“ตั้ม วราวุธ” หวนจับไมค์ ปล่อยซิงเกิลใหม่ “มาเมาท์” ในรอบ 4 ปี
ห่างหายจากงานเพลงไปนาน 4 ปี จนแฟนๆ บ่นคิดถึงเสียงเพราะๆ อยู่นาน สำหรับนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี “ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” ล่าสุดหวนกลับมาจับไมค์ร้องเพลงอีกครั้ง ปล่อยซิงเกิล “มาเมาท์” มีโอกาสได้เจอหนุ่ม “ตั้ม” ในรายการ “DARASTORY บันเทิงเรื่องใหญ่” ทีมงาน "ดาราเดลี่" เลยไม่พลาดที่จะเข้าไปถามถึงผลงานเพลงสักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเผยให้ฟังว่า
อ่านข่าวต่อ
ที่แรก! “ตั้ม วราวุธ” อวดรูปแฟน โต้ข่าวเกย์
ก็รู้สึกกลับมาตื่นเต้นอีกครั้งในหน้าที่ของการร้องเพลง แล้วอีกอย่าง เป็นครั้งแรก ก้าวแรก ของเราที่มาแต่งเพลง เราทำเองทุกอย่าง ทุกขั้นตอน มันเลยรู้สึกว่าเหมือนเราหัดเดินในอีกเส้นทางหนึ่ง มันมีความลุ้น มันมีความหวัง มันมีความรู้สึกล้ม มีความรู้สึกทำอะไรผิดพลาด มันเป็นครูของเราเลยเพลงนี้ แล้วเราก็รู้สึกรักเพลงนี้มากๆ กว่าจะมาเป็นเพลงนี้ใช้เวลา 2 เดือนกว่าในการแต่งเพลง เพราะรีบแต่งรีบปล่อยเลย จริงๆ แล้วแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพราะว่าแฟนๆ คิดถึงว่าอยากให้เรามีเพลงสักที เพลงอะไรก็ได้แต่งออกมาหน่อย อยากฟังเพลงจาก “ตั้ม” เราก็เลยตัดสินใจแต่ง แล้วก็รีบทำให้จบ
ส่วนแนวเพลงจะเป็นแนว POP แนว Easy Listening แล้วก็จะมี “ซีดี กันต์ธีร์” เข้ามาแร็ปช่วยด้วย ผมอยากให้เพลงนี้ออกมาเป็นแนวฟังสบาย ฟังบนรถได้ ฟังในร้าน ในคลับได้ ผมทำเองทุกขั้นตอน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำดนตรีเอง แต่จะเป็นคนไปออกแนวคิดว่าทำแบบนี้ได้ไหม แบบนั้นได้ไหม ส่ง Reference ไปให้เขา อยู่ทุกขั้นตอน
การทำงานกับ “ซีดี” ผมรู้สึกน้องเป็นเด็กที่เก่งมาก ผมโชคดีมากที่ทำเพลงแรกกับน้อง น้องมีประสบการณ์ในการแต่งเพลงมากกว่าผม ซึ่งผมยอมรับเลยว่าน้องเก่งจริงๆ สามารถแต่งท่อนแร็ปให้ผมภายใน 15 นาทีเสร็จเลยได้ บางมุมน้องก็เป็นครูเรา สอนเรา บางอย่างน้องเก่งกว่าเรา เป็นคนเสนอแนวทางให้เรา แล้วเราก็ใช้เวลาไม่นานในการติดต่อกัน เพราะผมกับน้องสนิทกันมาก เหมือนเป็นพี่น้องกันแท้ๆ
ทำเองทุกอย่างแล้วก็รู้สึกดีใจ รู้สึกภาคภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ เพราะเราเต็มที่กับมัน อาจจะมีอุปสรรคบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็รักมัน เพราะเพลงนี้มันเป็นครูเรา ในส่วนของที่ค่ายเขาไม่มีนโยบายในการทำเพลงแล้ว ศิลปินในค่ายก็ออกมาทำเพลงกันเอง ถ้าใครอยากจะทำ อยากจะออกเพลง ก็สามารถออกมาทำเองได้ ซึ่งผมรู้สึกว่าเราแต่งเพลงไม่เก่ง ก็เลยอ่อยคนอื่นให้เขามาช่วยแต่งเพลงให้หน่อย แต่ก็ไม่มีใครติดต่อทาบทาม ด้วยตัวผมเองก็ดิ้นรนไม่พอด้วย เพราะทำงานด้วย ในความหลากหลายของงานผมมันก็ไม่ได้ชัดเจนเรื่องร้องเพลงด้วย คนที่เขาเป็นนักแต่งเพลงเขาก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาหาเรา เราก็เลยพยายามแต่งเอง เพื่อให้มันเป็นจุดเริ่มต้นในการแต่งเพลงเองของเรา และเป็นเส้นทางในการร้องเพลงของเราอีกครั้ง การเซ็นสัญญาก็เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง