“กร ษิภูตา” สุดทรมานเล่าอาการปากมดลูกสั้น–เบาหวานขณะตั้งครรภ์-ภาวะโปรตีนในเลือดต่ำ
จากกรณีที่ “เป้ บดินทร์ เจริญราษฎร์” หรือ “เป้ วงมายด์” ต้องพาตัวภรรยาสาว “กร ษิภูตา” เข้าแอดมิทที่โรงพยาบาลโดยด่วนเพราะมีภาวะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด จนต้องกินยาระงับการคลอดและอยู่ในการดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิด ตามข่าว และเมื่อคลอดน้องฝาแฝดออกมาได้
อ่านข่าวต่อ:“เป้ วงมายด์” โพสต์แนะวิธีดูแลภรรยาตั้งครรภ์ หลังพา “น้อง
“กร ษิภูตา” คุณแม่มือใหม่ก็มีเวลามาเล่าถึงอาการหลากหลายอาการก่อนคลอดน้องมิวสิค ไลริก นั่นคือปากมดลูกสั้น
เริ่มจากการแพ้ท้องที่สุดแสนจะทรมานตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้ 6 วีค ยาวไปเรื่อยๆ จนคลอด กอดโถชักโครกทุกมื้อ ตามมาด้วยภาวะปากมดลูกสั้นตั้งแต่ ช่วง 15-16 วีค ปากมดลูกกรเหลือ 2.8 ซม ตอนนั้นเริ่มอัดยาเพื่อพยุงปากมดลูกและคุณหมอขอนัดทุกอาทิตย์เพื่อติดตามอย่างใกล้ชิดที่สุดและฉีดยากันแท้งทุกครั้ง ผลออกมาคือปากมดลูกกรสั้นลงเรื่อยๆ มีแค่บางอาทิตย์ที่ดูนิ่งไป กร bed rest เองที่บ้านตั้งแต่ย้ายตัวอ่อนจนถึงคลอด จะมีออกไปข้างนอกบ้างนานๆ ครั้ง ซึ่งจะนั่งวีลแชร์ตลอด
กรรู้จักอาการท้องแข็ง ตั้งแต่ก่อน 20 วีค ซึ่งนั่นเป็นสัญญาฯที่ไม่ค่อยดี สำหรับคนตั้งครรภ์ ปกติคุณแม่จะรู้จักท้องแข็งก็ช่วงใกล้คลอดกันแล้ว ตอนนั้นคุณหมอเริ่มให้ทานยาคลายมดลูก ซึ่งผลของยาตัวนี้คือใจสั่น ทรมานมากแต่ก็ต้องอดทน เพื่อให้มดลูกไม่บีบตัว เดี๋ยวน้องแฝดจะเป็นอันตราย
จนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ อาการกรยังไม่ค่อยดี คุณหมอเลยตัดสินใจฉีดกระตุ้นปอดให้เด็กๆ 4 เข็ม 1 โดส เผื่อว่าจะต้องคลอดเร็วๆนี้ หลังจากนั้น เราก็ยื้อกันมาเรื่อยๆ เพิ่มยาตามอาการ
ช่วงนั้นกรเริ่มมีอาการเลือดออกในช่องปากเยอะมากๆ แค่ตื่นมาก่อนแปรงฟันบ้วนปากก็มีเลือดออกมาเป็นสดๆ กองๆ หรือแค่เคี้ยวไข่ต้มอยู่เฉยๆ เลือดก็ออกมาจนคาวเต็มไปทั้งปาก
มาถึงสัปดาห์ที่ 28 กลืนน้ำตาลเจอภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้โดนควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด จากที่แพ้ท้องทานยายากอยู่แล้ว มาโดนคุมอาหารอีก กลายเป็นทานยากหนักกว่าเดิม ตอนนั้นสภาพจิตใจกรแย่มาก เพราะขนมหวานคือ 1 อย่างในชีวิต ขณะนั้นที่ทำให้กรมีความสุข ในแต่ละวัน อีกอย่างหนึ่งคือเจ้าแฝดชอบด้วยคะ
ผ่านไปสองวีค กลืนน้ำตาลรอบ 2 ค่าน้ำตาลก็ยังคงไม่ผ่านเหมือนเดิม คุณหมอแจ้งว่า เกิดจากฮอร์โมนท้องแฝด ส่วนค่าเกลือก็ต่ำลงไปอีก ก็ต้องคุมอาหารมากขึ้น
กลับมาเรื่องปากมดลูกอีกครั้ง ยังสั้นลงเรื่อยๆ และปากมดลูกด้านในเปิดโดยที่กรนอนนิ่งๆ เปิดๆ ปิดๆ เองแบบคุมไม่ได้แล้ว
น้องสองคนตัวใหญ่ด้วย น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตลอด อาจจะทำให้ปากมดลูกสั้นไวขึ้น แถมมิวสิคคือลงมาต่ำมาก หมอซาวน์ดูปากมดลูกผ่านช่องคลอดก็คือจ๊ะเอ๋เลย เจอหัวพี่มิวสิคตลอด และต่ำลงเรื่อยๆ กร หน่วงลงเรื่อยๆ ปวดหลังมาก
เรายื้อมาจากวีคที่ 31 ปากมดลูกกรสั้นลงเหลือ 1.4 ซม ต้องมาร พ.กลางดึก หมอให้ยากระตุ้นปอดอีก 4เข็ม แบะให้ยา ระงับการคลอดผ่านสายน้ำเกลือ ผลของยาคือใจสั้น มือสั่น กระตุก กรระบมไปหมดทั้งตัว หายใจยากขึ้น ทรมาน เพราะปริมาณยาทำให้ไม่สามารถทำให้มดลูกกรหยุดบีบตัวได้ กรยังท้องแข็ง ติดเครื่องการวัดการบีบตัวของมดลูกทุก 4 ชม. กราฟสูงขึ้นตลอด
ช่วงนั้นหมอให้ทานไข่ต้มมื้อละ 3 ฟอง เพื่อทำน้ำหนักให้เจ้าแฝด ให้ได้มากที่สุด ทรมานมากๆ 1 มื้อกรใช้เวลานาน 2 ชม.ในการทานเพราะมันไม่ชวนเจริญอาหารเอาเลย
ผ่านไปสามวัน แอดมิดไปสามวันน้ำหนักขึ้นเกือบ 6 กก. หมอตกใจ เพราะนี่ไม่ได้อ้วนจากอาหาร เริ่มเช็คร่างกาย เจอว่าขาบวมทั้งขา บวมที่หลังหมอสั่งให้เจาะเลือดทันที ผลออกมากรมีภาวะโปรตีนในเลือดต่ำ โพแทสเซียมต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ เกลือแร่ต่ำ ทั้งที่ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร และออนน้ำเกลือตลอด
จนถึงวันที่ 10 สค กรรับยาไม่ไหว พี่เป้ และคุณหมอร่วมกันตัดสินใจเราจะให้น้องแฝดออกมาสู้ข้างนอก เพราะถ้าให้ยากรมากกว่านี้ อาจจะเป็นอันตรายกับกร เราจะผ่าคลอดในวันรุ่งขึ้น หมอแจ้งว่าได้จองเลือดและไอซียูไว้แล้วเพราะกรมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซีด และ ยาระงับคลอดที่กรได้รับมีปริมาณมากตลอดทำให้กรมีโอกาสตกเลือดหลังคลอดได้