“มีน พีรวิชญ์” เคลียร์ชัดปมดราม่าแย่งซีน “แปลน รัฐวิทย์” พร้อมอัปเดตสถานะหัวใจกับ “ดรีม อภิชญา”
เกิดเป็นประเด็นดราม่าขึ้นมาหลังจากที่ทาง “แปลน รัฐวิทย์ รัฐวิทย์ กิจวรลักษณ์” ได้ไปออกรายการ “ถ้าหนูรับ พี่จะรักป่ะ” ของ 3 สาว “ก้อย-นัตตี้-ดรีม” ซึ่งมีบางช่วงที่ทำให้ใครหลายคนมองว่าได้เอาแขกพิเศษอย่าง “มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร” มาแย่งซีนหรือเปล่ารวมถึงการไม่ให้ความสำคัญกับแขกรับเชิญช่วงแอร์ไทม์หายไปบ้างหละ
อ่านข่าวต่อ : “มีน พีรวิชญ์” แจงชัดสถานะ “ดรีม” หลังคุยกันจริง วอนแฟนคลับเปิดใจ
โดยงานนี้ทาง “มีน พีรวิชญ์”ก็ได้ออกมาเคลียร์ถึงประเด็นที่เกิดขึ้นพร้อมอัปเดตสถานะหัวใจกับ “ดรีม อภิชญา” ผ่านเดลินิวส์ ออนไลน์ ให้ฟังด้วยว่า ก็รู้สึกช็อกกับความรู้สึกแรกทุกคนก็ถามกันว่าจริงเหรอที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดหรือคาดหวังที่จะมีเจตนาให้เกิดขึ้นและคนที่เขาคิดแบบนี้จะทำยังไงดีก็มีเครียดเพราะตั้งแต่ทำงานมาในชีวิตไม่เคยคิดจะไปแย่งซีนใครหรืออยากได้แอร์ไทม์อยากเด่นอยากโชว์อะไรบางอย่างมากกว่าคนอื่นทำงานเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นอยากให้คนอื่นนำหน้าด้วยซ้ำไม่คิดอยากเด่นเลย
ซึ่งพอมาวันนึงมีคนเตือนบอกว่าเป็นคนแบบนั้นก็กลับไปคิดว่าใช่ไหมสิ่งที่พยายามจะไม่เป็นมาโดยตลอดทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนั้นได้ในสายตาคนอื่นก็เป็นปัญหาใหญ่ที่โดนและรบกวนใจมากเลยรับอาจจะเป็นความผิดพลาดของพวกเราก็ต้องขอโทษและยอมรับที่อาจจะทำให้สื่อสารเจตนาอะไรบางอย่างผิดพลาดไปแต่ทุกคนนั่งถ่ายด้วยกัน 5 คนและมีผู้จัดการโปรดิวเซอร์ทุกคนไม่ได้มีเจตนาหรือคิดรู้สึกอะไรแบบนั้นทำไปด้วยความสนุกและสนิทกันแต่อาจจะไปกระทบความรู้สึกใครบางคนก็ต้องขอโทษด้วยความจริงใจ
ซึ่งพอด้วยการทำงานที่เป็นพาสแบบนั้นอาจจะไปลดบทบาทของ “แปลน รัฐวิทย์” ไปบ้างแต่ก็ยังมีอยู่ไม่ได้หายไปไหนหรืออาจจะเป็นเพราะอะไรบางอย่างที่ทำให้คนคิดแบบนั้นก็ต้องมองย้อนไปและคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็น้อมรับไว้และเสียใจเพราะทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นไม่ได้ตั้งใจแต่สุดท้ายพอมันออกมาแบบนั้นไม่มีใครรู้สึกดีแย่กันหมดก็คุยเคลียร์กันเข้าใจกันเองแต่สุดท้ายอยู่ที่แฟนคลับก็อยากให้เข้าใจในจุดนี้ด้วยโดยทุกคนเป็นห่วงความรู้สึก “แปลน รัฐวิทย์” ว่าแฟนคลับรู้สึกแบบนี้แล้วเขารู้สึกด้วยไหมทางทีมเลยโทรไปคุยว่าโอเคไหมก็เคลียร์กันไม่ได้มีปัญหาอะไรให้กำลังใจกันอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่หลายคนมองว่าเปิดตัว “ดรีม อภิชญา” เป็นแฟนก็ไม่ได้เปิดตัวขนาดนั้นตนก็ทำตัวตามปกติแต่พอมีคนถามก็พูดตามความเป็นจริงตามสิ่งที่มันควรจะเป็นถึงขั้นไหนก็พูดไปตามนั้นคนมาถามก็ตอบสถานะที่เป็นอยู่ ไม่ได้ให้น้อยหรือมากกว่าที่เป็นอีกอย่างมันอยู่ที่จังหวะเวลาความสบายใจของทุกฝ่ายด้วย ทุกคนพอใจกันที่ตรงไหนสุดท้ายชีวิตคนเราก็ไม่ได้ยืดยาว หรือต้องเปิดเผยปกปิดอะไรเท่าไหร่ปล่อยไปตามธรรมชาติของมัน
สำหรับความประทับใจในตัวฝ่ายหญิง ก่อนหน้านี้คิดอยากได้คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจเป็นตัวเองได้มากที่สุดก็หาคนแบบนั้นตลอดแต่พอวันหนึ่งได้เจอคนอีกแบบหนึ่งที่พออยู่ด้วยแล้วไม่ใช่แค่ได้เป็นตัวของตัวเองแต่สามารถไปอยู่ได้มากกว่าในจุดที่เคยเป็นรู้สึกสนุกกับสิ่งนั้นได้ดีมากขึ้นมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีความสุขมากขึ้นก็ควรเอาตัวเองไปอยู่ในที่แบบนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนั้นซึ่งตอนนี้ก็แฮปปี้เรื่อยๆหากมีปัญหาก็แก้ไปตามสิ่งที่เกิดก็อยากให้ทุกคนเข้าใจและปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ