"แจม" รับมีค่ายดังทาบร่วมงานเพลง ไม่นอยด์ถูกมองลิปซิงก์ตลอด
"แจม ชรัฐฐา อิมราพร" หรือ "แจม เนโกะจัมพ์" รับงานละครเวทีเล่นยาก ไม่น้อยใจหลังถูกมองร้องเพลงไม่ได้ เวลาขึ้นคอนเสิร์ตต้องลิปซิงก์ วางแพลนงานหลังหมดสัญญาอยากทำงานเพลงในแนวตัวเอง
อีกหนึ่งนักร้องสาว "แจม ชรัฐฐา" หรือ "แจม เนโกะจัมพ์" ที่ล่าสุดเธอมีผลงานละครเวทีเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งงานนี้ไม่รู้ว่า "แจม" จะต้องเตรียมตัวมากน้อยขนาดไหน เพราะในเรื่องเธอต้องร้องเพลงพระราชนิพนธ์หลายเพลง โดยเธอเล่าความรู้สึกต่องานชิ้นนี้ พร้อมทั้งเผยความในใจหลังถูกมองว่าร้องเพลงไม่ได้ ต้องลิปซิงก์เวลาขึ้นคอนเสิร์ตว่า
"ถามว่าน้อยใจไหมที่คนมองว่าร้องเพลงไม่ได้ ไม่เชิงน้อยใจ แต่บางทีรู้สึกเซ็งนิดๆ เพราะมันมีหลายครั้งที่เนยกับแจมร้องสดทุกครั้งที่เล่นคอนเสิร์ต แต่คนชอบคิดว่าลิปซิงก์ ร้องเพลงไม่เป็นอะไรอย่างเนี้ย คือเราเรียนร้องเพลงมาบางทีรู้สึกแบบว่าเซ็งจัง เวลาไปเล่นคอนเสิร์ตพวกพี่เขาจะมาเล่าให้ฟังว่า ยืน Mix ไมค์เนยกับแจมอยู่ คนที่มาดูคอนเสิร์ตอยู่ข้างๆ มีบอกว่าลิปซิงก์ (หัวเราะ) แต่มองอีกมุม เราคิดในแง่ดีดีกว่า มันคงดูดีมากจนคิดว่าเราทำไม่ได้อย่างนั้น
สำหรับที่คนมองว่าเปลี่ยนจากร้องแนวใสๆ มาเป็นร้องละครเวที ซึ่งงานนี้เราดีใจมากที่มีโอกาสแสดงบางสิ่งบางอย่างที่ทุกคนไม่คิดว่าเราจะทำได้ บางทีรู้สึกอัดอั้นเพราะคนจะคิดว่าร้องแต่เพลงอะไรก็ไม่รู้ บางทีเราไปเล่นคอนเสิร์ตยังคิดว่าลิปซิงก์เลย พอได้มีโอกาสมาเล่นละครเวทีทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องร้องสด และเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ด้วย มันร้องยากมากเหมือนกัน เพราะว่าโน้ตที่พระองค์ประพันธ์ขึ้นมามันเป็นโน้ตที่ต้องใช้สกิลในการฟังเยอะมาก ไม่งั้นจะเพี้ยน และมีความยาก พอเราได้มีโอกาสมาเล่น รู้สึกดีที่ทำให้คนเห็นด้วยว่าสามารถร้องเพลงได้ อีกส่วนนึงรู้สึกดีใจที่เป็นเพลงของในหลวงด้วย มีหลายเพลงมากๆ ที่หลายๆ คนไม่รู้จัก แต่เราได้มีโอกาสร้องเพลงนั้นของพระองค์ด้วย รู้สึกอยากร้องให้เพราะที่สุด แล้วอยากให้ทุกคนได้มารับรู้ ไม่กี่เพลงที่คนไทยจะคุ้นกัน มีอีกหลายเพลงที่เราไม่อยากให้ถูกลืมไป
งานละครเวทีที่เราเล่นยากเหมือนกัน เพราะจะเป็นภาษาที่ไม่ค่อยเหมือนคุยกันปกติ คำมันจะยากหน่อย แล้วเนื้อหาในบทละครจะสอดแทรกคำสอนในหลวง ร.9 ความพอเพียงเกี่ยวกับการเกษตร ทำนา ทำไร่ ให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร จะเป็นคำสอนของพระองค์ท่านหมดเลย เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยแบบไม่ให้แตกแยก มันจะค่อนข้างไกลตัวเลยจะยากนิดนึง และใช้เวลาซ้อมประมาณ 2 เดือน
ในเรื่องจะมีศิลปินแห่งชาติและครูเพลงหลายท่านที่ให้เกียรติไปร่วมแสดง ก็จะมีคุณครูแอน นันทนา บุญหลง ที่มาร่วมแสดงด้วย แล้วก็จะมีคุณอาวินัย พันธุรักษ์ ด้วย เราตื่นเต้นเหมือนกัน อย่างคุณครูแอน ทุกคนจะรู้ว่าเขาเป็นครูของครู แล้วเราจะต้องร้องเพลงกับเขาด้วย ตอนแรกรู้สึกเกร็งมากเลย กลัวทำได้ไม่ดี กลัวโดนว่า แต่ว่าคุณครูแอนน่ารักมาก
กระแสของละครเวที ทุกคนที่ไปดูบอกว่าดี เพราะทุกคนที่ไปดูเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นละครเวทีเทิดพระเกียรติ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการนำบทเพลงพระราชนิพนธ์มาทำเป็นละครเวที นำคำสอนของท่านมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราว เป็นละครเวทีที่ดูแล้วจะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เป็นเพลงของในหลวงที่ทุกคนได้ฟังแล้วจะน้ำตาซึม ด้านหวานใจเขาก็รอดู มีบอกว่าออกมาหรือยัง ฉากไหน และให้กำลังใจ จริงๆ เขาไม่ค่อยชอบดูพวกละครเวทีเท่าไหร่ แต่เขามา ความรักตอนนี้ก็ดี เรื่อยๆ แต่พี่เขาทำงานยุ่ง จะไม่ค่อยได้เจอสักเท่าไหร่ จะเป็นแบบไม่ค่อยหวือหวามาก
ส่วนแผนหลังหมดสัญญา แจมเองน่าจะหันไปทำฝั่งละครมากขึ้น ส่วนงานเพลงยังอยากทำอยู่ แต่อาจจะไม่ได้ไปเซ็นกับค่ายทำอะไรอย่างนี้ ถ้ามีโอกาสโปรเจ็คท์พิเศษหรือได้ไปร่วมร้องกับใคร ใครเชิญให้ไปร้องด้วยก็ยินดี คิดว่าจะทำเพลงเองเล่นๆ ทำกับเพื่อน พอดีว่ามีเพื่อนเป็นนักแต่งเพลงอยู่ อยากทำเอง อาจจะทำลงยูทูบให้คนหายคิดถึง ส่วนเรื่องที่มีข่าวทางค่ายของน้องพิกเล็ตมาทาบทามให้ไปร่วมร่วมงานเพลง เห็นมีถามเหมือนกันว่าสนใจมาร่วมไหม อยากทำเพลงไหม เราบอกเขาไปตรงๆ แล้วว่าขอคิดดูก่อนแล้วกัน
ด้านอนาคตคิดว่าอยากจะทำเพลงในแบบที่ตัวเองอยากทำมาตลอด อย่างที่เป็น 'เนโกะจัมพ์' มา มันเป็นเพลงที่ได้รับมาจากผู้ใหญ่ เขาบอกไว้ว่าเขาอยากให้เป็นลุคนี้ ซึ่งมันไม่ใช่ตัวตนเราเท่าไหร่ หลังจากนี้เรามีโอกาสอิสระ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำมากขึ้น คงทำเพลงที่มีความเป็นตัวเอง
สุดท้ายต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ยังรอติดตามผลงาน มีหลายคนบอกเหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะกลับมาร้องเพลงอีก มีผลงานอีกไหม ต้องขอบคุณทุกคนที่ยังไม่ลืมกัน ถ้ามีโอกาสจะทำผลงานออกมาให้ทุกคนเห็นกัน"