“น้ำตาล” สุดซาบซึ้ง “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน” ทรงชื่นชมหลังเป็นตัวแทนคนไทยเข้าประกวด MU

“น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ทรงชื่นชม ภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย หลั่งน้ำตาปลื้มใจการต้อนรับกลับไทยอย่างอบอุ่น

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 “น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์” สุดซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ ที่ทรงชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนประเทศไทย ซึ่ง “น้ำตาล” ซาบซึ้งในพระกรุณาอย่างที่สุดในชีวิต โดยเธอได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกลางสนามบินสุวรรณภูมิหลังกลับจากการประกวดที่ประเทศฟิลิปินส์และเผยความรู้สึกว่า

วันนี้ (31 มกราคม 2560) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 15.25 น. “ชลิตา ส่วนเสน่ห์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 เดินทางกลับไทยจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมี “นายชาติชาย อุทัยพันธ์” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ “นางฉฎาณิศา ชำนาญเวช” รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) “นายบุญเทียม โชควิวัฒน์” ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอาการศยานสุวรรณภูมิ พร้อมครูอาจารย์และนักเรียนโรงเรียนเจริญวิทยาคม สมุทรปราการ และเหล่าแฟนคลับและกองทัพสื่อมวลชนที่มารอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดย “นาง ฎาณิศา ชำนาญเวช” รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 2) ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีต่อ “ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

น้ำตาล มิสยูนิเวิรส์ไทยแลนด์ หลังประกวด ประกวดมิสยูนิเวิรส์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน

โดย “ชลิตา” ได้กล่าวว่า ตนเองเพิ่งทราบว่า “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี” ทรงชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวเเทนประเทศไทย ซึ่งตนเองซาบซึ้งในพระกรุณาอย่างสูงสุดในชีวิต เพราะไม่คิดมาก่อนว่าพระองค์ท่านจะให้ความสนใจและเชียร์ พร้อมทั้งขอขอบพระคุณ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และผู้ใหญ่อีกหลายๆ ท่านที่ได้ชื่นชมในตัวเธอ รวมถึงคนไทยทุกคนที่ได้ให้กำลังใจ ตลอดการไปประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2016 ซึ่งเธอภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้อย่างยิ่ง ที่เกิดมาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีโอกาส ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ และขอขอบคุณแรงโหวตแรงเชียร์ จากพี่น้องชาวไทยทุกคน ทุกวงการที่ส่งกำลังใจมาตลอด เป็นความซาบซึ้งใจที่สุดในชีวิตและไม่เคยคิดว่าจะได้รับกำลังใจและความเอ็นดูมากขนาดนี้

ก็รู้สึกดีใจมากไม่คิดว่าคนจะมาให้กำลังใจเยอะขนาดนี้ สิ่งแรกที่อยากทำคือ อยากกินส้มตำมาก ซึ่งวันนี้มากับกระเป๋า 14 ใบ สำหรับประสบการณ์ที่ไปครั้งนี้ คือได้ไปในหลายๆ ที่เหมือนกัน ผู้คนน่ารักมาก ก็สนุกทุกวันเลย ช่วงที่ประกาศคนเข้ารอบสุดท้าย ก็ตื่นเต้นที่สุดคือได้เข้ารอบ 13 คน ว่าเราจะได้เข้าไหม ชื่อสุดท้ายจะเป็นเราไหม ก็คิดอยู่ในใจว่าต้องเป็น “ไทยแลนด์”

ส่วนคำถามที่ได้ยินครั้งแรก คือคิดถึงแค่ในหลวงรัชกาลที่ 9 คนเดียว เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ให้สัมภาษณ์ หรือขึ้นเวที จะไหว้ท่านก่อน เพราะท่านเป็นเหมือนกำลังใจให้เรา ส่วนตอนแต่งชุดชุดประชาติแล้วประหม่าขอทำผมเอง แล้วผมหลุด เลยต้องรีบไปทำ ซึ่งทำถึง 3 รอบ ทีมงานก็มาตาม กลัวไม่ทันมาก พอไปถึง ก็ประกาศชื่อไทยแลนด์พอดี เลยขึ้นเลย ก็ภูมิใจที่ใส่ชุดนี้ กับการประกวดครั้งนี้ไม่กดดัน เพราะสนุกกับมัน ไม่มีคำว่าเหนื่อย

ส่วนการได้ใจทุกคนนั้น เชื่อทำเต็มที่ทุกคน ทุกวันทำเต็มที่ แต่ก็แอบเสียดาย ก็มีพี่บอกว่าคนเชียร์เยอะ เลยทำเต็มที่ ก็จะเตรียมตัวตอนกลางคืนตลอดเพื่อให้ทัน ด้านเรื่องแพ้คะแนนโคลัมเบียแค่คะเเนนเดียว อันนี้ “น้ำตาล” ไม่รู้ ส่วนเรื่อง130 ล้านคะแนนโหวต ไม่คิดว่าทุกคนจะเชียร์ขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ขนาดนี้ ก็มีไปแก้บนหลายที่ เช่นพระพรหม ที่เดิม คือไปรำ 9 คน

สำหรับอนาคตต่อไปก็ต้องวางแผนอีกทีว่าจะทำอะไรต่อไป แต่อยากเรียนให้จบ ไม่แน่ก็ต้องย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ เพื่อเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย

เรื่องคำถามบนเวทีคือ ตื่นเต้นมาก “น้ำตาล” ทำเต็มที่แล้ว ทำเต็มที่ ที่สุดแล้ว เรื่องมีคนติก็ยังไม่ทราบ และอยากฝากถึงสำหรับคนที่ท้อถอย หมดกำลังใจ อยากให้เห็นคุณค่าของตัวเอง มุ่งมั่น “ตาล” คิดว่าทำอะไรแล้วตั้งใจก็จะประสบความสำเร็จได้ วันนี้ “ตาล” ขอขอบคุณทุกคนที่มารับก็ขอบคุณตั้งแต่วันแรกที่ร่วมเชียร์ ร่วมโหวต ตอนแรก “ตาล” กดดันมากที่มีกระแสด้านลบเข้ามา ขอบคุณที่ส่งแรงใจให้ตาลทำหน้าที่ตรงนี้ สุดท้ายอยากจะบอกแม่ว่า ถ้าไม่มีแม่ก็ไม่มี “ตาล” ในวันนี้ ขอขอบพระคุณแม่มากที่อดทนเลี้ยง “ตาล” มาถึงทุกวันนี้

สำหรับแผนงานต่อไปของเธอคือการไปเรียนต่อที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสารคาม พร้อมๆ การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะมิสยูยิเวิร์สไทยเเลนด์ 2016 ต่อไป ที่ตอนนี้อายุ 22 ปี กำลังศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชา ชีวทยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เธอเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งตลอดเวลาเก็บตัวในกองประกวด “ชลิตา ส่วนเสน่ห์” ได้รับการสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกที่ได้ติดตามทำข่าว และได้รับความรักและชื่นชมอย่างยิ่งจากผู้ติดตามกองประกวด รวมทั้งแฟนนางงามฟิลิปปินส์ที่ส่งเสียงเชียร์นางงามจากประเทศไทยไม่แพ้นางงามประเทศตนเอง

ซึ่ง “น้ำตาล” เป็นสาวงามคนแรกจากประเทศไทยในรอบ 28 ปีที่สามารถทะลุเข้าถึงรอบตอบคำถาม 6 คนสุดท้าย ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส โดยคำถามที่เธอได้รับคือ ใครคือผู้นำระดับโลกในอดีตหรือปัจจุบันที่คุณชื่นชอบหรือเคารพ ซึ่งเธอได้ตอบด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “บุคคลท่านนั้นคือในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอเห็นพระองค์ท่านทรงงานหนักมาตลอด และไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย และพระองค์ท่านก็เปรียบเสมือนพ่อของคนไทยทุกคน" ซึ่งคำตอบของเธอได้สร้างความประทับใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ