"แพท" อัพเดทคดี "เบนซ์" รับเหนื่อยเป็นซิงเกิ้ลมัม
“แพท ณปภา ตันตระกูล” ลุ้นคำพูดแรกของน้อง “เรซซิ่ง" เผยเหนื่อยเป็นซิงเกิ้ลมัม พร้อมอัพเดทเรื่องคดีความ "เบนซ์ เรซซิ่ง"
อีกหนึ่งคุณแม่มือใหม่อย่างแม่ “แพท ณปภา” ที่จิตใจเริ่มเข้มแข็งขึ้นมาแล้วหลังเจอจากมรสุมชีวิต กรณีสามี “เบนซ์ เรซซิ่ง” เกี่ยวพันกับคดียาเสพติดในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเธอก็ยังได้รับโอกาส และทำงานในวงการตามปกติ เพื่อดูแลลูกชายวัยน่ารักอย่างน้อง “เรซซิ่ง” และครอบครัว โดยคุณแม่จะพาน้อง "เรซซิ่ง" ไปทำงานด้วยเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเจอดาราสาวที่ไหน ก็จะเจอลูกชายของเธอคู่กันเลยทีเดียว และล่าสุดทั้งคู่ก็ได้ออกอีเว้นท์ด้วยกันอีก เมื่อมีโอกาสเจอคุณแม่ “แพท” เธอจึงอัพเดทเรื่องพัฒนาการลูกชายวัย 4 เดือน และชีวิตส่วนตัวให้ได้ฟังกันว่า
สำหรับเรื่องลูกตนเลี้ยงเอง มีทั้งวิธีการแบบโบราณและวิธีสมัยใหม่ แต่ภารกิจใหญ่หลวงตอนนี้ คือ ให้ลูกชายเรียกชื่อคนในวงการให้ได้ ถ้าเรียก “เป่าเปา” ได้ จะได้ทอง 5 บาท ถ้าเรียกชื่อ “มดดำ” ได้จะได้แสนนึง และถ้าเป็น “จ๋า ยศสินี” จะได้ 5 หมื่น งานนี้ก็เรียกว่าไม่ต้องอำลาวงการกันแล้ว ให้ลูกเรียกชื่อคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ อาจารย์หมดได้บอกไว้ว่าเด็กจะพูดได้ตอน 1 ขวบ เร็วที่สุดตอน 8 เดือน แต่ว่า “วู้ดดี้” และแม่ “กุ๊บกิ๊บ” ให้เวลาแค่ 6 เดือน ตนต้องไปต่อรองว่าให้เวลาหน่อย ตอนนี้ 4 เดือนเอง มีเวลาอีก 2 เดือน ตนต้องไปดูเทคนิคตามคุณหมอ
"แพท" เผยถึงลูกชายอีกว่า ตอนนี้เขาอ้อแอ้ได้แล้ว คอแข็งแล้ว เริ่มจับขวดนมเองได้ เวลาตนพูดเขาจะสนใจ เวลาที่เรียกชื่อก็แอบหัน ตนตั้งใจจะเลี้ยงลูกเอง เพราะคิดว่าถ้าให้เวลาเขาเยอะ เขาจะมีพัฒนาการเร็ว ตอนนี้อาจจะไม่ต้องห่วงเรื่องลูกมากนัก แต่ตนเป็นห่วงปะป๊าเขามากกว่า เพราะเขาคิดถึงลูกมาก สิ่งที่สามีกลัวคือ เขากลัวทีจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ลูกเรียนรู้หลายอย่าง ตอนนี้ลูก 4 เดือน เด็กเริ่มจำหน้าพ่อแม่และเริ่มออกเสียงได้ ตนก็พยายามสอนลูก คำแรกที่สอนคือ “ปะป๊า” โดยตนจะชอบพูดกับลูกว่า “จำได้ไหมคะ ที่ป๊าเคยสอน” เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้เลี้ยงเขาคนเดียว เขาอาจจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อ แต่ว่าชื่อป๊าต้องอยู่ในสมองของเขา ไม่ขนาดต้องให้ดูรูป แต่สอนเขาว่าไม่ได้มีแค่มาม๊า
ส่วนเรื่องการรับงานอีเว้นท์ สาว “แพท” เผยว่า จริงๆ แพทพาลูกไปงานตลอด เพราะตนไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง เพราะบางทีงานไม่ได้นานมาก ถ้างานของตน 3-4 ชั่วโมง เพื่อนก็มาช่วยดูลูก โดยลูกชายอาจจะชินกับคนเยอะๆ แต่บางทีก็กรี๊ดบ้าง ต้องให้เขาปรับตัว เรื่องการเลือกงาน ตอนแรกตนคิดว่ากลับมารับงานเหมือนเดิมได้ แต่พอมีลูกจึงพบว่าไม่ได้ อย่างงานต่างจังหวัด ตนก็จะติดลูกจึงไม่สามารถไปได้ แต่ในห้างพาลูกไปได้ ตนก็ไม่เกี่ยงเลย เหนื่อยหน่อย แต่ให้ฝากใคร ตนก็ไม่สบายใจ เพื่อนก็ไม่ว่างทั้งวัน ครอบครัวของตนก็มีแม่ที่ต้องดูแลอีก ตอนนี้ตนจะไปๆ มาๆ 2 บ้าน อยากให้เขาใกล้ชิดทั้งย่าและยาย ก็จะพาลูกไปป้อนข้าวยายด้วย โดยตนก็อุ้มลูกและป้อนข้าวแม่ไปด้วย ให้เขาเห็นว่าเป็นหน้าที่
สำหรับเรื่องงานละคร ถ้ามีรับเชิญได้ก็ดี ตนมีละครจะออนแอร์ 3 เรื่อง งานพิธีกรก็เหมือนเดิม เวลาตนไปก็ง่าย โดยดึงเพื่อนไปช่วยเลี้ยงน้อง ตอนนี้มีงานพิธีกรของ “วู้ดดี้” ซึ่งเช้ามาก หรืออย่างบางรายการก็ทำทั้ง 5 วันเลย และเป็นเวลาที่ลูกชายกำลังตื่น ทุกวันนี้กว่าจะออกจากบ้านได้ บางทีตรงกับลูกตื่นก็ต้องรอหลายอย่าง เรื่องงานพิธีกรก็มีทาบทามมา แต่ตนมีภารกิจเยอะ
และเรื่องคดีความ สาว “แพท” เผยว่า ตนกับสามีใช้ทนายกันคนละชุด ถือว่าไม่ก้าวก่ายกัน ของ “เบนซ์” มีครอบครัวเขาดูแล คดีของตนก็ดูแลเอง โดยวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ตนจะต้องไปรายงานตัว ต้องรอดูว่าศาลจะนัดอีกเมื่อไหร่ ถ้าถามเรื่องความกังวล ตนพูดไม่กังวลเรื่องไหน ตนก็ทำหน้าที่ และมอบเอกสารอะไรก็ให้เขาไปหมดแล้ว ไม่เคยปิดบัง ส่วนที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของศาล เรื่องของสามี ตนก็ลุ้นให้มีประกัน เพราะตนก็เป็นภรรยา ก็คิดว่าเมื่อไหร่จะอยู่กันพร้อมหน้า เรื่องผิดถูกทุกคนตัดสินไป แต่ศาลก็ยังไม่ได้ตัดสิน ตนไม่อยากไปละเมิดอำนาจศาล ตนก็ดูลูกไป ตนยังโอเค เพราะคนเรามันก็ต้องเจออะไรแบบนี้ คนอื่นอาจเจอหนักกว่า แต่ตนเข้มแข็งขึ้นทุกวัน วันนี้ที่เจอเรื่องหนักก็ยังมีคนเคียงข้าง พี่ๆ ผู้ใหญ่ยังเอ็นดู ตนก็ยังมีทางเดินไป