วิธีเลี้ยงแบบฉบับ “จูน กษมา” การรับมือกับลูกๆ “4 ออ”

วิธีเลี้ยงแบบฉบับ  “จูน กษมา” การรับมือกับลูกๆ “4 ออ”       

    ต้อนรับเดือนแห่งวันแม่ เปิดเรื่องเล่าความผูกพันระหว่างคุณแม่ยังสวย  "จูน กษมา ศิลาชัย"  กับลูกๆ “ออกัส ศิศิรา ศิลาชัย” , “ออก้า นครา ศิลาชัย” , “ออกู๊ด นครินทร์ ศิลาชัย” และ “ออ4” ที่กำลังจะมา 

    เดินทางเข้าสู่เดือนสิงหาคมเป็นที่เรียบร้อย และแน่นอนว่าหลายคนคงทราบดีว่าเป็นเดือนแห่งวันแม่ ซึ่งบรรยากาศก็จะอบอวลไปด้วยความรัก ความผูกผัน ระหว่างแม่ลูก มีโมเมนต์สุดประทับใจออกมาได้เห็นในช่วงวันแม่ รวมถึงบรรดาคนบันเทิงที่มักจะมีโมเมนต์และเรื่องเล่าสุดอบอุ่นในแบบฉบับครอบครัวขอองตนเองออกมาให้ได้ติดตามกัน โดยทาง “ดาราเดลี่” ก็อยากจะชวนแฟนๆ มาเติมเต็มความรักในเดือนแห่งวันแม่ผ่านบทสัมภาษณ์ความรู้สึกของคนบันเทิงกับความผูกพันกับคุณแม่สุดเลิฟกัน 

    ในวันนี้ก็มาถึงคิวของคุณแม่ยังสวย  "จูน กษมา"  กับลูกๆ “ออกัส” , “ออก้า” , “ออกู๊ด” และ “ออ4” ที่กำลังจะมา ซึ่งเธอก็ได้ออกมาเล่าถึงความผูกพันระหว่างกันและกันว่า

    เลี้ยงจากสัญชาตญาณของตัวเองที่เลี้ยงเป็นแพทเทิร์นเดิม ตามนิสัยของเรา เลี้ยงก็เหมือนเดิม แต่ให้อยู่ในพื้นฐานความถูกต้อง เป็นเด็กดี อย่าง “ออกู๊ด” 11เดือนเราก็จะใส่ใจเขามากกว่า เพราะเขาเป็นเบบี๋ เด็กๆ ก็ไม่มีอิจฉากัน อย่างที่เราท้อง “ออกู๊ด” ก็จะพยายามให้พี่ๆ มาเล่นกับน้องตั้งแต่อยู่ในท้อง มาทาครีมที่ท้องให้ อย่างตอนนี้ก็มีออที่4 ก็จะพยายามให้เขามาเล่นกับตรงท้อง แล้วก็คอยบอกเขา คนอื่นชอบบอกว่าถ้ามีแบบนี้ลูกคนกลางจะมีปัญหา ก็คิดว่าไม่นะ เพราะมันอยู่ที่เราเลี้ยง และเราก็ไม่ได้แบ่งแยกอะไร เพราะสังเกตจาก “ออก้า” รัก “ออกู๊ด” จากในคลิปก็จะเห็น อ่อนโยน ก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าทำไมเขารักน้องจัง ดูแล้วไม่มีปัญหาตอนนี้ 

      ด้านเรื่องเรียนก็จะให้เขาเรียนเต็มที่เลย อย่างถ้าเวลาเรียนก็ต้องไปเรียน ถ้ามีชนงานก็จะให้เลือกไปเรียน ให้เขาได้อยู่กับการเรียน กับสังคมเพื่อนที่โรงเรียน เพราะรู้สึกว่าการอยู่ที่โรงเรียนทำให้เป็นเด็กดีกว่าที่บ้าน ก็อยากให้ได้ใช้สังคมภายนอกทำให้เป็นตัวของตัวเอง อย่าง “ออกู๊ด” ก็พัฒนาตามเกณฑ์ปกติ มีเสริมให้นิดๆ หน่อยๆ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ “ออกัส” และ “ออก้า” ก็จะให้เรียนพิเศษ ศิลปะ ดนตรี หรืออย่างเทควันโด เพราะวิชาการก็คิดว่าได้ตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้ว เสาร์-อาทิตย์ก็จะให้เล่นอยู่กับธรรมชาติมากกว่า 

     ความยากของการเลี้ยงลูกหลายคนก็ต้องมีการวางแผนว่าจะทำอะไร ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆ กัน แต่จะมีวิธีการพูด อย่าง “ออกัส” ก็จะคุยแบบผู้หญิงๆ คุยกันอธิบายกัน อย่าง “ออก้า” เวลาที่เขาทำผิด เราก็ต้องมาคิดว่าจะพูดยังไงให้เขาเข้าใจ ไม่ฝืนกับเรา เพราะเป็นเด็กผู้ชาย ก็ต้องมานั่งคิดละว่าจะยกเหตุผลยังไง ตอบโต้กับเขา แต่เอาจริงๆ แล้ว ความเป็นแม่มันก็ได้หมด ไม่ต้องไปคิดเยอะจะเหนื่อย ถ้าเราคิดว่ามันเหนื่อย มันก็จะเหนื่อยตามที่เราคิด ปล่อยไปเป็นธรรมชาติ ค่อยแก้ปัญหาไปทีละเรื่อง ทีละวัน เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพราะความเป็นแม่มีอยู่ในตัวอยู่แล้ว 

     ตั้งแต่มีเด็กๆ ชีวิตก็เปลี่ยนเลย เปลี่ยนจากใจร้อนเป็นใจเย็น เปลี่ยนให้คิดมากขึ้น เปลี่ยนให้เป็นคนขี้บ่นมากขึ้น เปลี่ยนให้มองรอบข้างอย่างระวังมากขึ้น ก็เป็นคนติดลูก แต่ไม่ได้ติดงอมแงม แต่มันเหมือนเราต้องคิดแทนเขา 24 ชั่วโมง ทั้งสามคนเหมือนติดในสายเลือด เราเลือกแล้วที่จะมีลูก 4 คน เราก็ต้องยอมรับ เราก็เอามาปรับในชีวิตประจำวัน มันเลยสมูทไปเรื่อยๆ สามารถแบ่งเวลาได้ สามารถมีกิจกรรมให้ลูกโดยไม่มีเบื่อ ก็พาไปทำกิจกรรมด้วยกันครอบครัว ถามว่าผูกพันมั้ยมันก็อยู่แล้ว เพราะถึงแม้เราจะต้องทำงานไปด้วย เราก็ต้องเช็กว่าเขาเป็นยังไง คอยเช็กกับพี่เลี้ยง น้องทำอะไร กินอะไร อยากกินอะไร ซื้อกับข้าวเตรียมไว้ แล้วก็ต้องนอนกับเขาตลอด อยากดู อยากเห็นพัฒนาการเขา ไปจนเขาโต ให้เต็มๆ ที่เลย ไปอีก 10 กว่าปี “ออก้า” อาจจะถือกีต้าร์ไปสยาม ไปส่งมันเรียนพิเศษสยาม อะไรแบบนี้ เพราะเวลามีแค่นี้มันเร็วมาก พยายามอยู่กับเขาให้ได้เยอะๆ พยายามให้เขาเห็นสิ่งที่ดีๆ จากเรา จะได้เห็นติดชินเป็นนิสัยของเขา 

     ถ้าเขาโตขึ้นก็ห่วง แต่ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น เพราะถ้าคิดมันก็จะเครียดกับตัวเรา อย่างตอนนี้ถ้าเป็นพ่อแม่เราก็ยังเอาไม่อยู่เลย แต่ตอนนี้ลูกเป็นเด็กก็พยายามใส่ความเป็นคนดีให้เขา ทำยังไงให้อยู่ในสังคมไม่เดือดร้อนคนอื่น และเอาตัวเองให้รอด พยายามใส่ตอนนี้ เพราะถึงตอนนั้น ก็ตัวใครตัวมันแล้ว จะไปคอยคุมคอยสั่งตลอดจนโตไม่ได้ อย่างในระยะสิบปีก็พยายามสอนให้เป็นคนดียังไงใส่สมองเขา เอาให้เต็มที่ 

      ถามว่าจะให้น้องๆ เข้าวงการเต็มตัวมั้ย ก็ยังไม่ได้คิด ยังไม่ได้วางแพลนอะไรให้ลูกเลย เรากับพี่ “เปิ้ล” ก็ไม่เคยคิด อย่างงานที่รับทำในปัจจุบัน ก็พยายามไม่ให้เกินความสามารถเขา งานที่ไม่เกินอายุ ไม่จริตเกินไป ดูเป็นธรรมชาติในตัวเขา ถามว่าอนาคตเขาโอเค ก็แล้วแต่เพราะถ้าอยากทำอะไรก็ทำ แต่ถ้าถามก็ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ตอนนี้ยังเด็กยังพูดไม่รู้เรื่องเลย ยังอีกยาวไกล