิบดาราทั่วไป เขาก็เขียนแซวกัน ไม่เห็นจำเป็นจะต้องใช้คำหยาบคายแบบนั้นเลย เราก็รู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับเรา เราก็เลยบอกเค้า เราเขียนแล้ว แล้วเราก็เลยบอกเค้าไปด้วยเลยว่า ตามลิงค์ข่าวมันก็ไม่ใช่ทั้งหมดไหมที่เราพูด เรายืนสัมภาษณ์เป็นสิบนาที ออกมาแค่นาทีเดียว บางทีก็อย่าตัดสินคนว่าเค้าโกหก คือจะแปะไว้ก็แปะ แล้วใครจะวิจารณ์ยังไงก็แล้วแต่คนเค้าดู ไม่ต้องมาเขียนเพื่อชักจูงขนาดนั้น

    ก็มีคนตามมาแซะในไอจี บางทีแจมก็รู้สึกว่าอันนี้ก็ช่างมันแล้ว เพราะบางครั้งขนาดเราเขียนอธิบายชัดแล้ว เค้าก็อ่านกันไม่หมด คืออ่านรัวๆ แล้วก็ไม่ได้คิดอะไร คือคิดที่จะเมนต์อย่างเดียว อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เราก็ปล่อยๆ คือเจตนาเราไม่ได้พูดถึงคนที่คอมเมนต์ หรือการที่เค้ามานั่งขุดรูปเราเมื่อก่อน เพราะตัวเราเองเราก็รู้ เพราะเราก็เข้าวงการมา เราก็ไม่ได้หน้าตาดี เราก็ทำๆ ของเราไปเรื่อยๆ พอใจก็ทำ แค่นั้น แต่ก็เข้าใจเพราะว่าไปสัมภาษณ์นักข่าว แล้วเค้าก็ตัดๆ มา มันก็ทำให้เนื้อความมันขาดไป ก็จากพูดยาวๆ ก็จะเหลือแค่ ทำค่ะ แต่เหมือนยอมรับไม่หมด เหมือนกั๊กๆ เค้าก็เลยเหมือนเอามาลงแซว ว่าบอกว่าทำก็ทำไปเถอะ ก็เห็น แต่ก็งงมาก เพราะเห็นงงทุกเว็บข่าว เราก็เห็นแล้ว ก็เฉยๆ แต่อันนี้ก็มีเพื่อนๆ ส่งมา มีผู้ใหญ่ส่งมาเพราะเค้าเห็น เฉพาะเพจนี้เลย ว่าอ่านหรือยัง ทำไมเค้าว่าเราขนาดนั้น เราก็เลยเข้าไปอ่านว่ามันมีอะไรเหรอ เพราะปกติไม่เคยถือสาอะไรเรื่องพวกนี้ คือเราไปเห็นก็ตกใจ ทำไมถึงใช้คำอะไรแบบนี้ คือก็ไม่รู้ว่าเพจนี้คืออะไร ก็ไม่ได้ดูว่าเค้าว่าอะไรใครบ้าง แต่เราเห็นของเรา เราก็รู้สึกว่าสังคมเราถึงจุดนี้แล้วเหรอ ก็รู้สึกว่ามันไม่ควรนะ

   สำหรับเรื่องที่มีคนมองว่าโลกสวย ไม่ได้สนใจค่ะ คือถ้าจะว่าโลกสวย ก็โลกสวยก็ได้ รู้สึกว่าคนเรามันแตกต่างกัน บางคนอาจจะพูดคำนึง คำหยาบคำนึง เป็นเหมือนแบบติดปาก จนเค้ารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเรารู้สึกว่า การที่เราจะพูดอะไรแบบนั้น บางทีถึงจะบอกว่ามันเป็นคำอุทาน คำติดปากลงท้าย แต่มันเป็นที่สาธารณะ มันเป็นเพจ บางทีบางที่ทางมันไม่ใช่ที่ที่ควรจะพิมพ์ หรือเขียนคำแบบนี้ลงไป แต่ถ้าเรานั่งคุยอยู่กับเพื่อน เราจะพูดคำหยาบมันเป็นเรื่องปกติ เราก็พูด แต่อันนี้มันเหมือนเราคุยกับนักข่าว หรือเราคุยกับใครแล้วติดคำหยาบออกมา แล้วขอโทษว่าติดปาก มันก็ตลก มันคือการวางตัวที่ถูกต้อง

    กับที่เห็น “เนย” ขึ้นไอจีก็ไม่รู้ คือก็ไม่ได้เข้าไปดูในไอจีเค้า หรือไม่ได้เข้าไปดูในเพจ เพราะเขียนขึ้นในไอจี เพื่อนก็แคปส่งมาว่าเค้าเขียนว่าขอโทษ วันหลังถ้ารุนแรงก็ไม่ต้องเข้ามาอ่านในเพจ อย่างนั้นอย่างนี้ ก็แบบประชดนิดๆ นะ แต่เราก็โอเค ขอโทษแล้วก็ขอโทษ คือก็เข้าใจว่าเค้าอาจจะรู้สึกว่าเค้าก็เขียนแบบนี้ของเค้าอยู่แล้ว ทำไมต้องโลกสวยอะไรขนาดนั้น พูดนิดพูดหน่อยไม่ได้เหรอ แต่แจมก็เฉยๆ นะ คือก็ขอโทษแล้วก็ขอโทษกันไป เราก็ลบที่หนูโพสต์ว่าเค้า ตอนนี้ก็จบแล้ว ส่วนตัวแค่ไม่ชอบให้ใครมาพูดคำหยาบคายใส่เรา คือแค่รู้สึกเหมือนกับว่าถ้าแค่เป็นคนที่มาคอมเมนต์ตอบ อันนั้นคือคนธรรมดาเขียน เค้าเขียนกันอยู่แล้ว เราไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่ว่าเค้าเป็นเหมือนแอดมินเพจ เพจก็จะเหมือนกอสสิบดารา แล้วเพจเค้าก็ไม่ใช่เพจที่ตั้งขึ้นมาเฉยๆ แล้วไม่มีใครสนใจ เพจเค้าค่อนข้างที่จะเริ่มโด่งดัง เพราะฉะนั้นมันก็เริ่มจะมีความเป็นสาธารณะ มันไม่เหมือนเราโพสต์ในเฟซบุ๊ค แท็กเพื่อนเม้าท์ดารา มันไม่ใช่ส่วนตัวแล้ว คือมันไม่ใช่แค่แจมนะ แต่แค่รู้สึกว่า พอมันมีความเป็นสาธารณะ เราควรทำอะไรให้มันเป็นกลาง แล้วรอบคอบกว่านี้ มันไม่ใช่ว่าจะเขียนว่าใครก็ได้ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเขียน คือตอนนี้เราก็โอเคแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าคือเราเห็นแล้วมันปรี๊ด เอาตรงๆ ตั้งแต่เข้าวงการมา ก็ไม่เคยที่จะเห็นเว็บไหนที่เกี่ยวกับกอสสิบดารา เขียนคำหยาบลงไปในเว็บไซต์ตัวเองเลย คือเพิ่งมาเห็นเพจนี้ แซวแรงไม่ว่า จะกัด จะจิก อะไรแต่ไม่ชอบคำที่ใช้

    เราว่าคงไม่มีอีกแล้วค่ะ แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะเราก็ไม่ได้อยากให้ใครมาทำข่าวเราในมุมแย่ๆ แต่ส่วนตัวไม่ใช่คนอ่านเพจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว แต่อันนี้คนส่งมาเยอะมาก จนเรารู้สึกว่ามันคืออะไร ทำไมทุกคนต้องส่งมาให้เรา เราก็เลยเห็น ก็อย่างที่บอก คือไม่เคยเห็นเว็บไหน ที่เขียนเรื่องดาราแล้วเขียนด้วยคำหยาบคายขนาดนี้ ก็งงค่ะ

    ส่วนคนที่เข้ามาคอมเมนต์ คนเราก็นานาจิตตัง เราห้ามความคิดคนไม่ได้ แต่ว่าบางทีเดี๋ยวนี้คนไทยก็อ่านหนังสือน้อยลงนะ พิมพ์ไป 10 บรรทัด อ่านแค่ 3 บรรทัด บางทีคนเราก็ควรที่จะเสพข่าวอย่างมีวิจารณญาณมากกว่านี้ หรือเวลาที่เราจะเขียนอะไร เราควรที่จะรอบคอบมากกว่านี้ เพราะเดี๋ยวนี้มันก็มีเหมือนกัน ถึงคนธรรมดาเขียนว่าเรา เราก็ฟ้องเค้าได้นะ มันเป็นกฎหมาย แต่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ แล้วก็เห็นว่ามีดาราหลายคนที่ออกมาทำ เพราะมันก็เหมือนเป็นสิทธิของเรา คือจริงๆ เวลาเราพูด เราพูดกันในกลุ่มเพื่อน หรือที่ส่วนตัวดีกว่า มันไม่จำเป็นต้องเป็นที่สาธารณะอะไรขนาดนั้น