“เก้า” แจงดร็อปเรียนเหตุงานในวงการเยอะ โต้ข่าวลอกข้อสอบ-เทอมล่าสุดเกรดแตะเลข 3
“เก้า สุภัสสรา ธนชาต” เคลียร์ชัดประเด็นนักแสดงสาว “ฮอร์โมน” ลอกข้อสอบเพื่อนจนถูกพักการเรียน
เกิดเป็นประเด็นดราม่าสุดร้อนในสังคมโซเชียลเมื่อมีข่าวลือนักแสดงสาว “ฮอร์โมน” ถูกพักการเรียนหลังลอกข้อสอบเพื่อน ซึ่งหลังจากที่ข่าวถูกเผื่อยแพร่ออกไป หนึ่งในนักแสดงสาวอย่าง “เก้า สุภัสสรา” ก็ถูกจับตามอง โดยตอนนี้เธอกำลังศึกษาอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ งานนี้ทาง “ดาราเดลี่” ได้ติดต่อเพื่อจะพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าวกับสาว “เก้า” โดยเธอได้เคลียร์ประเด็นนี้ให้ฟังว่า
ส่วนตัวตนได้เห็นข่าวมาบ้าง มีคนคาดเดาไปเยอะ ตนเองรู้สึกว่าทำไมถึงดูเจาะจงมาที่ตน เพราะว่าเหมือนตนเป็นคนเดียวที่ดร็อปเรียน ส่วนสาเหตุตอนนั้นที่ตัดสินใจดร็อปเรียน เพราะด้วยความไม่พร้อม อย่างที่ผ่านมาถ้าคนได้เห็นและติดตามมาตลอดจะมีงานหนังและงานละคร ที่ถ่ายมาเยอะ อย่าง “O-Negative” ถ่ายอยู่ประมาณ 7-8 เดือน ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ กับการเรียนและการทำงานไปด้วยได้เพราะเนื่องจากแบบคณะตนต้องลงวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย เป็นวิชาแบบโฮเทล เมเจอร์เป็นโฮเทล ตนจะลงไม่ได้ แต่ว่าเก็บวิชาอื่นๆ ไปหมดแล้ว แต่เหลือแค่โฮเทล เพราะลงเสาร์-อาทิตย์ไม่ได้
สำหรับการเรียนของตนจะขาดเรียนไม่ได้เลย เพราะมหาวิทยาลัยมีคะแนนแอดเทสชั่น ซึ่งถ้าไม่เข้าคือหนักเหมือนกัน บ้างทีเข้าไปในคลาส เขาจะทำงานเป็นกลุ่ม แล้วตนไม่ได้เขาไปเหมือนไปกินแรงเพื่อน ถ้าเกิดเพื่อนช่วย ตนไม่อยากจะให้เป็นอย่างนั้น หรือเหมือนตนไม่ได้ทำอะไรเลย
ตอนที่จะดร็อปเรียนคิดเยอะไหมนั้น จริงๆ คิดมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงปี 2 แล้ว แต่ที่ตนมาดร็อปตอนปี 4 เทอมแรก ตอนแรกคิดว่าดร็อปมันไม่มีอะไร แต่มันมีละครต่อมาเรื่อยๆ แล้วนี่เดี๋ยวช่อง 3 ก็มีมาอีก 2 เรื่องด้วย เลยไม่รู้จะยังไงก็เลยเลือกที่จะดร็อปปีนี้
พอตอนนี้มีข่าวนี้ตรงกับช่วงที่ตนดร็อปพอดี ก็เฟลเหมือนกัน บางทีมันก็เหนื่อยเหมือนกัน ทำงานทั้งวันมันเหนื่อยมากแล้ว ตนทำงานก็แฮปปี้กับงาน แต่พอมาเจออะไรแบบนี้ ก็รู้สึกแย่ที่คนมันไม่เข้าใจตน เพื่อนที่คณะเขาส่งมาให้ดู คือคนที่สนิทกับตัวเราจะรู้ว่าไม่ใช่แบบนั้น คนที่รู้โอเคเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนคนที่พูดก็ไม่รู้ว่าเขารู้จริงไหม คนที่ออกมาพูดเป็นคนที่รู้จริงรึเปล่า แล้วคุณไม่ได้อยู่ภายใน คุณเอามาจากไหน คุณเป็นเจ้าหน้าที่โครงการหรือเปล่า คุณก็ไม่ใช่เพื่อนในห้อง (หัวเราะ) ตนไม่ได้สนิทกับคนทุกคน เลยไม่สามารถที่จะอธิบายให้คนทุกคนหรือคนในห้องหรือคนในคณะฟังได้ ตนไม่สามารถอธิบายให้หมดได้ คนที่ไม่ชอบมันก็มี คนที่ชอบก็มี มันไม่สามารถที่จะอธิบายให้ฟังได้ทุกคน
ส่วนเรื่องทะเลาะกับเพื่อนในคณะ ตนงงมากไม่เคยทะเลาะกับใคร ต้องบอกก่อนว่าทำงานเยอะมาก แล้วเวลาไปทำงาน ไปเรียน ตนเข้าไปเรียนเสร็จ จะรีบกลับ เอาจริงๆ ตนไปสาย ออกจะบ่อยด้วยซ้ำต้องออกก่อนบ่อยด้วยซ้ำ ไม่มีอารมณ์ที่แบบเรียนเสร็จแล้วเพื่อนไปห้างกันแล้วตนได้ไปด้วยกัน แล้วอยากไปกินข้าวกับเพื่อนที่นั่น ตนไม่ได้ไปเลย ได้กินแค่ข้าวกลางวันประมาณช่วงต่อที่จะต้องเรียนบ่ายต่อ เช้าเรียนเสร็จแล้วก็เรียนบ่าย แล้วแค่ได้กินแค่ข้าวกลางวันกับเพื่อนแค่นั้น แล้วเวลาที่ไปกินกับเพื่อนกินปกติมาก ถ้าคนจะเห็นว่าตนไปกินที่คณะวิศวะบ่อยมาก เพราะว่าคณะไม่มีโรงอาหาร แล้วคณะวิศวะ คือคณะที่ใกล้ที่สุด ไปกินที่นั่นและอาหารก็เยอะที่สุด ถ้าคนเห็นบ่อยก็คือจะเห็นที่นั่น ตนงงว่าจะไปทะเลาะกับใครในคณะ
.jpg)
ด้านแฟนคลับคิดว่า ความจริงมันคือความจริง เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตายคิด พูดในสิ่งที่มันเป็นความจริง มันก็ต้องมีอยู่แล้วที่ข่าวจะออกมาเป็นแบบนี้เรื่องในแง่ลบ มันออกมาแบบคนรู้สึกว่ามันจริงรึเปล่า มันต้องมีทั้งเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่สุดท้ายตนตอบที่เป็นความจริงก็แล้วแต่สิทธิ์ของเขา ว่าเขาจะเชื่อข่าวลือหรือจะเชื่อจากปากตน มันทำบังคับให้ใครคิดเหมือนตนไม่ได้ให้เชื่อในสิ่งที่เราพูด มันก็ไม่สามารถบอกได้ทุกคน คนรักก็มีคนเกลียดก็มี
สำหรับคนที่ให้กำลังใจขอขอบคุณจริงๆ รู้ว่าเวลาตนมีปัญหา เวลามีเรื่องราวแย่ๆ แต่ยังมีคนเชื่อมั่นในตัวของเราอยู่ว่าไม่ได้ทำ หรือว่าเชื่อมั่นอยู่ว่าแท้จริงแล้วตนเป็นคนยังไง บางคนไม่รู้จักตน แต่เขาเชื่อว่าตนไม่ใช่คนแบบนั้นขอบคุณจริงๆ เพราะว่าแบบตนก็ไม่รู้ว่าจะขอบคุณเขายังไง เพราะบางทีแบบเขาไม่รู้จักเลยเขายังเชื่อในตัวของตน ต้องขอบคุณเขามากๆ สุดท้ายแล้วมันคือกำลังใจ สิ่งที่เจอปัญหาแล้วกว่าที่จะก้าวข้ามมันไปได้ มันคือกำลังใจจากคนรอบข้างทั้งนั้น แล้วสุดท้ายแล้วตนได้กำลังใจจากทุกคน แต่แบบไม่ให้กำลังใจตัวเองชีวิตมันก็แย่ มันจะก้าวข้ามต่อไปไม่ได้
ด้านลุคในละครที่มันดูร้ายๆ อาจมองว่าไม่ตั้งใจเรียน จริงๆ มันเป็นแบบนั้น แต่ตนจะบอกว่าเกรด 3.14 ตนงงว่าทำไมมันเป็นแบบนี้โดยตนตั้งใจเรียนมาตลอด แบบลงเรียนมหาวิทยาลัยก็สอบเข้ามา สอบเข้าก็ไม่เคยตุกติกหรืออะไรเลย ทุกอย่างคือก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน มันยากที่จะให้ทุกคนเชื่อ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ใครรู้จักตัวเราได้ดีทุกคน
ส่วนผลงานตอนนี้ก็ถ่าย “คมแฝก” แล้วมีถ่ายอีกเรื่องนึงจะเปิดทางช่อง 3 พฤษภาคมนี้ ก็เครียดเหมือนกันยังไงต้องลงให้เร็วที่สุดหมายถึงว่าลงวิชาให้เร็วที่สุด ด้านละครเรื่องใหม่ก็รอช่องบอก ก็คุยกันไว้คร่าวๆ ว่าคงเหนื่อยเพราะต้องถ่าย 2 เรื่องแล้วต้องลงเรียนซัมเมอร์ด้วย
ก็ต้องขอบคุณทางพี่ “ดิว” หรือทางคุณ “สมรัก” คือเขาแบบให้โอกาสตนมากๆ ตั้งแต่ตัวเล็กๆ ไม่ได้เก่ง แต่เขาก็ให้โอกาสแบบมาทำแบบทดลองอะไรใหม่ๆ ซึ่งมันก็เป็นงานที่ยากขึ้น แล้วเห็น “O-Negative” มันยากแล้วมีดราม่าเยอะ ความที่มันละครมันแบบต้องชัดต้องเล่นให้มันเยอะที่สุด ไม่งั้นคนดูจะไม่รู้สึกอย่างนั้น มันเลยมีความแตกต่างที่ตนเล่นมาด้วยคำพูดด้วยเพราะเป็นวัยรุ่นมันยาก แบบควบกล้ำ
ด้านเรื่องเรียนแอคติ้งตนเองไปเรียนเอง แต่ว่าทางช่องไม่ได้ส่งไป แต่เคยปรึกษากับทางช่องว่าอยากจะให้เรียนกับใครบ้าง ก็สนใจอยากไปเรียนกับ “หม่อมน้อย” บ้าง แต่ยากเหมือนกันเพราะตนก็ยุ่งๆ เลยลงเรียนเองเพราะยังรู้สึกว่าตนยังอ่อนๆ มากๆ ถ้าไปเทียบกับพี่เขา ถือว่ายังเป็นเด็กน้อยมากๆ เลย อยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ส่วนได้ร่วมงานกับรุ่นพี่ในวงการ ได้เรียนรู้จริงๆ เรียนรู้วิธีการทำงาน น่าชื่นชมมากๆ เพราะแต่ละคนรับละคร 2-3 เรื่อง ถามว่าเขาไหวได้ยังไง เขาแยกกันยังไงเขาทำการบ้านกันยังไง เขามีแนะนำเทคนิคให้ตน
