“ฟลุค เกริกพล” จุก! สูญเสียน้องชาย “เบียร์ สรณัฐ” คิดว่าเขาต้องเป็นคนจัดงานศพให้ผม!
ก่อนหน้านี้สูญเสียน้องชาย “เบียร์ สรณัฐ” จากไปกะทันหัน ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันและสมองขาดออกซิเจน ขณะที่ครอบ ครัวรอพี่ชายอย่าง “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” กลับจากต่างประเทศเพื่อทำพิธีลอยอังคารส่งเป็นครั้งสุดท้าย มีโอกาสเจอหนุ่ม “ฟลุค” เลยถามถึงเรื่องนี้ว่า...
อ่านข่าวต่อ : ฟลุค เกริกพล" รับใจหายไม่อยากจะเชื่อว่าเสียน้องชายไปแล้ว เผยเตรียมลอยอังคาร
“เดี๋ยวใกล้แล้วกำลังจะไปลอยอังคารน้อง ตอนนั้นงง เอาจริงๆ มันเป็นอะไรที่เราคาดไม่ถึงอยู่แล้ว พูดตรงๆ ยังไม่รู้สึกว่าจริง สมมติทุกวันเกิดของใครสักคนในบ้าน ก็มีนัดกินข้าวกันบ้างอยู่เรื่อยๆ ก็อาจจะรู้สึกว่ามันยังไม่จริงก็ได้ คือยังไม่กล้าไปหาน้องที่บ้าน ไม่อยากไปรับความรู้สึกนั้นแต่มันก็ใกล้แล้ว เพราะผมว่าจะไปเยี่ยมน้องที่บ้านก่อน ก่อนที่จะไปลอยอังคาร จริงๆ เขาก็เป็นคนมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มันไม่ได้เยอะ ผมนึกว่าเขาต้องเป็นคนมาจัดงานศพให้ผม ผมเป็นพี่เขาเยอะพอสมควร หลายปีไม่ถึง 10 แต่ก็เยอะ เป็นจังหวะที่ไปต่างประเทศไม่ได้มาร่วมงานน้อง
คือวันแรกก็งง แล้วพออีกสัก 3-4 วัน เราก็ไปทำบุญ เราไปวัดไทยที่โน่น ก็ทำบุญให้น้อง เป็นครั้งแรกที่เวลาเราทำบุญแล้วเราจะอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรโน่นนี่นั่น อันนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้นึกถึงใครเลย นึกถึงเบียร์คนเดียว นึกถึงน้องไปเลย ก็พูดถึงให้น้อง แล้วก็ระหว่างที่เราทำบุญ คือผมเป็นคนไม่ค่อยอินกับศาสนาเท่าไหร่ แต่วันนั้นก็ขนลุก รู้สึกเหมือนน้องมา ไม่มีลางบอกเหตุอะไรเพราะว่าก่อนหน้านั้นเป็นวันเกิดน้องอชิ แล้วเราก็จัด เบียร์ก็ยังมาเป็นคนถ่ายวิดีโอให้ เขาเป็นคนน่ารัก เขาเป็นคนที่รักพี่รักน้องมาก แล้วก็จะเป็นคนเดียวในพี่น้องที่จะมีของขวัญให้นาตาชาตลอด
ไม่มีอะไรติดค้าง ก็คุยกับเขาเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ตาม ถ้าปัญหาที่เขาคิดว่ามันหนัก คิดว่าปรึกษาผมได้ เขาก็จะโทร.มา เขาจะเป็นคนที่คุยกับผมเป็นชั่วโมงในหลายๆ ครั้งที่มีปัญหาชีวิต เรื่องฝันไม่ได้ฝันถึง เขาไม่มา ถามว่าเรียกว่าไหลไหม น่าจะเป็นอย่างงั้น ได้รับคำบอกกล่าวจากคุณพ่อ จากน้อง ผมไม่รู้เรื่องเลย ตกใจ เขาจากไปเพราะไหลตาย ส่วนเป็นเพราะไลฟ์สไตล์ นอนดึก กินดื่มไหม เราไม่รู้จริงๆ แต่ว่าก็แค่เสียดาย เสียดายว่ามันเร็ว
พยายามไม่พูดถึงเพราะรู้สึกทุกครั้ง ตอบแทนคนอื่นไม่ได้เพราะยังไม่ได้คุยกันเลย พอพูดถึงแล้วมันก็จะรู้สึก ทุกวันนี้ผมเองก็พยายามที่จะไม่แตะส่วนนี้ในหัวว่าน้องไม่อยู่ เพราะก็เชื่อว่ายังอยู่ ถามว่าทำใจได้หรือยัง ผมไม่อยากทำใจ รู้สึกว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะต้องทำใจ ผมว่าวันลอยอังคารอาจจะเป็นอีกฟีลลิ่งหนึ่ง แต่วันนี้ก็ยัง
ไม่อยากไปอยู่แบบไกลๆ ที่มันแบบน่ากลัวๆ บางคนเขาก็จะแบบออกทะเลใช่ไหม ให้ไปไกลๆ ผมก็คิดกับที่บ้านว่า ทุกคนชอบแบบความสุข แฮปปี้ ชอบดนตรี ก็เลยจะลอยแบบออกไปเจ้าพระยา แต่ให้มันมีความรู้สึกว่าอยู่ในเมือง คือแบบไปเยี่ยมได้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่อยากไปอยู่ไกลๆ ขออยู่สวยๆ ถ้าเกิดที่บ้านไม่ว่ากัน ที่สระก็ได้ ถ้าเป็นผมๆ อยากอยู่ใกล้ๆ ผมไม่อยากไปไกลนะ ให้ไปไหน ไม่เอานะ แบบเอาใกล้ๆ ได้ไหม กลัวเหมือนกัน ก็เลยคิดแทนๆ ก็หวังว่าเขาจะชอบ”
