“เขื่อน เคโอติก” โพสต์ร่ายยาวหลังถูกบูลลี่บอดี้เชมมิ่ง บอกให้กำจัดขนหน้าแข้ง
ได้สวมชุดว่ายน้ำวันพีชสีสันสุดจี๊ดโพสต์ท่าให้ได้เห็นกันผ่านไอจีแต่งานนี้กลับเจอคอมเมนต์บูลลี่เกี่ยวกับ Body shaming ซึ่งเป็นการวิจารณ์ร่างกายของบุคคลอื่นโดยเปรียบเทียบล้อเลียนจนส่งผลให้อีกฝ่ายอับอายกับร่างกายของตัวเขาเองและหลายครั้งได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจรวมถึงความเชื่อในคุณค่าตัวเองของคนหนึ่งคนด้วยโดยเฉพาะเรื่องขน สำหรับ “เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” หรือ “เขื่อน เคโอติก”
อ่านข่าวต่อ : “เขื่อน เคโอติก” เปิดใจ เลิกสามี ยอมรับรักมากแต่เข้ากันไม่ได้
โดยมีคอมเมนต์บอกอยากให้เจ้าตัวเลเซอร์ขนออกจะได้ดูละมุนกว่านี้หรือถ้าโกนขนรักแร้จะสวยมากกว่านี้นะ งานนี้เลยทำให้ “เขื่อน เคโอติก” ได้มีการแคปข้อความดังกล่าวมาโพสต์พร้อมฝากข้อคิดร่ายยาวในไอจีระบุว่า “เขื่อนเป็นคนหนึ่งที่มีขนขาเยอะมากๆค่ะ มีขนตั้งแต่ขาขึ้นไปถึงก้นเลย **ตามรูปนี้นะคะ:)**
และหลายๆครั้งที่เขื่อนอัพรูป ก็ยังมีคอมเม้นในรูปแบบแอบแฝงว่าเป็นห่วงอยากให้โกนขนขาเพื่อความสวย (beauty standardsไว้มาคุยกันต่อรอบหน้านะคะ) เราอย่าลืมนะคะว่าความสวยงามเป็นเรื่อง subjective (ปัจเจก) และกลับมาที่ my body my choice นะคะ (ร่างกายฉัน ฉันเลือกเอง) เราควรเคารพการตัดสินใจกับการเลือกเกี่ยวกับร่างกายของทุกๆคนนะคะ
วันนี้หมวยจะมายกตัวอย่างของการ Body shaming ที่มาในรูปแบบของการเคลือบน้ำตาลที่ดูเหมือนการให้กำลังใจ การทักทาย หรือความเป็นห่วง (Slideรูปต่อไปนะคะ:)) หลายๆครั้งสังคมเรา Normalised การ shaming ให้เป็นการทักทาย เช่น "อ้วนขึ้นนะ ระวังไม่สวย" "อุ้ย ทำไมดูผอม จนโทรมเป็นห่วงนะ" หรือ "ถ้าโกนขนขาจะสวยกว่านี้นะคะ" และอีกมากมาย ไม่ว่า context หรือความตั้งใจให้เป็นยังไง ประโยคทักทายเรื่องรูปร่างหน้าตา
หลายๆครั้งก็คือ Body Shaming ค่ะ เราเห็นรูปลักษณ์ของคนๆหนึ่ง แต่เราไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกยังไงกับคำพูดของเรา เรามีหน้าที่รับผิดชอบคำพูด และการสื่อสารของตัวเอง เพื่อเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กันละกันนะคะ หมวยฝากด้วยนะคะ #lgbt #lgbtq #lgbtq #queer #equality #gay #genderqueer #genderfluid #genderfluid#pride #loveislove #gaylife #asexual #lgbtcommunity #mentalhealth #letboysbefeminine #degenderfashion”