"กอล์ฟ" แฮปปี้ประกบคู่ "แจมมี่" ละคร "เขยผู้ใหญ่ สะใภ้กำนัน"
เป็นอีกหนึ่งพระเอกมากความสามารถ เพราะนอกจากการแสดงแล้วยังมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย งานนี้หนุ่ม “กอล์ฟ อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา” คงจะแฮปปี้ไม่น้อย เพราะด้านความรักก็ไปได้สวยไม่น้อยหน้าเช่นกัน เมื่อได้เจอหนุ่ม "กอล์ฟ" จึงถามถึงเรื่องทั้งหมดนี้ รวมถึงบทบาทในละครเรื่อง "เขยผู้ใหญ่ สะใภ้กำนัน" ที่เจ้าตัวแอบบอกว่ายาก จะยากอย่างไร
"สำหรับละครเรื่อง 'เขยผู้ใหญ่ สะใภ้กำนัน' ตอนี้ปิดกล้องแล้ว เราไม่ได้ทำงานไวแค่ให้ผ่านๆ ไป เราตั้งใจเล่นกันทุกซีน ถือเป็นการทำงานที่สนุกมาก ช่วงแรกยอมรับว่าเครียดมาก เพราะด้วยตัวละครของเราที่ต้องพูดคำศัพท์ที่เป็นทางการ และต้องมีความรู้มาก จึงต้องทำการบ้านเยอะมาก อย่างฉากที่ต้องให้ความรู้กับชาวบ้านเราก็ต้องมีความรู้จริงๆ ก็เลยต้องไปหาความรู้เพิ่มเติม ซึ่งมันก็หาไม่ยากเลย เราแค่หยิบยกแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ได้เลย
ได้ร่วมงานกับนางเอกอย่าง "แจมมี่ ปาณิชดา แสงสุวรรณ" เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก ตั้งใจทำงาน เราจะเป็นคนที่ให้คำปรึกษาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องการแสดงหรือเรื่องอื่นๆ ของเขาทั้งหมด เพราะเวลาเราทำงานก็จะทำแบบเป็นครอบครัว เวลาที่ใครไม่สบายใจเราก็จะไม่สบายใจไปด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่แจมคนเดียว แต่รวมถึงทีมงานคนอื่นๆ ด้วย เพราะเราจะเอาตัวรอดคนเดียวไม่ได้ ถ้าเราเล่นดีแล้วคนอื่นเล่นไม่ดีละครก็จะไม่มีคนดู
สำหรับผลงานเรื่องต่อไปจะมีเพียงละครเรื่อง 'สายโลหิต' แค่นั้น เรื่องความรักตอนนี้ก็เรื่อยๆ ไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน กับทางผู้ใหญ่ของเขาเราก็ได้เจอบ้างแล้ว เนื่องจากเราโตแล้วด้วย โดยส่วนตัวจะเป็นคนที่ถ้าหากจะคบกับใครเราต้องรู้จักกับพ่อแม่เขา ต้องรักพ่อแม่เขาให้เหมือนพ่อแม่เรา เพราะเราจะรักกันสองคนมันเป็นไปไม่ได้ เราต้องมีเพื่อน มีครอบครัว มีคนรอบข้าง เพื่อให้เรามีความสุขมากขึ้น เราก็เลยไปหาพ่อแม่เขา เขาก็มาหาพ่อแม่เรา กับคนนี้ที่บ้านก็แฮปปี้ เป็นสิ่งที่ดีในขั้นแรกที่พ่อแม่ของเราทั้งสองแฮปปี้ หลังจากนั้นก็อยู่ที่เราสองคนแล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร เราก็ไม่คาดหวัง แค่เราทำตรงนี้ให้ถูกต้อง กับคนนี้ยังคบไม่ถึงปี เรื่องของอนาคตอีกนาน ทางผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้ถามถึงหรือพูดถึงเรื่องนี้ เราคิดว่าการแต่งงานจะคือคำตอบของความรักก็ไม่ใช่ สิ่งที่เราอยู่ปัจจุบันมากกว่า
ส่วนการทำงานในวงการบันเทิงของเรา เขาก็เข้าใจเราในส่วนหนึ่ง แต่หากไม่เข้าใจเราก็ต้องอธิบายให้เข้าใจ แต่หากพยายามแล้วไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร มันคือสิ่งที่เราเรียนรู้กันและกัน เราจะคุยกันตรงๆ เนื่องจากเราก็โตกันแล้ว รวมถึงตอนนี้โลกโซเชียลอะไรมันก็เปิดหมดแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องซับซ้อนอะไรมาก
