“อ๊อฟ” รับมีคุย “เป๊ก” แล้ว ขอเคลียร์ดราม่าคอนฯ “เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์”

“อ๊อฟ” รับมีคุย “เป๊ก” แล้ว ขอเคลียร์ดราม่าคอนฯ “เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์”

      “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” เคลียร์ชัดกระแสดราม่าคอนเสิร์ต “เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์” ลั่นยินดีร่วมงานกันเสมอ ปัดไม่ซีเรียสหากใครจะมองต่างมุม เผยตกใจโดนหมายเรียกมีรูปภาพแอลกอฮอล์

      เกิดเป็นกระแสดราม่าจนได้สำหรับของคอนเสิร์ต “เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์” หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าจะมีการรวมตัวจัดขึ้น แต่ก็มีกระแสของแฟนคลับที่ไม่สนับสนุนคอนเสิร์ตในครั้งนี้ และออกมากล่าวถึง “อ๊อฟ ปองศักดิ์” ในเชิงลบ และเจ้าตัวก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงต่อเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ลบไปในที่สุด งานนี้เมื่อได้เจอหนุ่ม “อ๊อฟ ปองศักดิ์” จึงต้องเข้าไปถามเรื่องนี้กับเจ้าตัวและอีกประเด็นที่โดนหมายเรียกเกี่ยวกับรูปภาพแอลกอฮอล์ โดยเจ้าตัวเผยว่า

     สำหรับเรื่องดราม่าคอนเสิร์ต “เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์” ตนมองว่าเรื่องนี้จริงๆ มันไม่มีอะไรเลย เกิดจากการคุยกันของทางทีมงานที่จัดคอนเสิร์ตว่าอยากจะทำกันไหม ซึ่งในแล้วตอนแรกเราก็ตกลงว่าโอเค เราจะทำ แต่เผอิญว่ามันยังไม่สรุปว่าวันไหน อะไรเมื่อไร บวกกับตัว “เป๊ก” เอง เขาได้พูดในมีตติ้งของเขา ซึ่งตนก็งงว่าคุณรู้แล้วหรือเพราะว่าตนยังไม่รู้จริงๆ ว่ามันมีเมื่อไหร่ยังไง แล้วพอมันมีดราม่าขึ้นมาในพันทิป สำหรับตน ด้วยหัวกระทู้ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ตนเข้าใจว่าแต่ละคนรู้สึกยังไง แต่เพียงในคอมเมนต์ต่างๆ มันมีความไม่ให้เกียรติทั้งตนและไอซ์ เลยรู้สึกว่าจริงๆ แล้วตนก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป ที่สามารถรู้สึกได้กับสิ่งที่คนว่าตน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องของความสามารถ ตนก็จะเข้าใจได้ แต่ว่าในเรื่องของเพศสภาพของตน หรือเรื่องว่าตนเป็นตัวที่ทำให้ภาพศิลปินเขาดูไม่น่ารัก หรือว่าไม่ได้เป็นอย่างที่เขาต้องการ ตนมองว่าอันนี้มันเกินไป เพราะมันไม่สามารถแก้ได้ มันไม่สามารถปรับได้อยู่แล้ว มันเลยทำให้ตนต้องออกมาเขียนบอกกล่าว แต่ว่าตอนที่ตัดสินใจออกมาเขียน ตนคุยกับ “ไอซ์” แล้ว เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์เรื่องนี้ ตนก็เลยบอกว่าโอเค ถ้าเกิดว่ามีนักข่าวมาสัมภาษณ์ แต่ตนขออนุญาตเขียนโพสต์ด้วย

      ทั้งนี้ทุกเรื่อง ตนพูดกันตรงๆ ว่าตนบอกกับ “เป๊ก” ตลอดว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งตนก็บอกให้เขาพูดแล้วว่ามันเกิดอะไร บางทีมันเกิดจากความเข้าใจผิดของเขาเองหรือเปล่า ทั้งที่มันยังไม่เกิดขึ้นเลย แต่สุดท้ายพอตนอธิบายไป คนพูดมันดันเป็นคนที่ดูแรง แล้วพอคนพูดดูแรง ตนก็โอเค งั้นขอจบการพูดของตนดีกว่า เพราะว่าบางทียิ่งตนต่อความยาวสาวความยืด มันยิ่งทำให้ขุดไปขุดมา ตนก็โอเคจบที่ตนดีกว่า มีกลุ่มแฟนๆ ของเขาบางคนเข้าใจในสิ่งที่ตนต้องการจะสื่อสาร แต่กลับอีกกลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนสื่อสาร ตนก็ต้องปล่อยไป

        ซึ่งหลังจากที่ตนได้บอก “เป๊ก” ไป เขารู้ทุกอย่างตลอด แล้วก็พอผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดในค่ำคืนที่แสนยาวนานของตนที่มีกลุ่มนุชes (แฟนคลับเป๊ก) เขามากระหน่ำถามและด่าในอินสตาแกรมของตน เขาก็ส่งข้อความเสียงมาว่า “เอานะ อย่าคิดมาก ถือซะว่าเป็นสีสันของวงการ” ตนทราบว่าเป็นสีสัน แต่ถามตนด้วยไหมว่าอยากได้สีสันนี้หรือเปล่า แต่ว่าจริงๆ แล้ว ตนกับเพื่อนไม่มีปัญหาอะไรกันเลยทั้งสิ้น ยินดีที่จะร่วมงานกันเมื่อมีโอกาสเสมอ

       ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของตนกับเขา ตอนนี้ก็ถือว่าดี แต่ด้วยความที่ไลฟ์สไตล์เราสามคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ก็เลยทำให้ไม่มีโอกาสที่จะไปแฮงค์เอ้าท์ด้วยกัน แต่ว่าสำหรับตนถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานร่วมอาชีพ ตนก็ไม่อยากเหมาว่าใครเป็นเพื่อนสนิท เนื่องจากตนไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไงกับตน บางทีตนก็กลัวว่าจะคิดไปเองหรือเปล่า บางทีสิ่งที่สัมภาษณ์อยู่ บางคนเขาก็จะตีความไปอีกแบบหนึ่ง หรือกลุ่มคนที่เขามองว่าสิ่งที่ตนพูดมันไปกระทบกระทั่งใครหรือเปล่า แต่สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงทั้งหมด เพราะทุกอย่างที่ตนพูดและเขียนนั้นไตร่ตรองมาแล้ว มีการคุยกันแล้วเรียบร้อยว่าควรจะจัดการยังไงกับเรื่องพวกนี้ ไม่ว่ายังไงตนก็ยินดีกับทุกความสำเร็จของเขาตั้งแต่แรกๆ ก่อนที่เขาจะเปิดหน้ากาก เพราะฉะนั้นใครที่มองว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน ไม่รักกัน ก็อยากให้มองใหม่ ตนเข้าใจว่าคุณเพิ่งมาและคุณรักเขามาก แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนใช้เวลาอยู่กับเขามานานมาก รู้ว่าใครเป็นอะไร ยังไง ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่ได้ทำงานด้วยกัน ไม่ได้ออกไปแฮงค์เอ้าท์ด้วยกัน หรือบางทีก็ไม่สามารถเรียกเขาชัดๆ ได้ว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่อย่างน้อยที่สุด ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่มีอาชีพร่วมกัน อย่างที่ตนบอกว่ากลุ่มแฟนคลับถ้ารักเขาในมุมที่ดี ตนก็โอเคด้วย อย่างตนอาจจะไม่มีแฟนคลับเท่าเขา แต่อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ยืดยาวกว่ากลุ่มแฟนคลับ คือการที่คนสามารถรับตัวตนจริงๆ ของเราได้ หลังจากให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ไป มันก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนที่จะเลือกรับสิ่งไหนมากกว่ากัน ถามว่าเตรียมใจไหมก็เตรียมใจบ้างแล้ว แต่ตนก็คงเลือกที่จะรับในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง อันไหนไม่มีประโยชน์ตนก็ไม่เข้าไปอ่าน

      ส่วนเรื่องที่ทั้ง 3 คนจะมีโอกาสมาร่วมงานกันอีกไหมนั้น ขึ้นอยู่กับอนาคต ตน ไอซ์และเป๊กต่างก็มีงานกันค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ปีหน้าครบ 10 ปี อัลบั้ม “เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์” ก็คงจะมีคนคิดถึงและอยากเห็นการรวมตัว แต่ก็แล้วแต่โอกาสมากกว่า หวังว่าสักวันหนึ่งคงจะได้ทำคอนเสิร์ตดีๆ ร่วมกัน

       สำหรับการโดนหมายเรียกจริงๆ ตนตกใจมาก ยอมรับว่าโพสต์จริงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับนายแพทย์ “สมาน ฟูตระกูล” ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรคแล้วเรียบร้อย โดยก็ได้ตักเตือนและทำความเข้าใจถึงการโพสต์เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่า หลังจากนี้ตนก็พร้อมที่จะเป็นตัวแทนให้กับการรณรงค์เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ตนก็ยอมรับว่าในตอนนั้นไม่ทราบเรื่องกฎหมาย และมองว่าคนทั่วไปก็ไม่ทราบเรื่องกฎหมายด้านนี้เหมือนกัน ล่าสุดก็มีข่าวออกมาและมีหมายส่งไปที่บ้าน ตนก็ตกใจมาก เมื่อตั้งสติได้ ตนก็นึกว่ารูปภาพที่โพสต์แอลกอฮอล์เหล่านั้นใช่รูปใหม่หรือเปล่า ซึ่งเมื่อย้อนดูแล้วก็พบว่าไม่ใช่รูปใหม่ แต่เป็นรูปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนปี พ.ศ. 2558 และตนลบออกไปจากอินสตาแกรมหมดแล้ว แต่ตนมองว่าผิดก็คือผิด ต่อให้จะรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่ทราบข้อกฎหมายต่างๆ แต่ในเมื่อโพสต์ไปแล้วก็คือผิด ตนก็ยอมรับในสิ่งที่ทำลงไป และพร้อมที่จะช่วยเหลือรณรงค์ทุกอย่าง ซึ่งตนก็ได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมาย และชำระค่าปรับเป็นเงิน 50,000 บาทเท่ากับทุกคน อย่างไรก็ตามตอนนี้เรื่องจบหมดแล้ว และอยากให้เป็นอุทาหรณ์แก่ใครหลายๆ คน ตนก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำอะไรโดยที่ไม่ศึกษาให้ดีก่อน