ย้อนรอยเส้นทางแจ้งเกิดซุป’ตาร์ กับผลงานสุดปังขึ้นแท่นตัวท็อป!
เปิดโผเส้นทางแจ้งเกิดซุป’ตาร์! เผยคนในวงการกับผลงานสุดปังจนทำให้ขึ้นแท่นเป็นตัวท็อป
การที่นักแสดงจะแจ้งเกิดเป็นซูเปอร์สตาร์อีกคนในวงการ ต้องมีผลงานชิ้นเอกเป็นใบเบิกทางเสียก่อน และใบเบิกทางที่ว่านั้นต้องเป็นของดี เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ไม่ว่าจะเป็นงานละครหรือไม่ก็งานในวงการที่ทำให้แฟนๆ ประทับใจ สร้างให้เขาหรือเธอผู้นั้นประกายแสงในวงการ มาอัพเดทอันดับซุป’ตาร์ยุคนี้รวมถึงดาราใหม่ๆ หลายคนที่ก้าวมาโลดแล่นในวงการว่าเขามีผลงานสร้างชื่ออะไรบ้าง
เริ่มที่ตัวท็อปของช่อง 3 ก่อน อย่าง “ณเดชน์ คูกิมิยะ”, “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์”, “หมาก ปริญ” และ “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ” และนักแสดงชุดใหม่ของช่อง 3 หลายคนแจ้งเกิดพร้อมๆ กัน แจ้งเกิดจากซีรีส์ชุด “สี่หัวใจแห่งขุนเขา” สำหรับ “ณเดชน์” จริงๆ แล้วเขามีผลงานสร้างชื่อหลายเรื่องด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ. 2555 มีผลงานแสดงละครเรื่อง “ธรณีนี่นี้ใครครอง” แสดงร่วมกับ “ญาญ่า อุรัสยา” ในปี พ.ศ. 2556 ณเดชน์ได้รับเลือกให้แสดงในละครเรื่อง “รอยฝันตะวันเดือด” จากละครซีรีส์ชุด “The Rising Sun” และในปี พ.ศ. 2557 ร่วมแสดงละครเรื่อง “ลมซ่อนรัก” ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกกับ “แต้ว ณฐพร” ทั้งหมดถือว่าเป็นงานมาสเตอร์พีชของหนุ่ม “ณเดชน์” แต่ถ้าถามว่าดาราทั้งเซ็ทที่ดังมาเป็นชุดต้องยกให้กับซีรีส์ “สี่หัวใจแห่งขุนเขา” ที่เปิดตัวมาได้ดีสุดๆ
“บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” แรกที่เข้าวงการเขาเคยเล่นภาพยนต์มาก่อน ในเรื่อง “ฝัน หวาน อาย จูบ” ตอน "อาย"” ซึ่งก็ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นแต่ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ต่อมาไม่นานก็ร่วมแสดงละคร “ไฟรักอสูร” ประกบ “วิกกี้ สุนิสา” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ผลักให้เจ้าตัวเริ่มเป็นที่รู้จักจนกลายเป็นตัวท็อปอีกคนที่ทั้งงาน ทั้งอีเว้นท์ ทั้งโฆษณารุมเจ้าตัวสุดๆ ในตอนนี้ โดยผลงานที่สร้างชื่อให้กับหนุ่ม “บอย” คือ “วายุภัคมนตรา” และ “รอยมาร” ซึ่งแสดงคู่กับ “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า” และละครเรื่อง “สามหนุ่มเนื้อทอง”
ดาราอีกชุดของช่อง 3 ที่มีผลงานละครซีรีส์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” เป็นใบเบิกทาง มีหลายคนด้วยกัน อาทิ “มิว นิษฐา จิรยั่งยื่น” ที่เริ่มดังจากบท “หม่อมเจ้าหญิงวรรณรสา อรุณรัศมิ์” หรือ “หญิงแต้ว” ในตอน “คุณชายปวรรุจ” หนุ่ม “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” กับบท “หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร” และคู่จิ้นสาว “เบลล่า ราณี แคมเปน” กับบท “กรองแก้ว” ที่ดังจากตอน “คุณชายพุฒิภัทร” หรือ “เจมส์ มาร์” เองก็แจ้งเกิดจากมาดคุณชายในบท “คุณชายรณพีร์” หลังจากนั้นนักแสดงหน้าใหม่จากละครเรื่องนี้ก็เติบโตขึ้นพร้อมๆ กัน เป็นแถวหน้าของช่อง มีงานละครออกมาให้ได้ชมอย่างต่อเนื่อง และมีแฟนคลับอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
“นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” รายนี้มาแปลกแตกต่างจากคนอื่นสักหน่อย เขาไม่ได้ดังมาจากผลงานละคร แต่เริ่มเป็นที่รู้จักจากการทำงานโฆษณา โดยมีผลงานโฆษณาชิ้นแรกเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายยี่ห้อหนึ่ง และต่อมาก็เริ่มเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้นจากงานโฆษณาห้างดัง แต่ผลงานที่ทำให้คนรู้จักและถูกแชร์ออกไปในโซเชียลจำนวนมากคือภาพยนตร์โฆษณาน้ำดื่มยี่ห้อดัง จากนั้นเขาถึงจะมีผลงานการแสดงตามมา อย่าง ภาพยนตร์เรื่อง “พรจากฟ้า” ที่ทำเอาสาวๆ พากันจิ้นตัวเองเป็นสาว “วี วิโอเล็ต” ที่แสดงคู่กับหนุ่ม “นาย” ในเรื่องนี้กันเป็นแถวๆ
“มาริโอ้ เมาเร่อ” หนุ่มคนนี้เรียกว่าฮอตตั้งแต่ผลงานภาพยนตร์แรก อย่าง “รักแห่งสยาม” ในบทชายรักชายที่ทำให้มีกระแสตอบรับดีทั้งในไทยและไกลถึงประเทศจีน และต่อมาก็มีผลงาน “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” ออกมาให้ฟินกันต่อ ด้วยหน้าตาแบบลูกครึ่งเอเชียยิ่งทำให้เขาโดดเด่น และสามารถแสดงความสามารถได้ในหลายๆ โอกาส ทั้งงานแสดง โฆษณา ถ่ายแบบ ส่วนผลงานละครที่ใครๆ ต่างก็ต้องพูดถึงที่เจ้าตัวเจอกับนางเอกคู่ขวัญ อย่างสาว “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ที่เล่นละครคู่กันแล้วเคมีตรงกันสุดๆ ได้แก่ เพลิงทระนง และ รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน
“เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับคนนี้ เพราะกระแสจิ้น กับหนุ่ม “เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์” มาแรงจริงๆ เธอดังมาจากละครของช่อง 7 สี เรื่อง “เบญจา คีตา ความรัก” กับบท “แก้วเจ้าจอม” ซึ่งเป็นละครในตำนานของช่อง 7 ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นยุคนั้นอย่างมาก จากนั้นก็มีเรื่อง “คมแฝก” ที่สร้างชื่อให้เธอไม่แพ้กัน แต่ต่อมาเมื่อผันตัวเป็นอิสระ เจ้าตัวก็เหมือนแจ้งเกิดใหม่จากซีรีส์ “The Cupids บริษัทรักอุตลุด” ตอน “ซ่อนรักกามเทพ” จนกลายเป็นคู่จิ้นพ่อหมีแม่หมี กับหนุ่ม “เต้ย” ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้
“แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” ก่อนที่เธอจะแสดงละคร ได้เริ่มต้นจากงานโฆษณา เธอเคยมี ภาพยนตร์เรื่องแรก อย่าง “เด็กหอ” จากนั้นก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศแจ้งการเข้ารายการของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกบทางช่อง 7 ก่อนตัดสินใจเข้ารับการคัดเลือกนักแสดงกับทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และผ่านการทดสอบได้เข้ามาอยู่ในสังกัด โดยละครเรื่องแรกคือชื่อว่า “น่ารัก” คู่กับ “การิน ศตายุ” และมีผลงานที่ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นคือละครย้อนยุคเรื่อง “ดงผู้ดี” คู่กับ “กฤษฎา พรเวโรจน์” แต่ทว่า บท “เจ้าแม่นาคี” หรือ “คำแก้ว” จากละครนาคี คือละครที่จุดพลุให้เธอมากที่สุด
“จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” มีผลงานละครเรื่องแรก “กษัตริยา” ของค่ายกันตนาทางช่อง 5 และมีผลงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานละคร พิธีกร และถ่ายแบบ จนกระทั่งได้ผันตัวเองเป็นนักแสดงอิสระ จนกระทั่งในปี 2557 เธอมีผลงานสร้างชื่อในละครเรื่อง “สามีตีตรา” จากบท “สายน้ำผึ้ง” ทำให้เธอคว้ารางวัลโทรทัศน์ทองคำและรางวัลนาฏราช ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาครอง
“ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” เธอเริ่มเข้าวงการตั้งแต่เด็กๆ แต่เข้าเป็นนักแสดงของช่อง 7 ในปี 2547 โดยเรื่องแรกหลังการเซ็นสัญญานั้นคือ "สาวน้อยในตะเกียงแก้ว ภาค 2 ตอนแม่มดน้อยตัวป่วน" ซึ่งเธอรับบทนางร้ายเป็นเรื่องแรก เรื่องต่อมา "อกธรณี" เธอได้เล่นเป็นนางเอกเต็มตัวเรื่องแรง แต่ละครที่สร้างชื่อให้ สาว “ขวัญ อุษามณี” คือเรื่อง “ขิงก็ราข่าก็แรง” ที่ทำให้เกิดวลีติดปากอย่าง “แม่ไม่ปลื้ม... จบ” ส่งผลให้ละครเรื่องนี้เป็นละครที่มีเรตติ้งสูงสุดของปี 2549 เลยทีเดียว
“พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ก่อนหน้าที่จะมาเล่นละครเขาเคยเล่นภาพยนตร์มาแล้ว 1 เรื่องคือ “Sorry ซารังเฮโย เการักที่เกาหลี” แต่ต่อมาก็เซ็นสัญญาเข้าสังกัดช่องเพื่อเป็นนักแสดงช่อง 7 เขาก็มีผลงานละครเรื่อง “มนต์รักแม่น้ำมูล” ที่สร้างชื่อให้เขาอย่างมาก หรือจะเป็นเรื่อง "หยกเลือดมังกร” กับบท “หยก” หรือ ในเรื่อง “สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย” กับบท "หรั่ง นาคำ" ที่ถือได้ว่าเป็นอีกสองผลงานที่สร้างชื่อให้กับเจ้าตัวอย่างมาก
“มิน พีชญา วัฒนามนตรี” พีชญาเข้าสู่วงการ จากการประกวดมิสทีนไทยแลนด์ และได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ขวัญใจสื่อมวลชน และ Miss I-Mobile หลังจากนั้นเธอได้รับโอกาสในการเล่นละครพื้นบ้าน “ปลาบู่ทอง” ซึ่งเป็นผลงานละครเรื่องแรกและสร้างชื่อเสียงให้สาว “มิน” ทันทีจากบทฝาแฝดเอื้อย-อ้าย จากความสำเร็จครั้งนี้ เธอจึงได้เริ่มแสดงละครหลังข่าวเรื่อง “เรือนซ่อนรัก” เป็นเรื่องถัดมา และได้เป็นนางเอกละครหลังข่าวเรื่องแรกในเรื่อง “รักในม่านเมฆ” ซึ่งได้รับคะแนนความนิยมสูงสุดของปี แต่เรื่องที่แฟนๆ ชอบและประทับใจมากเรื่องหนึ่ง คือเรื่อง “ปิ่นอนงค์” ที่ประกบคู่กับพระเอกฮอตของช่อง อย่าง “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ”
“ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” ผู้คว้าตำแหน่ง Miss Thailand Universe พ.ศ. 2553 เธอฝาฟผลงานการแสดงกับทางช่อง 7 หลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งมีหลายเรื่องสร้างชื่อเสียงให้กับเจ้าตัว เช่น “เพลงรักบ้านนา” กับบท “ศรีไพร” เรือนกาหลง กับบท “กาหลง” แต่ที่จะสร้างชื่อและความประทับใจให้กับแฟนๆ ต้องยกให้ละครเรื่อง “เพื่อน แพง” กับบท “แพง” ประกบคู่กับหนุ่ม “เวียร์ ศุกลวัฒน์”
“มิกค์ ทองระย้า” และ สาว “พิม พิมประภา ตั้งประภากร” สองคนนี้แจ้งเกิดพร้อมๆ กันจากละครเรื่อง “กาลครั้งหนึ่งในหัวใจ” ดังไกลไปถึงประเทศจีน กับบท “แดเนียล” และ “ฟ้าใส” จึงส่งผลให้ทั้ง “มิกซ์” และ “พิม” มีงานละครตามมาอีกเพียบ จนขึ้นแท่นเป็นพระเอกนางเอกหน้าใหม่ของช่อง 7
ตามมาด้วย อีกแก๊งวัยรุ่น “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร”, “เก้า สุภัสสรา ธนชาต”, “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์”, “มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกําพล” ดาราวัยุร่นกลุ่มนี้ทั้งหมดเกิดจากซีรีส์ “ฮอร์โมน 1” ของ GTH ขณะนั้นออนแอร์ในเคเบิ้ลและช่องทางยูทูป ส่งผลให้นักแสดงชุดนั้นเป็นที่รู้จักในหมู่วัยรุ่นเป็นวงกว้าง และมีผลงานออกมาให้ติดตามอย่างมากมายในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นเจนใหม่ที่มีฝีมือไม่ธรรมดา
“พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน” เริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงจากการเป็นวีเจ ในรายการโอไอซี ทางช่อง 5 และเป็นดีเจของคลื่น HOTWAVE 91.5 ก่อนจะย้ายมาจัดที่ Chill 89.0 เขาเริ่มงานการแสดงครั้งแรกในละครซิทคอมเรื่องคู่รักต่างขั้ว และต่อมาก็รับงานแสดงอย่างต่อเนื่อง เช่น ฝันเฟื่อง, ร้อยเล่ห์เสน่ห์ร้าย แต่ที่เห็นว่าปังๆ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ เห็นจะเป็นบท “พี่เสือ” ในซีรีส์ “Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่”และ “สิบทิศ” จาก ซีรีส์ “U-Prince”
