3 เรื่องเด่นของโตเกียวโอลิมปิกจาก “แคตโตะ”

3 เรื่องเด่นของโตเกียวโอลิมปิกจาก “แคตโตะ”
       เรียกว่ากำลังเป็นที่สนใจสำหรับ โอลิมปิกเกมส์หรือโตเกียวโอลิมปิก ที่จัดที่ประเทศญี่ปุ่นในเวลานี้ 
       ดาราเดลี่ได้สัมภาษณ์และขอให้ “แคตโตะ” บล็อกเกอร์ดัง อาจาร์ยสอนภาษาไทยแก่ชาวญี่ปุ่นที่พำนัก ณ กรุงโตเกียว เล่าถึงเรื่องราวเด่นๆ สามประการจากโอลิมปิกหนนี้ ในมุมมองของเธอ ซึ่งเป็นประเด็นที่โลกโซเชี่ยลกำลังพูดถึง 

อ่านข่าวต่อ:ฟันฉับ! 5 ความหวังเหรียญโอลิมปิกของไทยในมุมมอง “แจ็ค 

       โอลิมปิกเกมส์และโควิด19
1. ในมุมมองของคนญี่ปุ่น สำหรับโอลิมปิกหนนี้มีทั้งสนับสนุนและคัดค้าน  ในด้านของผู้ที่สนับสนุน คืออยากให้มีกิจกรรมในช่วงที่ทุกคนทั่วโลกกำลังพบกับปัญหาทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจต่างๆ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอาจจะช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้ทางหนึงค่ะ บวกกับเหตุผลที่ว่า จัดหรือไม่จัดเราก็ขาดทุนอยู่แล้ว ผลจากตัวเลขติดลบจากการจัดงานโอลิมปิก ขายตั๋วไม่ได้ ไม่มีนักท่องเที่ยว สปอนเซอร์ถอนตัว ฯลฯ และถ้าไม่จัดคิดว่าคงไม่มีการเลื่อน จะเป็นการยกเลิกไปเลยค่ะ ฝ่ายสนับสนุนเลยอยากให้จัดขึ้นตามกำหนดการ 
       ส่วนฝ่ายคัดค้านแน่นอนว่าด้วยสาเหตุของโรคระบาดอันดับต้นๆ การแพ่รกระจายของเชื้อโรคจากคนที่เดินทางมาจากตปท. ซึ่งไม่ได้มีแค่นักกีฬาแต่มีทั้งสตาฟและสื่อมวลชนที่ต่างเดินทางเข้ามามากมาย 
ปัญหาเห็นได้ก่อนที่จะเริ่มพิธีเปิดแล้วตั้งแต่ตรวจพบนักกีฬาติดเชื้อโควิด แม้กระทั้งวันนี้นักกีฬาตรวจพบเชื้อหลังจากการแข่งขันจบแล้ว ซึ่งอาจจะกลายเป็นปัญาใหญ่ตามมาเช่นคลัสเตอร์ในกลุ่มนักกีฬา พิธีเปิดเมื่อวานด้านนอกสนามก็มีกลุ่มผู้ประท้วงอยู่เช่นกันค่ะ 

       สารจากโอลิมปิกเกมส์ไปสู่ประชาคมโลก
2.  โอลิมปิกครั้งนี้ญี่ปุ่นต้องการแสดงสปิริตเต็มที่ค่ะ เพราะต้องจัดอยู่แล้ว (แม้จะมีเสียงคัดค้าน) 
การจัดงานภายใต้ภาวะกดดัน ญี่ปุ่นก็หวังว่างานกีฬาจะเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับนักกีฬาที่เก็บตัวฝึกซ้อมมาเพื่อการแข่งขัน หลังจากที่เลื่อนมา 1ปีแล้ว เพราะนักกีฬาบางคนโอลิมปิกอาจจะเป็นครั่งสุดท้ายของพวกเค้าค่ะ และการมีกิจกรรมร่วมของนานาชาติ ซึ่งในช่วงนี้ไม่มีเลยอาจจะทำให้ผู้คนมีกิจกรรมร่วมกันทั่วโลกและลดความหดหู่ลงได้ค่ะ
       ญี่ปุ่นพยายามที่จะดูแลควบคุมทุกอย่างให้ดีที่สุด งดผู้เข้าชมกีฬาทุกประเภท หมู่บ้านนักกีฬาห้ามเข้าออก เพราะญี่ปุ่นอยากให้งานนี้จบลงด้วยครามปลอดภัย ซึ่งก็อาจจะมีรอยรั่วบางจุดอยู่บ้าง ต้องรอดูหลังจากนี้ว่า โอลิมปิกจบลงแล้วจะมีปัญหาใดๆเกิดขึ้นตามมาไหม หรือญป.อาจจะเป็นตัวอย่างให้สมาคมโลกได้เห็นว่าการแข่งขันกีฬาระดับครั้งนี้ญป.มีความสามารถในการจัดการดีมากน้อยเพียงใดค่ะ

        ความเป็นญี่ปุ่นในพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 
3. ความเป็นญี่ปุ่น ถูกสอดแทรกในพิธีเปิดแทบจะทุกนาทีเลย ดังที่เห็นตั้งแต่เริมชุดการแสดงแรกๆ 
ช่างไม้ช่างฝีมือที่อยู่คู่กับการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่น.มายาวนานถ่ายทอดควบคู่กับ tap dance ความเป็นสากลและความสนุกสนาน 
การส่งต่อการเป็นเจ้าภาพของโตเกียวครั้งแรกเมื่อปี 1964 ส่งมาถึงปี 2021 จากเมล็ดพันธุ์พืช ที่ได้รับมาจากนักกีฬาต่างชาติ ได้รับการดูแลอย่างดีจนเติบโตเป็นไม้ แล้วนำมาทำเป็นสัญลักษณ์โอลิมปิก (Olympic Rings) ทำให้เห็นถึงความใส่ใจของความสัมพันธินะหว่างประเทศผ่านการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 
ช่วงสุดท้ายนำการแสดงละครคาบูกิ ซึ่งถ่ายทอดโดยนักแสดงคาบูกิ

จากตระกูลเก่าแก่ชื่อดังของญี่ปุ่น ถ่ายทอดวัฒนธรรมสู่สายตาคนทั้งโลก ที่น่าสนใจมากในความเป็นญี่ปุ่น คือ การนำเสนอ POP Culture ผ่านการแสดงและเพลงบรรเลงตอนพาเหรดนักกีฬาลงสนามค่ะ 
อาทิ การแสดง Pictograms จากรายการเกม และเพลงประกอบเพลงบรรเลงจากเกมค่ะ

       หลายคนบอกว่า พิธีเปิดโอลิมปิกดูจืดชืด ไม่สมกับเป็นญป. อยากให้ทุกคนเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันน่ะค่ะ ว่าญป.เองก็กล้ำกลืนกับภาวะเครียดต่างๆเยอะมาก ทั้งกระแสคัดค้านไม่ให้จัด แต่หลังจากที่ตัดสินใจจัดก็ต้องเจอกระแสต่อต้านด้านอื่นอีก ารเลื่อนจัดโอลิมปิก 1 ปี ญป.มีความเสียหายเยอะมากค่ะ กับเหตุผลสำคัญกว่าคือในภาวะความเครียดของคนทั้งโลก ความเป็นญี่ปุ่นเราไม่สามารถแสดงความรื่นเริง สนุกสนาน ท่ามกลางความเศร้าโศกและทุกข์ใจของคนที่ประสบปัญหาได้ค่ะ

        แม้แต่การกล่าวเปิดพิธีของจักรพรรดิเอง ก็จะงดใช้คำว่า “ร่วมฉลอง” แต่เลี่ยงใช้คำแค่ว่า “เปิดพิธี” ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความรู้สึกของคนทั่วโลกและเหตุการณ์ปัจจุบันมากค่ะ ดังนั้นพิธีเปิดในคืนนั้นอาจจะทำให้หลายๆคนรู้สึกว่า ญี่ปุ่นยังแสดงออกไม่เต็มที่คะ