“โอ๋ สตาร์ฮันเตอร์” เสริมทัพผู้บริหาร Star Hunter Entertainment ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เดินหน้าผลิตซีรีส์ 10 เรื่อง
แม้โควิด19 กำลังทำให้วงการบันเทิงโคม่า เพราะวิกฤตครั้งนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็วๆ นี้ แต่ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "โอ๋ สตาร์ฮันเตอร์" หรือ "ยชญ กรณ์หิรัญ" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กลับไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เดินหน้าซื้อนิยายสุดฮิตมาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์กว่า 10 เรื่อง เพื่อเตรียมผลิตและออกอากาศทุกแพลตฟอร์ม ตลอดปี 2021 - 2022 ทุ่มงบการผลิตกว่า 150 ล้านบาท ภายใต้โปรดักชั่นคุณภาพ สตาร์ ฮันเตอร์ สตูดิโอ
บริหารโดย เฟิร์ส - ชนันตร์ ลาภอนันต์รุ่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ สตูดิโอ จำกัด และยังได้ ครูต้า - วิทวัส สังสะกิจ อาจารย์พิเศษ ภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิที่สอนการแสดงให้กับดารา นักร้อง และพัฒนาศิลปินที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงกว่า 20 ปี มาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ดูแลการบริหารงานผลิตทั้งหมด
และล่าสุดเสริมทัพความเข้มแข็งงานด้านการตลาดกับผู้บริหารมากประสบการณ์ โรเจอร์ - ไพโรจน์ เทวินบุรานุวงศ์ ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เพื่อสร้างความเติบโตที่ไม่หยุดนิ่ง
โอ๋ สตาร์ฮันเตอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เผยมุมมองการทำงานหลังจากนี้ว่า ... “การผลิตซีรีส์เดี๋ยวนี้นอกจากบท หรือคอนเทนต์ที่เราต้องการนำเสนอ เราจะทำแค่ดีมันไม่พอสำหรับยุคนี้ ที่มีการแข่งขันสูงมาก เราต้องเพิ่มความแปลกใหม่ ปรับบทให้ดูทันสมัยตามยุคตามสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะซีรีส์วายที่เรามองว่า... ตลาดสายวาย ยังคงเป็นตลาดที่กำลังมาแรง และยังคงเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะเป็นตลาดที่มีมนต์เสน่ห์ แล้วสาววาย หรือแฟน ๆ ชาววายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือเพศใดก็ตาม พวกเรารับรู้ได้ถึงความรักที่เป็นอิสระ หรือที่เรียกกันว่า LGBTQ เป็นความรักที่ไม่ได้มีการปิดกั้นด้วยอายุ หรือเพศ สิ่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดวายยังคงโตขึ้นเรื่อย ๆ จากนี้ต่อไป
และสตาร์ฮันเตอร์ก็ทุ่มทุนซื้อนิยายวายที่ได้รับความนิยมมาไว้ พร้อมทุ่มทุนการผลิตซีรีส์ 10 เรื่อง มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท เพื่อทำให้มาตรฐานซีรีส์วายของไทยมีคุณภาพและเติบโตในตลาดโลกครับ สำหรับปีนี้เรามีซีรีส์ 4 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ถ่ายทำไปแล้วอย่าง “รักวุ่นวาย นายรสแซ่บ” ซึ่งเป็นการจับมือผลิตร่วมกันกับ กันตนา กรุ๊ป มีแพลนจะออกอากาศทางทีวีดิจิทัลช่องหนึ่ง ส่วนเรื่องใหม่อีก 3 เรื่องที่กำลังจะเปิดกล้องถ่ายทำทันทีที่รัฐบาลประกาศผ่อนปรนให้กองถ่ายทำงานได้เป็นปกติ อาทิ My Mate Match จะออกอากาศทาง LINE TV, Marry Me in 30 days ออกอากาศทาง TikTok Original และซีรีส์วายฟอร์มยักษ์แห่งปี Gen Y The Series Season2 วัยรุ่นวุ่นวายรัก จะออกอากาศทางช่อง 3 กด 33 และ iQIYI ด้วยแพลนที่เราจะทำในช่วง 2021 - 2022
เราจึงต้องมีการขยายทีมผู้บริหาร ซึ่งเราได้ พี่โรเจอร์ ที่คว่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงและตลาด มาร่วมในทีมฯ ที่จะมาช่วยวิเคราะห์ผู้บริโภคที่เป็นผู้ชมและลูกค้าได้อย่างตรงเป้าครับ
และสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างธุรกิจสายวายที่เราตั้งใจทำมากๆ เพื่อเสิร์ฟความสุข เสิร์ฟความรัก เสิร์ฟเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อให้เข้าถึงคนที่ชื่นชอบความเป็นวาย เราค่อนข้างมั่นใจว่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์สายนี้จะไม่มีวันหมดไปจากโลกนี้แน่นอนครับ
เพราะปัจจุบันผู้ชมสามารถเลือกชมสิ่งที่ตนเองสนใจได้จากหน้าจอในมือถือผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งทาง Star Hunter Entertainment ได้มีการเจรจาและหาพาร์ทเนอร์ด้านการออกอากาศเพื่อสามารถเข้าถึงกลุ่มแฟนๆ ได้ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น LINE TV, iQIYI, VIU, WeTV ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีฐานแฟนคลับต่างชาติเข้ามาใช้งานแอปพลิเคชั่นจำนวนมาก โดยเฉพาะ ตลาดจีนที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นตลาดวายที่ใหญ่มาก และจากความสำเร็จที่เราปั้นบอยแบนด์ SBFIVE จนโด่งดังไปทั่วเอเชีย เราจะนำความสำเร็จในครั้งนั้นมาปรับกลยุทธ์ให้กับซีรีส์ที่เราจะผลิตทั้ง 10 เรื่อง เพื่อให้มีเนื้อหาเข้าถึงกลุ่มแฟนคลับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างตรงเป้า และขยายฐานแฟนคลับต่างชาติให้เพิ่มมากขึ้นครับ”