กระแสซีรีส์ปัง “โบ๊ท ธารา” ปลื้ม แฟนคลับต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาก
ออกอากาศไปแล้วครึ่งเรื่องสำหรับมินิซีรีส์วาย “Golden Blood รักมันมหาศาล” ที่เรื่องนี้ได้พระเอกหนุ่มมาดเข้มอย่าง “โบ๊ท ธารา ทิพา” มาเปลี่ยนลุค สวมบทเป็นบอดี้การ์ดมาดนิ่ง แถมยังเป็นการเล่นซีรีส์วายเป็นเรื่องแรก แต่กระแสตอบรับกลับล้นหลาม โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับต่างประเทศที่ชื่นชม และชื่นชอบกับบทบาทของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ซึ่งเจ้าตัวได้เผยถึงความประทับใจว่า “สำหรับผมถือว่าโอเคเลยครับสำหรับฟีดแบ็คเรื่องนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบและถูกพูดถึงมากที่สุดน่าจะเป็นกลุ่มแฟนคลับกลุ่มใหม่ๆ ซึ่งมาจากต่างประเทศ ก็ดีใจครับ เพราะปกติผมจะไม่ได้มีแฟนกลุ่มต่างประเทศมากนัก ตอนแรกก็ค่อนข้างหนักใจเพราะ Golden Blood ถือว่าเป็นซีรีส์วายที่ค่อนข้างฉีกจากที่เคยๆ ดูกันมา”
“เพราะเนื้อเรื่องจะชูด้วยแอ็คชั่นเป็นหลัก ซึ่งถือว่าวัดใจเหมือนกันว่าคนดูจะชอบมั้ย อีกอย่างคือผมได้เปลี่ยนลุคทุกอย่างใหม่หมด คือต้องไว้หนวดไว้เครา มีผมหน้าม้า ตอนแรกคือผมนึกภาพตัวเองไม่ออกเลยนะ แต่พอได้ลองฟิตติ้งก็ต้องบอกว่าชอบนะครับ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมากๆ และคนก็พูดถึงกันค่อนข้างเยอะ”
“สำหรับเรื่องการแสดงเรื่องนี้ถือเป็นซีรีส์วายเรื่องแรกในชีวิตเลย ต้องบอกตามตรงว่าตอนแรกผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันต้องยังไง อย่างคนที่ต้องเล่นด้วยหลักๆ คือ “กัน ณภัทร” ซึ่งผมไม่เคยรู้จักน้องเค้ามาก่อน แต่พอต้องมาทำงานด้วยกันก็พยายามศึกษาหาข้อมูล วันแรกที่เจอหน้ากันผมยังจำได้ ว่านี่เหรอ “กัน” เค้ามาแบบสายแฟชั่น หล่อเนี้ยบ มั่นใจมาเลย ส่วนผมลากรองเท้าแตะ ใส่ชุดพร้อมไปเตะบอลต่อได้เลย ผมยังแปลกใจว่าเราจะมีเคมีเข้ากันได้มั้ย คือมันต่างกันมาก ทั้งไลฟ์สไตล์ หรือทุกๆ อย่างมันดูไม่ใช่ทางเดียวกันเลย แต่เราสองคนมาปลดล็อคกันได้ก็วันที่ต้องมาฟิตติ้งลองเสื้อผ้าหน้าผม ลองถ่ายรูป ลองเป็นคาแรกเตอร์ตัวละครด้วยกัน ผมรู้เลยว่ามันคลิ๊กละ หลังจากนั้นเราสองคนก็สบายๆ เล่นลื่นไหลไปตามคาแรกเตอร์โดยไม่ได้มีอะไรติดขัดอีก”
“ซึ่งสำหรับผมตัวละครของ “ซัน” ถือว่ายากกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา ด้วยความที่เค้าเติบโตมาด้วยภารกิจที่จะต้องปกป้องนายน้อย จนดูเหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีความรู้สึก ซึ่งเวลาเล่นจะต้องดูเหมือนไม่รู้สึก ทั้ง ๆ ที่รู้สึก การแสดงออกทางท่าทางจะน้อย ส่วนใหญ่จะสื่อสารความรู้สึกทุกอย่างผ่านทางสายตา เล่นน้อยแต่ต้องให้คนดูเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครว่ากำลังคิดอะไร”
“หลังจากละครออกไปวันแรกผมตื่นเต้นมาก ผมจำได้แต่พอได้ดูแล้วผมไม่ได้รู้สึกว่ากำลังดูตัวเองอยู่ แต่กำลังดูตัวละครตัวนั้นอยู่ นั่นแสดงว่าผมไม่ติดอะไร ส่วนแฟนละครก็จะเข้ามาชื่นชม ชื่นชอบที่ซีรีส์มันสนุกครบรส และมีความเข้มข้น มีแอ็คชั่น เป็นรสชาติแปลกใหม่ที่ตื่นเต้นดีในทุกตอน เดินเรื่องเร็ว”
“คอมเมนต์ส่วนใหญ่จะมาจากแฟนๆ ละครจากหลายประเทศทั้ง ไทย, จีน, อินเดีย, ออสเตรเลีย, อเมริกาเหนือ, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์ มีบางคนมาจาก “ตาฮิติ” คือผมดีใจที่มีคนได้เห็นผลงานความตั้งใจของเรามากขึ้น โลกมันเปิดกว้างขึ้น ก็ถือเป็นประสบการณ์การทำงานที่ดีมากๆ ต้องขอบคุณทุกกระแส ทุกการติดตามที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้มันเป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับผมจริงๆ ครับ ก็อยากจะฝากให้ติดตามกันต่อไปจนจบ เพราะเนื้อเรื่องจะยิ่งน่าติดตาม และมีเรื่องให้ลุ้นกันต่อไปทุกตอน”