5 สายธรรมชาติจากคนบันเทิง
แวดวงบันเทิงที่จริงนักแสดงดาราหลายท่านนอกจากจะทำงานด้านบันเทิงแต่อีกด้านหนึ่งของชีวิตครอบครัวเขาเป็นชาวไร่ชาวสวนมาก่อน เช่น “ตุ๊ก ชนกวนันท์” พ่อแม่มีที่นาปลูกข้าวอยู่ที่สุพรรณบุรี
หรือ “เป๊ก เปรมณัช”กับภรรยา ก็ไปลงทุนทำฟาร์มพร้อมๆกับการสนับสนุนการพัฒนาเมล็ดข้าวที่เชียงใหม่
แต่ที่กำลังเป็นเทรนด์ในยุคนี้หรือที่เรียกว่า สายธรรมชาติ ต้องยกให้ 5ฟาร์มดังต่อไปนี้
อ่านข่าวต่อ:“ชาคริต” เตือนภัยมิจฉาชีพอ้างตัวแทนจำหน่ายทุเรียน
วินฟาร์มของ “เสนาหอย” “วิลลี่ แมคอินทอช” เป้าหมายของทั้งคู่ คือ การทำฟาร์มปลูกผักออร์แกนิกปลอดสารพิษ ทำเกษตรแบบอควาโปนิกส์ หรือการปลูกพืชไร้ดิน เป็นการลงทุนแบบไม่กู้ ค่อยเป็นค่อยไป ส่วนผักที่ปลูกก็จะเปิดเป็นออร์เดอร์แล้วขายส่งแบบออนไลน์
ไร่เบญจรงค์กุล ของ “ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล” เป็นโปรเจกต์ทำไร่เบญจรงคกุล ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี บนเนื้อที่กว่า 800 ไร่ โดยที่ไร่แห่งนี้ ตั๊ก สามี และลูกชาย น้องข้าวหอม ได้ช่วยกันเข้ามาดูแลเอง ตั้งแต่เริ่มลงปลูกต้นไม้นานาพรรณทั้งไม้ผลและไม้ประดับ เพื่อที่ในอนาคตจะได้กลายเป็นอาณาจักรสีเขียวอีกแห่งของ จ.สระบุรี
ไร่เขยจันท์ ของ “ชาคริต แย้มนาม” อยู่ที่จันทบุรี จุดเริ่มต้นคือการพัฒนาที่ดินหลายสิบไร่ที่เคยเป็นสวนทุเรียน โดยนำทุเรียนมาลงใหม่กว่า 200 ต้น และพืชสวนอื่นๆ เช่นมังคุด พลิกฟื้นด้วยการหาความรู้ด้านการเกษตร พืขไร่จาก ครอบครัวของคุณแอน ภรรยา และเกษตรกรในอำเภอจนเป็นสวนทุเรียนเขยจันท์
ฟาร์มอีหลี ที่อุดรธานี ของ “เกลือ กิตติ” เกิดจากได้ความคิดจากคุณแม่ที่ว่ามีที่นา แล้วลงมือการพัฒนาที่นาให้เป็นนาเกษตรผสมผสาน
ฟลอริเมล ฟาร์ม florimelfarm จ. ชลบุรี ของ “เพ็ชร ฐกฤต” เกิดจากความคิดที่ต้องการกลับไปพัฒนาที่ดินทำกินของตนเองในชลบุรีช่วงที่โควิดระบาด ตอนนี้ได้เริ่มพัฒนาให้เป็นแปลงผักและพืชสวนบางชนิด สำหรับเก็บกินและ พัฒนาดินให้เหมาะแก่การเพาะปลูก
ไร่จาตุรงค์ของ “จาตุรงค์ มกจ๊ก” ระบบการทำเกษตรของจตุรงค์ฟาร์มเป็นลักษณะเกษตรพอเพียง คือ ทำหลากหลายอย่างแต่ละชนิดจำนวนไม่มากเกินไป ทำให้ทุกอย่างสมดุล เพราะความหมายพอเพียง คือ ต้องทำให้อยู่ได้แบบสบายๆ ไม่เดือดร้อน เพื่อให้สิ่งที่ทำกลับมาเลี้ยงชีพ หากเหลือจึงนำไปขาย