"เวียร์" แพลนควง "เบลล่า" ดินเนอร์วันวาเลนไทน์

"เวียร์" แพลนควง "เบลล่า" ดินเนอร์วันวาเลนไทน์

      หลังจากเปิดตัวออกสื่อมากขึ้น ส่วนความหวานก็ดูจะมากขึ้นอีกเช่นกัน สำหรับ "เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ" และหวานใจอย่าง "เบลล่า ราณี แคมเปน" ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่กลายเป็นคู่รักดาราที่ถูกใจตามองและให้ความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แถมทั้งคู่ยังวางตัวได้ดีและเป็นแบบอย่างให้กับแฟนๆที่เป็นเยาวชนได้ดีอีกด้วย ส่วนวันวาเลนไทน์ที่ใกล้จะถึงนี้ไม่รู้ว่ามีแพลนแอบควงกันไปสวีทที่ไหนหรือเปล่า และภาพยนตร์เรื่องมะลิลาที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งที่ยังไม่เข้าโรงงานนี้หนุ่มเวียร์จะคาดหวังขนาดไหน เจ้าตัวเผยว่า

      ดีใจที่คนให้ความสนใจเพราะว่าจริงๆเราไม่ได้ต้องการอะไร คือเราก็เรื่อยๆ เรื่องเป็นขวัญใจคู่รักก็ดีนะ เพราะเราเองก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ถือว่าเราก็เป็นตัวอย่าง เราก็อยู่ในที่ๆสว่างคนก็จะมองเห็นว่าเราทำอะไรบ้างเรามีผลงานอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นเนี่ยพอคนอื่นให้เราเป็นคู่ขวัญใจก็ต้องขอบคุณมากๆ ก็จะพยายามเป็นตัวอย่างที่ดี ให้กับทุกๆคน เราทำตัวปกตินะ ไม่ได้ต้องมาปั้นหน้าหรือว่าทำอะไร เราก็ยังใช้ชีวิตของเราตามปกติเราก็ทำของเรามาอยู่ทุกวัน ก็จะพยายามตั้งใจทำงานเป็นหลัก เรื่องการใช้ชีวิตส่วนตัวก็อยู่ที่ว่าเราว่างเราอะไรก็ว่าไป

      ส่วนวาเลนไทน์ปีนี้จริงๆ ก็ถามเขา ไม่รู้ถูกต้องหรือเปล่าที่ไปถามเขาว่าอยากได้อะไร แต่ว่าเราอยากรู้เพราะบางทีเราก็ไม่รู้ว่าเขาอยากได้อะไร แต่เราก็พยายามนึกแหละว่าในวันวาเลนไทน์ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของผู้หญิง เราก็จะพยายามดูว่าอะไรที่เหมาะสมกับเขา สำหรับเราให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ไหม จริงๆผมให้ความสำคัญกับทุกๆวันนะ คือผู้ชายอาจจะชอบมองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆ เราก็พยายามทำให้เพราะก็ไม่ได้ลำบากอะไรที่ให้อะไรเขาในวันแบบนี้ คิวดินเนอร์ถ้าว่างก็จะไป แต่จริงๆคิววันที่14,15,16 ผมมีถ่ายงานต่างจังหวัด ของขวัญก็ต้องมีให้เขาแหละ

      ในภาพยนตร์เรื่อง "มะลิลา" ฉากเลิฟซีนผมว่าจริงๆ แล้วพอไปดูหนังโดยรวม ฉากเลิฟซีนในภาพยนตร์จะดูกลมกลืน ค่อยๆเล่าถึงความสัมพันธ์ ความรู้สึกของตัวแสดง ว่าเขารักกันเขาผูกพันธ์กันตั้งแต่เด็ก พอวันหนึ่งเขากลับมาเจอกัน เรื่องของความสัมพันธ์ไปถึงจุดๆที่ฉากเลิฟซีน ผมว่าดูสมจริง คือไม่ได้อะไรมากมายแต่มันดูสมจริง มันไม่ได้ดูเป็นฉากเลิฟซีนที่โฉ่งฉ่าง เขินไหม จริงๆตอนถ่ายก็มีบ้างแต่พอเราเริ่มซึมบทเพราะว่าเขาไม่ได้ฉากนี้ฉากแรกๆ เขาถ่ายเกือบเป็นฉากสุดท้ายของพาร์ทความรัก พอเขามาถ่ายช่วงท้ายเลยทำให้การซึมซับของคาแร็คเตอร์ตัวแสดงมันลึกละ เลยทำให้การแสดงมันง่ายขึ้น ก็สมจริง ที่ถ่ายที่เมืองไทยกับต่างประเทศเหมือนกันเป๊ะ ไม่มีการตัดฉากไหนออกร้อยเปอร์เซ็น คาดหวังเป็นพระเอกร้อยล้านไหม ไม่เลย แค่คาดหวังให้คนมาดูแค่คาดหวังให้คนมาดูหนังที่โอเคการเล่าเรื่องอาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง เป็นหนังที่มีคุณภาพอีกแบบหนึ่ง ที่นอกกระแส มันเป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปดู เป็นเรื่องที่ใช้อารมณ์ ความเงียบ และทุกๆอย่างของภาพยนตร์ที่จะดึงดูดเราเข้าไปในภวังของภาพยนตร์