“แต้ว” ไม่คิดมาก เจอดราม่ามูฟออนไว ให้สถานะ “ไฮโซณัย” คือคนที่หวังดีด้วย
ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับนางเอกสาว “แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์” หลังควงหนุ่มคนสนิท “ไฮโซณัย” ดินเนอร์เปิดตัวกับครอบครัว งานนี้ยังถูกวิจารณ์แรงว่าแอบคบกันตั้งแต่สาว “แต้ว” ยังไม่เลิกกับหนุ่ม “ต้น อาชว์” งานนี้เมื่อมีโอกาสเจอตัวสาว “แต้ว” เจ้าตัวเลยเปิดใจว่า
อ่านข่าวต่อ : “แม่นิด” ไฟเขียว! “แต้ว-ไฮโซณัย” หวานต่อเนื่อง
ล่าสุดไปทานข้าวกับครอบครัวกันเพราะคุณแม่ไม่ค่อยได้ออกนอกบ้านเท่าไหร่ ก็ชวนๆ “ไฮโซณัย” ก็ไปด้วย ถามว่าเป็นการเปิดตัวไหม มันเป็นผ่านสตอรี่คนอื่นเรายังไม่ได้ลงอะไร เรื่องความรักการเปิดตัวคงต้องดูกันไปเรื่อยๆ ถามว่าเขินไหม ไม่เขินแต่ทำไมต้องหาวาระเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย เขาเป็นคนที่เข้ามาในชีวิต แล้วเราก็รู้สึกว่าโอเค เขาก็มากินข้าวด้วยกันกับครอบครัวหลายรอบแล้ว
ถามว่ารักครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง สำหรับแต้วรักครั้งนี้ก็ดี ค่อยๆ รู้จักกันไป รักมันก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้กันไป เขาไม่ได้พูดเวลาเป็นข่าว เขาก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่เรารู้จักกันมากขึ้น เขาเป็นคนที่เรารู้สึกว่าหวังดีด้วย ถามว่าครอบครัวไฟเขียวไหม จะบอกไฟเขียวก็ไม่ได้ หรือไม่ไฟเขียวก็ไม่ได้ เพราะตั้งแต่คบ “ต้น” ก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่อยู่แล้ว
ส่วนดราม่ามูฟออนไว แต้วก็เห็นแต่ไม่ได้เอามาคิดอะไรมาก เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะพูด กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ต้องใช้เวลา ถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจอยู่แล้ว แต่เราต้องเรียนรู้และก้าวออกมาให้ได้ พยายามอยู่กับตรงนี้อย่าไปยึดติดอะไรมาก เพราะมันเปลี่ยนแปลงได้ แต้วไม่สามารถห้ามใครได้ และใครก็ไม่สามารถห้ามแต้วได้เหมือนกัน แต้วไม่อึดอัดที่ออกมาพูดไม่ได้ คนอื่นก็พูดได้เต็มที่ เราก็ใช้ชีวิตของเรา เราแคร์คนรอบข้างของเรา
ดาราคบไฮโซ แต้วว่ามันไม่แฟร์นะ เพราะคบกันมันก็ต้องเรียนรู้กันไป อย่าง “ต้น” ก็คบกันมา 10 ปี เราก็พยายามแก้ไขแต่มันก็ไม่ใช่ แต้วก็ไม่รู้ว่าแต้วใช่หรือไม่ใช่
ด้านเรื่องคุณพ่อก็ค่อยๆ รับรู้ความเป็นจริง แต้วได้คำสอนของคุณพ่อมาเยอะเรื่องยอมรับความเป็นจริง กับคุณแม่ก็ดีขึ้นตอนนี้ตระเวรทำบุญกันเยอะเลยเพราะพรุ่งนี้จะครบรอบ 50 วัน หลายคนมองว่าเข้มแข็งเร็วก็เป็นเพราะคุณพ่อสอนมาว่าชีวิตไม่แน่นอน มันช่วยได้จริงๆ แต่ถามว่าเศร้าอยู่ไหมก็ยังเศร้าอยู่ ตอนนี้ที่บ้านก็จับมือกันทำให้การใช้ชีวิตเริ่มกลับมาปกติ พยุงกันไป
กับ “ต้น” หรือทุกคนที่มาช่วยเราก็ขอบคุณ เขามาเป็นกำลังใจ “ต้น” เขาก็มาด้วยความเต็มใจเขาเหมือนคนในครอบครัวเราก็หวังดีกับเขา