เปิดใจที่แรก “ไอด้า ไอรดา” คุณแม่สุดสตรองของ “ลัลลาเบล” (2)

เปิดใจที่แรก “ไอด้า ไอรดา” คุณแม่สุดสตรองของ “ลัลลาเบล”  (2)
       สืบเนื่องจากเปิดใจ “ไอด้า ไอรดา” นางแบบคุณแม่ลูก 1 มาถึงตอนสอง  ผู้เขียนได้เปิดใจลึกลงไปถึงการเลี้ยงดูลูก และเธอได้ฉายภาพของความเป็นแม่ได้ชัดเจนมาก จากประโยคที่ว่า “เราสามารถที่จะรับมันแทนลูกได้โดยที่ไม่มีเงื่อนไขเลย อันนี้คือความเป็นแม่จริงๆ”

อ่านข่าวต่อ:“ไอด้า” สุดทนหลังอ่านข้อความ “ได๋ ไดอาน่า” ลั่น! ยอมมา ..

        ซึ่งตอนที่สองนี้ “ไอด้า ไอรดา” เล่าลงรายละเอียดมากขึ้นถึงลูกสาว “ลัลลาเบล” เราได้เห็นลูกสาวของเธอแจ่มชัดขึ้น “ลัลลาเบล” หล่อหลอมมาจากแม่ก็จริง แต่เธอโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงตามที่เธออยากจะเป็น 

Q : ได้สัมผัสถึงคำว่าแม่ ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง 
ไอด้า : เอาจริงๆ เรื่องของความเป็นแม่ เหมือนที่เค้าบอกกันเลยว่าไม่เจอกับตัวจะไม่รู้ จริงมากๆ ตอนที่ไอด้ายังไม่มีลัลลาเบลคือเข้าใจเรื่องราวความสัมพันธ์ของความเป็นแม่ เป็นลูกอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้เก็ทขนาดนั้นว่า เห้ยทำไมอะ ทำไมจะต้องขนาดนี้ขนาดนั้น จนมามีลูกเองเข้าใจเลยว่าบางทีที่คนบอกว่าอย่าไปตามใจลูกมากหรืออย่าไปให้ท้ายลูกมาก อย่าไปสปอยลูกมาก เรารู้เลยนะบางทีมันไม่ใช่การอยากจะสปอย หรืออยากจะตามใจเค้า เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนด้วยความรักลูกเลยทำให้เราไม่ได้ตั้งใจจะสปอยหรือตามใจเค้าจนเกินไป แต่เราแค่เข้าใจลูกในมุมของลูกมากกว่าคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ 
       นึกออกไหมคะ มันเลยทำให้บางทีพอเรามีความเข้าใจลูกในจุดนี้มากหรือเก็ทว่าลูกต้องการอะไรมากๆ โดยที่ไม่ใช่แค่สิ่งของนะคะมันเลยทำให้เราดูเหมือนจะสปอยลูกหรือตามใจลูกมากจนเกินไปในสายตาคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เราแค่มองเห็นว่าจุดที่เป็นจุดวีคของเค้า เค้าต้องการสิ่งนั้นมาเติมเต็ม แล้วในความเป็นแม่ถ้าเราให้ได้เราก็อยากให้เค้าให้เต็มที่ นั้นแหละคือจุดหนึ่งที่ไอด้าสัมผัสได้ว่าโอเคคำว่าพ่อแม่รังแกฉันบางทีมันเป็นเส้นบางๆ ของการที่เราเข้าใจลูกแล้วก็รักลูกมากจนล้ำเส้นไป เราจะระวังเรื่องตรงนี้มากๆ เลยค่ะ   

        เพื่อที่จะไม่ให้มันกลายเป็นจากความเข้าใจความรักและมันกลายเป็นพ่อแม่รังแกฉันมากเกินไปจนลูกแบบสปอยหรือทำอะไรโดยที่ไม่รู้แล้วว่าอะไรคือผิด คือถูก แล้วก็ในเรื่องของคำว่าแม่อีกแง่หนึ่งที่ไอด้าสัมผัสได้เลย คือเราสามารถที่จะยอมตายแทนลูกได้ แต่อันนี้คือเป็นเรื่องจริงมาก ๆ คืออะไรก็ตามที่มันเกิดกับลูกแล้วทำให้ลูกเราต้องเจ็บตัวหรือว่าต้องเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุอะไรก็ตาม เราสามารถที่จะรับมันแทนลูกได้โดยที่ไม่มีเงื่อนไขเลย อันนี้คือความเป็นแม่จริงๆ ที่มันแบบมาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจหรือว่าไม่ได้คิดมาก่อนเลย มันเป็นความรู้สึกนี้จริงๆ เป็นความรู้สึกที่มีความสุข 
       ทุกวันนี้ยังคิดขอบคุณทุกวันเกิดเราหรือวันเกิดลูก เราจะนึกถึงเรื่องนี้ตลอด ขอบคุณทุกอย่างในโลกนี้ที่ทำให้เรามีเค้ามา เรามองว่าเค้าคือของขวัญไม่ว่าจะในแง่ไหนก็ตาม เค้าทำให้ชีวิตเราทุกด้านดีขึ้น ทำให้เราเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น เหมือนเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเราอย่างเดียวที่เรามีตอนนี้

Q : ลูกสาวสนใจการเรียนด้านไหนพิเศษไหม วิชาอะไร อยากสนับสนุนเขาเรื่องอะไร 
ไอด้า : ลัลลาเบลเค้าสนใจถ้าหลัก ๆ ที่เห็นได้ชัดแน่ ๆ คือ Art กับ Performance เค้าชอบมาก คือทุกวันเนี่เค้าจะชอบทำงานศิลปะไม่ว่าจะเป็นทั้งระบายสี ทุกสีเลยนะคะชอบหมด แล้วก็ทำพวกงานประดิษฐ์ต่าง ๆ พับกระดาษเป็นนู้น เป็นนี่ เป็นงานอาร์ททุกอย่างเลย เค้าชอบดูยูทูป ชอบทำตามค่ะหรือปั้นใครเอย อะไรเอย ชอบมาก กับด้านเพอร์ฟอร์แมนช์อันนี้เป็นที่เค้าไม่ยอมรับ แต่เราเห็นในตัวเค้า 
       คืออย่างอาร์ทเนี่ยเค้ายอมรับเลยว่าเค้าชอบ เค้าขอซื้อสี เค้าขอซื้อเครยอน  ขอซื้อเฟรม ขอซื้อกระดาษมาเพื่อทำ บางทีทำแล้วก็เอามาให้แม่ ทุกคนในบ้าน แต่อย่างเพอร์ฟอร์แมนช์อะค่ะ คือเค้าชอบร้องเพลง เค้าชอบเต้น เค้าชอบเล่นละคร ชอบรีวิว ชอบทุกอย่างที่เป็นการแสดงออกเลย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าตอนเด็กเค้าไม่ชอบ คือช่วงเด็กเหมือนด้วยความที่เราไปทำงานแล้วเราพาเค้าออกไปตลอด เวลาไปอีเว้นท์อะไร เจอถ่ายรูปเค้าจะเป็นคนที่แอนตี้โซเชียลเลย จะกลับมาพูดตลอดว่าทำไมหนูจะต้องถ่ายรูป หนูไม่ชอบถ่ายรูป หนูไม่ชอบให้ใครมามองหนู หนูไม่ชอบให้ใครมามองแบบถ่ายรูปแล้วก็หนูจะต้องยิ้มให้กล้อง หรือว่าต้องมาพูดให้กล้องว่าอะไรยังไง เหมือนที่แม่ทำเค้าไม่ชอบเลยแอนตี้ทุกอย่างค่ะ

        แล้วอยู่ดีๆ พอเริ่มโตมาเริ่มรู้เรื่องปุ๊ป เค้ากลายเป็นว่าชอบกล้องมาก อยู่บ้านจะต้องขอไลฟ์สดตลอด อยู่ห้องน้ำรีวิวตลอด อยู่กับแม่เล่นละครตลอด ทำตลอดและไม่เคยอายกล้องเลย อย่างไลฟ์สดนะคะ คุยกับพี่ๆ ตอนนี้ปัจจุบันต้องขอไลฟ์ทุกวันเลยก่อนนอน คุยแล้วก็เล่นเป็นแบบตัวเองสุดๆ เลย จนบางทีเล่นจนแบบเค้าเรียกว่าคึกเกินเบอร์เลยด้วยซ้ำ
       จนแม่ต้องเบรกเลยรู้สึกว่าเค้ามีพรสวรรค์ด้านนี้โดยที่เค้าอาจจะไม่รู้ตัว เวลาถามเค้า เค้าจะแบบไม่อยากแต่ว่าทุกคืนจะต้องมาขอรีวิว หรือขอไลฟ์หรือขอทำคลิปค่ะ ก็ถามว่าถ้ามันมีโอกาสของเค้า เราก็เต็มที่เลย แต่ถ้าสมมุติว่าถึงเวลาจริง ๆ แล้วเค้าไม่อยากทำ ไอด้าจะไม่ฝืนเลย เพียงแต่ว่าที่ผ่านมามันเป็นอะไรที่ลัลลาเบลอยากทำเองตลอด อย่างเวลาน้องมีงานติดต่อเข้ามา ไอด้าจะมาถามน้องตลอด แล้วน้องก็โอเคตลอด เช่น ถ่ายแบบ เค้าจะชอบพูดว่าเค้าไม่ชอบ ๆ 
       แต่พอมีงานมาจริง ๆ แล้วหม่าม๊ามาถามเค้า เค้าก็จะอยากลองดูแล้วพอพาไปถ่ายเค้าทำได้โดยที่เราไม่ต้องบอกเลย จิกกล้องแตกโดยที่แบบตากล้องต้องบอกว่าน้องพักก่อน รูปนี้ขอสดใสบ้าง คือเค้าจะเป็นเด็กที่เฟียสมากตั้งแต่เกิดเลย เหมือนมันเป็น Personality ของเค้าโดยที่บางคนอาจจะมองว่าเห้ยมันดูก้าวร้าวนะ มันดูเป็นเด็กที่แบบมั่นใจในตัวเอง แต่ไอด้าไม่มองแบบนั้นเลยไอด้ามองว่าอาจจะเพราะว่าเราอะเห็นเค้าตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เกิดไงคะ 

         ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กเค้าก็มี Personality แบบนี้เลยคือเป็นเด็กที่เฟียส มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก แล้วยิ่งโตมาอะไรตรงนั้นมันยิ่งชัด ลัลลาเบลยิ่งแบบแสดงว่าให้เห็นว่าลัลลาเบลคือเด็กคนนึงที่โคตรเป็นตัวของตัวเองเลยค่ะ ไม่มีปรุงแต่งเลยจริง ๆ ไม่มีอะไรที่ไอด้าสามารถจะไปบังคับเค้าหรือว่า เอาตัวเองเข้าไปซึมกับเค้าได้เลย แม้แต่สไตล์การแต่งตัว  
       หลายคนเคยพูดว่าอุ้ยคุณแม่แต่งตัวเก่ง ลูกต้องแต่งตัวเก่งเหมือน ลูกต้องชอบเหมือน เราคงจะต้องส่งต่อตรงนั้นไปให้ลูกได้แน่ ๆ ไม่ได้เลยค่ะ แล้วลัลลาเบลมีตัวของตัวเองสูงมาก ทุกอย่างที่เค้าเป็น คือมันมาจากเค้าเลือกเองทุกอย่างเลย เค้าไม่เชื่อเราเลยแม้แต่นิดเดียว