“หนิง ปณิตา” เผยคู่กรณีไร้การติดต่อกลับ โชคดี “ณิริน” เข้าใจเรื่องราวได้ดี
เดินหน้าฟ้องร้องมือที่สามอย่างต่อเนื่อง พิธีกรสาว “หนิง ปณิตา” โดยเจ้าตัวมีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ตุลาคม ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อไกล่เกลี่ย
อ่านข่าวต่อ : “หนิง ปณิตา” ดีใจ “น้องณิริน” เข้าใจทุกเรื่อง ยินดี “เมย์” เป็นฝั่งเป็นฝาพร้อมขอทวงตังค์!!
ล่าสุดสาว “หนิง” ได้ออกมาอัปเดตอีกครั้งว่า... “หลังจากพบกันครั้งที่แล้ว นัดต่อไปก็น่าจะเป็นวันเดิมอยู่ (4 ต.ค.66) แต่เรื่องอื่นๆ ยังไม่ได้อะไรเพิ่มเติม มีเรื่องกระทบจิตใจมาเพิ่มนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำ ให้รู้สึกแย่ลง ตนยังเดินไปข้างหน้าได้ดีขึ้น โชคดีที่ลูกเป็นเด็กที่เข้า ใจ ปรับปรุง และพร้อมแก้ไข ตนเอาลูกเป็นหลัก เรื่องอื่นก็พยายามมองข้ามไป และทางนั้นไม่ได้รับการติดต่อมาทางไหนทั้งสิ้น สำหรับตนยังทำทุกอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ จะบอกว่าไม่เหนื่อยก็ไม่ใช่ ยังรู้สึกเบื่อ เซ็ง แต่ไม่เก็บเอามาเป็นอารมณ์ ตนได้เห็นลูกที่พยายามปรับตัวกับเรา ทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องเบา ได้ออกมาเจอผู้คน มาหาเงิน มีรอยยิ้มได้
สำหรับลูกตนมองว่ามันก็ไม่ง่ายสำหรับเด็กคนหนึ่ง ยอมรับว่าเราทะเลาะกันบ่อย เราก็พยายามทำให้เขาเรียนรู้ในหลายๆ เรื่อง ตนบอกเสมอว่าการเจออุปสรรคตั้งแต่อายุน้อยๆ มันเป็นเรื่องดี ถ้าผ่านไปได้ก็ไปเจอเรื่องอื่น ไม่เอามาทบในปีต่อๆ ไป เวลาไหว้พระ ไหว้เจ้าตนขอแค่ให้ลูกเป็นคนดี เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น การอธิบายในลูกฟังเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เราก็ต้องมาดูว่ากับเด็กอายุเท่านี้จะคุยได้แค่ไหน แต่สิ่งที่ทำให้ตนได้เรียนรู้คือต้องไม่คาดหวังว่าสิ่งที่พูดเขาจะเข้าใจทุกอย่าง เราเป็นแม่ต้องมีความอดทน เข้าใจคำว่าพูดจนกว่าปากจะฉีกถึงรูหู ณิรินเขาพยายามที่จะเข้าใจ และไม่ทำให้เราไม่สบายใจ สิ่งที่เขาทำ ให้ตนอึ้งและใจเย็นคือ เขาจะเดินเข้ามากอด บอกสู้ๆ หนูจะเป็นพลังให้แม่ ตนก็จะน้ำตาซึมหน่อย เพราะปกติตนจะไม่แสดงอารมณ์อ่อน แอให้ลูกเห็นเลย ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี เราต้องให้เขาได้รู้ว่าเรามีมุมนี้เหมือนกัน บอกยังไม่เคยร้องไห้ให้ลูกเห็นแบบน้ำตาไหลพราก
แต่ปัจจุบันเราก็มีคุยกับคุณหมอด้วยกัน เขาก็ได้เห็นในมุมอ่อนแอของเราบ้าง เราคุยกับจิตแพทย์ทั้งตน ลูก และคนในครอบครัว เรียกว่าทุกคนที่มีผลต่อความรู้สึกของณิริน เป็นการฮีลใจกันทั้งหมด ยังไงคำว่าครอบครัวก็สำคัญ ล่าสุดไปเที่ยวด้วยกันมา เขามีเป้าหมายว่าปีหน้าจะทำอะไร เริ่มกลับมามีเป้าหมายในชีวิตเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซึ่งมันเคยหายไปช่วงนึง เราคนเป็นแม่รู้สึกชื่นใจมาก เขาจะตั้งใจเรียนให้ดีกว่านี้ ฝึกร้องเพลงให้ดีกว่านี้ เรียกว่าคุ้มค่ากับการทุ่มเทของเรา ลูกยังเจอจินอยู่เรื่อยๆ ยังอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน