เปิดอีกมุมของคนไร้บ้าน! "นาตาลี" เล่า หลังไปเป็นอาสาสมัครมูลนิธิกระจกเงา

เปิดอีกมุมของคนไร้บ้าน! "นาตาลี" เล่า หลังไปเป็นอาสาสมัครมูลนิธิกระจกเงา

    เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่คอยช่วยเหลือสังคมได้เป็นอย่างดี สำหรับนักแสดงสาว "นาตาลี เดวิส" ที่เธอได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิกระจกเงา และเมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอ สาว "นาตาลี" ก็ได้เล่าถึงการตัดสินใจมาทำให้ฟังว่า

    "เป็นแฟนเพจเฟซบุ๊คของมูลนิธิกระจกเงา เราไปกดไลค์ไว้ ก็เห็นพวกกิจกรรมอาสาจะขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วพอดีเราเป็นคนชอบทำกับข้าว ชอบเข้าครัวอยู่แล้ว เราก็เลยอยากจะเอาความสามารถที่เรามีไปช่วยค่ะ ก็เลยอินบอกซ์ไปหาเค้าว่าอยากไปเป็นอาสาสมัครทำกับข้าวให้ทุกวันพุธ เพราะเค้าจะมีกันทุกวันพุธ เค้าก็เลยบอกว่าได้เพราะว่าเค้ารับ 10 คน ตอนนี้คนยังไม่ครบ เค้าก็บอกให้เข้ามาวันพุธ ก็คือไปถึงตั้งแต่เช้า อยู่ถึงประมาณ 4 ทุ่ม ก็มีปฐมนิเทศน์ พูดคุยความเป็นมาของมูลนิธิกันนิดหน่อย แล้วก็มีไปตลาด ซื้อพวกวัตถุดิบ ต่างๆ จากนั้นก็กลับมาที่มูลนิธิ มาเตรียมอาหารด้วยกัน มาช่วยกันหั่นผัก ล้างผัก หุงข้าว ผัดกับข้าว ทุกคนก็ช่วยกัน พอทำกับข้าวเสร็จก็ใส่ห่อแบบห่อข้าวมันไก่ แล้วก็เอาไปให้เค้า ก่อนออกไปอาสาสมัครก็จะกินข้าวแบบที่ทำไปให้คนไร้บ้านกิน เหมือนกันเลย แล้วก็ออกไปกับรถของมูลนิธิ ไปจอดที่ลาน กทม ตรงข้ามเสาชิงช้า ก็ไปถึงประมาณทุ่มครึ่ง เตรียมความเรียบร้อย แจกประมาณสองทุ่มตรง

    ตอนแรกไปก็กังวลว่าจะโกลาหลหรือเปล่า เหมือนเวลาที่เราไปช่วยแจกของแล้วคนก็จะยื้อแย่งกัน แต่พอไปถึง คือเค้ามีระเบียบมาก ต่อคิว รับบัตรคิว เรียบร้อยมาก แล้วถามคุณป้าคนแรกที่ได้คิวที่ 1 คือเค้ามารอตั้งแต่บ่ายสามโมง รอจนถึงสองทุ่มเพื่อที่จะได้เป็นคิวแรก ส่วนคนที่แจกก็จะยืนเรียงกันไปเรื่อยๆ ค่ะ คนที่รับแจกเค้าก็จะเข้ามารับทีละ 5 คน วันนั้นมากันน่าจะประมาณ 300-400 คือคนเยอะมาก เค้าไม่ได้มาสร้างความวุ่นวาย เค้าเป็นระเบียบมาก ทุกคนน่ารัก ไม่ได้มีความรู้สึกที่ไม่ดีเลย ในทางกลับกันคือรู้สึกว่าตอนแรกเราตั้งใจจะไปให้เค้าในฐานะผู้ให้ แต่พอเรากลับมาเราก็รู้สึกว่าเราได้รับเหมือนกัน ได้รับความรู้สึกดีๆ ก็รู้ว่าจะไม่กินของทิ้งขว้าง จะใช้ของที่ประหยัด คือเหมือนเราได้ไปรู้ ไปเห็นว่าคนที่เค้าไม่มีจริงๆ มันเป็นยังไง พอแจกเสร็จ เค้าก็เก็บทิ้งกันเรียบร้อย พวกอาสาสมัครที่ไปกันก็จะไปทำความสะอาดเพื่อไม่ให้เค้ามาว่าเอาได้ว่าเรามาแจก แต่ทำพื้นที่เค้าสกปรก

    เมื่อวันก่อนก็รวบรวมเงินจากพี่ๆ เพื่อนๆ ประมาณหมื่นนึง ไปซื้อของ ขนม นม พวกผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยาสามัญประจำบ้าน แล้วก็มาแพ็คที่บ้าน ใส่เป็นถุงๆ ไว้ ตอนนี้ได้ประมาณ 300-400 กว่าถุงแล้ว ก็ใส่ลัง แพ็คไว้ เดี๋ยวจะไปอีกรอบ จริงๆ มันก็ไม่ได้มีแต่มูลนิธิที่ไปแจก มีคนทั่วไป เค้าก็ใส่ถุงมา แล้วไปเปิดท้ายแจกด้วย เค้าก็แจกกันเรียบร้อย

    ด้วยความที่ว่าเราไปเอง ไม่ได้มีใครมาบังคับหรือจ้างเราไป พอเห็นเราก็อยากไป แล้วคือตำแหน่งที่ว่างเป็นเกี่ยวกับการทำอาหารพอดี มันก็เป็นอะไรที่เราชอบ แล้วก็เคยทำอยู่แล้ว เราก็เลยคิดว่าถ้าเราไปช่วยก็คงได้อะไรเยอะ อีกอย่างนึงด้วยความที่เราเป็นดารา นักแสดง เราลง IG ลงเฟซบุ๊ค คนเค้าก็จะได้เห็นกัน แล้วใครที่มีความสนใจจะเป็นอาสาสมัคร เค้าจะได้รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยากหรือเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ และทางมูลนิธิเค้าก็บอกว่าทุกครั้งที่พวกเราไป เราก็ไปในฐานะเพื่อน พี่เค้าจะบอกว่าไม่ให้ให้เงิน คือมันเป็นการช่วยเหลือที่ปลายเหตุ มันไม่ได้รู้สึกว่าเราไปในฐานะเพื่อน เป็นการแบ่งปัน เพราะคอนเซ็ปต์เค้าก็จะเป็นการแบ่งปัน เหมือนเพื่อนแบ่งเพื่อน แบ่งอาหารกันทาน

    ใครที่สนใจอยากมา เราเองก็ไปคนเดียวนะ คือของแบบนี้บางทีไปคนเดียวสบายใจกว่า เราก็ไม่รู้ว่าเพื่อนที่เราชวนไปจะอินเหมือนเราไปเพราะมันก็ไปทั้งวัน สำหรับคนที่ไปครั้งแรกก็อยากจะให้ไปตั้งแต่เริ่มเลยค่ะ ว่าความเป็นมาของมูลนิธิหรือขั้นตอนเค้าทำยังไง อยู่แถวๆ วิภาฯ 62 อย่างบางคนก็มาสอบถามทางมูลนิธิในเฟซบุ๊ค เค้ายินดีต้อนรับอยู่แล้ว เพราะเค้าก็ต้องการทั้งแรงใจ แรงงาน สนุกดี เราเชื่อว่าถ้าไปแล้วจะได้ความรู้สึกที่ดีมากๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าคนที่ไปแบบนี้ เค้ามีจิตอาสาที่อยากทำสิ่งดีๆ ไปด้วยจิตใจที่ดี ทุกคนช่วยเหลือกัน มันแฮปปี้ แล้วเราก็ได้เพื่อนใหม่ อย่างเราเองก็ได้รู้จักกับน้อง 2 คนที่เป็นแอร์ฯ แล้วเค้าก็อยู่ใกล้บ้านเราพอดี เราก็ชวนเค้าติดรถกลับมา มันแฮปปี้เหมือนเราได้ช่วยหลายอย่าง เราก็มีความสุข สนุกดี

    สำหรับเรื่องทำบุญ ถ้ามีข่าวจะลงเรื่อยๆ บางทีก็กลัวคนจะมองว่าเราอวดหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าเราก็พอมีชื่อเสียง คนติดตามเราในโซเชียลก็ไม่ได้น้อย รู้สึกว่าใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ เป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือคนอื่นดีกว่า ถ้ามัวแต่ไปกังวลว่าคนจะหาว่าเราทำดีแล้วอวดก็คงจะไม่มีใครทำสักที ก็เลยคิดว่าช่างมัน มีคนมากระแนะกระแหนบ้างเบาๆ ว่าทำแล้วไม่เห็นต้องมาลงอะไรมากมาย แต่เราก็ไม่สนใจเพราะเรามีเจตนาที่ดี คือคนที่พูดเค้าก็ได้แต่พูด ไม่ใช่แค่ในเรื่องของการเริ่มทำดีนะ แต่แค่มีความคิดดีๆ เค้ายังทำไม่ได้เลย คนพวกนั้นเค้าไม่ได้มีราคามากพอที่เราจะไปให้ความสำคัญกับเค้า

    ต่อมากับเรื่องผลงาน ตอนนี้รอละครเปิดกล้องอยู่ค่ะ กำลังทำบทอยู่ มี 2 เรื่องแต่ยังไม่รู้ชื่อเรื่อง รู้แค่อันนึงเป็นซีรีส์หลายๆ เรื่องต่อกัน แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตอนไหน ส่วนอีกเรื่องกำลังทำบทอยู่ ประมาณเดือนพฤษภาคมน่าจะเปิดกล้องค่ะ

    ท้ายสุดก็ฝากถึงแฟนคลับ ขอบคุณที่ติดตาม อย่าง 'รักเร่' ที่เพิ่งจบไป คนก็ติดใจกันเยอะเพราะภาพละครสวย ไปถ่ายต่างประเทศ ขอบคุณที่ติดตาม อย่างบางคนที่ติดตามใน IG หรือในเฟซบุ๊ค เรื่องของการออกกำลังกาย เหมือนเราก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนสุขภาพดีด้วยการออกกำลัง"