“ปิ๊ง จิดาภา” ร่ายยาวขอโทษอีกรอบ ได้รับผลแล้ว ไร้งาน ไม่มีรายได้ ช่อง youtube ถูกปิด

แม้ก่อนหน้านี้นักแสดงสาว “ปิ๊ง จิดาภา วัชรสินาพร” จะออกมาขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ถ่ายคลิปหนุ่มเอาถุงพลาสติกครอบหัวน้องหมาคอร์กี้เพื่อลงโทษ จนเกิดกระแสดราม่าในโลกโซเชียลของคนรักสัตว์ ก่อนขุดอดีตแฉต่อว่าเคยโพสต์เมาแล้วขับ และเหยียดเชื้อชาติ ทำให้สร้างความไม่พอใจกับใครหลายคน

อ่านข่าวต่อ : “ปิ๊ง จิดาภา” ขอโทษแล้ว ปมถ่ายคลิปเอาถุงครอบหัวน้องหมา

ล่าสุดสาวปิ๊งได้ออกมาร่ายยาวชี้แจงอีกครั้ง พร้อมขอโอกาสกับสังคม โดยระบุข้อความว่า

“ปิ๊งขอชี้แจงแบบชัดๆ อีกรอบนะคะ จากเรื่องน้องหมาของเพื่อน ที่ปิ๊งได้ถ่ายลงสตอรี่ไอจีของตัวเอง ตอนเพื่อนสอนและเล่นกับน้องหมาในทางที่ผิด ปิ๊งขอโทษกับสิ่งที่ปิ๊งได้ทำลงไป และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้วิธีการสอนหมาที่ถูกต้อง หรือเล่นกับหมาปกติเป็นยังไง อาจเพราะมาจากปิ๊งไม่เคยเลี้ยงหมาด้วย เลยไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรสำหรับหมา ไม่ได้ศึกษาหรือรู้เรื่องเลย แต่ตอนนี้ปิ๊งรู้แล้วและจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ก็ขอบคุณทุกๆคนนะคะ ที่แนะนำและช่วยสอนปิ๊งอีกแรง

และเรื่องที่ปิ๊งลงสตอรี่ว่า ขับรถ เมา ปิ๊งต้องขอโทษที่เขียนแคปชั่นไม่เคลียร์ ทำให้เกิดการสื่อสารและเข้าใจผิดพลาด ว่าปิ๊งเป็นคนขับเอง แต่ยืนยันว่าทั้งตัวปิ๊งเองและเพื่อนไม่มีการเมาแล้วขับหรือดื่มในรถแน่นอนค่ะ และเรื่องสุดท้ายการเหยียดเชื้อชาติ คือ อันนี้ปิ๊งไม่ได้มีเจตนาจะเหยียดใดๆ เลย ทั้งเพื่อน roommate ตอนแลกเปลี่ยน หรือพี่บัง ก็เป็นคนรู้จักของปิ๊งเอง ปิ๊งแค่ลงแซวๆ แต่งตัวให้พี่เขาเฉยๆ ไม่มีอะไร

ขอโทษทีปิ๊งลงสตอรี่โดยไม่ทันได้คิดอย่างถี่ถ้วนก่อนลง ขอโทษที่อาจจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่คนอื่นๆ ปิ๊งคิดน้อยเอง ปิ๊งคิดว่าการลงสตอรี่มันเป็นแค่การเก็บความทรงจำ เป็น diary ของเรา แต่ลืมคิดไปว่ายังมีคนมากมาย มีเยาวชนที่ติดตามปิ๊งอยู่ ปิ๊งสัญญาว่าหลังจากนี้จะไม่มีเหตการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จะคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อนจะลงสตอรี่หรือโพสต์ใดๆ ขอบคุณบทเรียนครั้งนี้จากทุกๆ คนนะคะ

สุดท้ายนี้ ปิ๊งขอให้จบทุกอย่างเพียงเท่านี้ ขอโทษกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตอนนี้ปิ๊งได้รับผลจากสิ่งที่ปิ๊งได้ทำไปแล้ว ปิ๊งไม่มีงาน ไม่มีรายได้โดนปิดรายการ youtube ที่เคยเป็นรายได้ไปหมดแล้ว งานบันเทิงก็ไม่มี ปิ๊งอยากให้ทุกคนเห็นใจและให้โอกาสปิ๊งด้วยนะคะ

และช่องรายการยูทิวบ์ Money Ping เอง ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่เสียหายอะไร หรือสอนไปในทางไม่ดี มีแต่ให้ข้อมูลและความรู้ดีๆ กับผู้อื่น เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการเงิน ยิ่งในยามวิกฤตแบบนี้ ก็เสียดายที่ตัวเองตั้งใจทำมันมาแชร์และแบ่งปันความรู้เรื่องเงินให้กับคนอื่นๆ เป็นเวลาเกือบปี