“แพท” ยังไม่กล้าพาลูกเจอ “เบนซ์” เปิดใจรับมีคิดถึงสามีถึงขั้นร้องไห้

“แพท” ยังไม่กล้าพาลูกเจอ “เบนซ์” เปิดใจรับมีคิดถึงสามีถึงขั้นร้องไห้

0

แพทยังไม่กล้าพาลูกเจอเบนซ์” เปิดใจรับมีคิดถึงสามีถึงขั้นร้องไห้

 

 

          เปิดใจ "แพท ณปภา ตันตระกูล" เคลียร์ดราม่าพร้อมอัพเดทชีวิตครอบครัว รับมีคิดถึงสามีถึงกับร้องไห้ ยังไม่พร้อมพาลูกน้องเรซซิ่งเข้าเยี่ยมพ่อ

          หลังจากรับมือกับมรสุมใหญ่ในชีวิต ทั้งเรื่องคดีความของสามีที่พัวพันกับการค้ายาเสพติด และการฟอกเงิน และข่าวหลังทางช่องต้นสังกัดของเธอจะปลดออกจากงานพิธีกร เมื่อมีโอกาสเจอกับคุณแม่คนเก่ง "แพท ณปภา" เธอก็อัพเดทถึงสภาพจิตใจในตอนนี้ พร้อมทั้งเรื่องชีวิตครอบครัว และหน้าที่การงาน ให้ฟังว่า

          "ช่วงนี้หน้าที่หลักคือเป็นแม่ที่ดีให้กับน้องเรซซิ่ง เป็นทางเลือกเดียวที่จะต้องทำให้ดีที่สุด เรามองว่าคนอื่นก็คงเจอปัญหาเหมือนกัน เขายังผ่านกันไปได้ เรายังมีกำลังใจจากครอบครัว และลูกที่น่ารัก ยอมรับว่าคิดถึงสามี (เบนซ์ เรซซิ่ง) จนร้องไห้บ้าง เพราะร่วมทุกข์สุขมาด้วยกัน คนที่เคยอยู่ด้วยกัน คนเคยเลี้ยงลูกด้วยกัน และลูกชายก็หน้าเหมือนพ่อ ก็อดคิดถึงไม่ได้

          ด้านเบนซ์ก็คิดถึงลูก เมื่อไปเยี่ยมเขาจะถามว่าเลี้ยงลูกคนเดียวเหนื่อยไหม อยากออกมาช่วย สุขภาพจิตของเบนซ์แข็งแรงขึ้นมาก ทุกครั้งที่ไปเขาจะยิ้ม เขาจะถามว่าลูกดื้อไหม งอแงไหม ลูกทำให้เขามีแรงที่จะสู้ ในใจเขาอยากเจอลูก แต่ยังไม่กล้าเจอ เพราะถ้าเขาเจอแล้วไม่ได้อุ้ม ไม่ได้กอด มันก็จะยิ่งคิดถึง อยากพาลูกไปแต่เขาห้ามไว้ บอกอย่าเพิ่งเลย เพราะกลัวทำใจไม่ได้ เราให้กำลังใจ ให้นึกถึงลูกเยอะๆ สักวันต้องเป็นวันของเรา คนอื่นเจอหนักกว่ายังผ่านมาได้

          สำหรับน้องเรซซิ่งเองยังเด็กมาก ยังไม่รู้เรื่องอะไร ก็จะมีช่วงแรกๆ ที่จะมองๆ เห็นหน้าผู้ชายก็จะมองๆ แต่เสียงของพ่อเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครเลียนแบบได้ เราพูดกับลูกทุกวัน ทำอย่างนี้ไม่ได้ พ่อไม่ชอบ ทำเหมือนอยู่ด้วยกัน ถ้าว่างจะไปหาพ่อเขาบ้าง

          ด้านคดีตอนนี้ตนยกให้เป็นหน้าที่ของทางทนายเป็นหลัก ส่วนของเราอาจจะต้องมีรายงานตัวก็ต้องไปรายงานตัว ไปฟังจากศาลเรื่องความคืบหน้าของคดี ไม่มีกังวลอะไร ทำตามหน้าที่ ทั้งเรื่องเอกสาร เรื่องข้อมูล ทางเราก็พร้อมหาให้อย่างเต็มที่

          ส่วนเรื่องโดนปลดจากงานที่กังวลก่อนหน้า ก็ดีขึ้น อาจเพราะอยู่วงการนี้มานาน และเรื่องคดีก็เบาบางลงจากตอนแรกที่โดนตั้งข้อหาฟอกเงิน ยาเสพติดต่างๆ นานา ตอนนี้ไม่มีแล้ว ความกังวลเรื่องเหล่านั้นก็ลดลง ไม่ค่อยมีผลอะไรกับเรื่องงาน เราโชคดีที่ทุกคนเข้าใจ มันก็เลยทำให้ทุกอย่างค่อนข้างไปในทางที่ดีขึ้น

          ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าแม่อีเว้นท์ ส่วนตอนนี้แล้วแต่จะมีการติดต่อมา หากมีก็ไปแต่คงไปไม่นาน ด้วยการที่ลูกเรายังเล็ก เป็นห่วงเขา ส่วนอีเว้นท์คู่ลูกชายถ้างานไม่นานก็โอเค ด้วยความที่น้องเรซซิ่งไม่งอแง เข้าได้กับทุกคน และเราก็นำลูกชายไปทำงานด้วยตลอดเวลา เหมือนลูกเข้าใจ และน้องมีพัฒนาการดีมาก ใครถ่ายรูปก็ถ่ายได้ เล่นกล้องเหมือนคุณแม่ด้วย"

          เธอทิ้งท้ายว่า "สภาพจิดใจของเราพร้อมรับทุกสถานการณ์ คงไม่มีอะไรมากกว่านี้ หากผลตัดสินของศาลไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดไว้ ชีวิตตอนนี้ก็ 50-50 อย่างไรก็ได้หมดแล้ว ไม่หวั่นไหว"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments