“นุ๊ก สุทธิดา” ควงสามีเด็กหนุ่มมาเลย์ “ฮากีม” เปิดใจ สยบข่าวขาเตียงหัก
เป็นข่าวเม้าท์มอยหอยสังข์อยู่นาน สำหรับเรื่องราวความรักของนักร้องถอนสายบัวในตำนาน “นุ๊ก สุทธิดา” กับสามีเด็กหนุ่มชาวมาเลเซีย “มาฮูหมัด ฮากีม บินอาซาฮา” ที่อยู่ห่างกันกว่า16ปี เลยมีอุปสรรคความรักเข้ามามากมาย จนลือกันไกลว่า “สาวนุ๊ก” ปิดฉากรักต่างวัย เพราะไม่เห็นภาพอัปเดตกับสามีเลย แถมยังรักแท้แพ้ระยะทางห่างกันเพราะสามี “ฮากีม” เป็นโควิด-19 รักษาตัวที่มาเลเซียเลยไม่ได้บินกลับมาที่ประเทศไทย และไม่พอแค่นั้น “สาวนุ๊ก” ยังเคยระบายความในใจว่าปรึกษาจิตแพทย์เรื่องปัญหาความรัก งานนี้ทั้งคู่ขอเดินทางมาเปิดใจเคลียร์เรื่องรักผ่านรายการ Z story ว่า
เรื่องไม่มีรูปคู่เตียงหักไม่รู้ว่าทุกคนเป็นมั้ย เวลาเราแต่งงานไปแล้ว เหมือนว่าตื่นมาก็เหมือนทุกวัน ก็เบื่อ แล้วพอยิ่งเรามีเรื่องเครียดๆ อาจจะไฟท์กันบ้างเรื่อง มันก็เลยอาจจะทำให้ความสวีทอ่ะ มันจางลง บวกกับว่าเราทำงานด้วยกัน พอทำงานด้วยกัน จะมีประเด็นหลายอย่างในเรื่องงาน พอกลับมาที่บ้านมันก็เหมือนกับว่าไม่อยากจะคุยกันแล้ว มันไม่ยากคุยอะ
.jpg "นุ๊ก สุทธิดา ฮากีม บินอาซาฮา เตียงหัก")
ด้าน ฮากีม บอกต่อว่าผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ สำหรับคนมีคู่ครับ โดยเฉพาะเมื่อแต่งงานกันแล้ว อยู่ด้วยยังไงก็มีปัญหากันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ ซึ่งจริงๆแล้วมันทำให้เรารู้จัก ให้สนิทสนมกันมากขึ้นครับ ทำให้เราได้รู้ถึงด้านที่อ่อนแอ และด้านที่เข้มแข็งของตัวเอง แล้วก็ค่อยเติบโตจากตรงนั้นมากขึ้นครับ ในบางช่วงเวลาก็อาจจะถึงจุดที่แย่ที่สุดได้จริงๆครับ ซึ่งมันก็เป็นอุปสรรคที่เข้ามาหาพวกเราแล้วก็ผลักให้พวกเราก้าวไปข้างหน้า แต่มีช่วงนึงที่ผมต้องกลับไปมาเลเซีย ผมได้คิดอะไรเยอะมากจริงๆ ผมได้เจอครอบครัวของผมที่นั้นและสิ่งต่างๆเข้ามามากมาย มันทำให้ผมรู้ว่าผมต้องการเธอจริงๆ ผมคิดถึงเธอมากๆครับ ผมต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างอย่างในตัวผมให้ดีขึ้นเพื่อความสัมพันธ์นี้ และเพื่อครอบครัวของเรา
ถามว่ากลายเป็นว่ายิ่งห่างกัน ไม่เจอกันเลยเพราะโควิด-19 ทำให้ความรักดีขึ้นรึเปล่า คือทฤษฎีนี้เหมือนต่างคนต่างห่างมันดีขึ้น แต่เราไม่ได้ทะเลาะกันนะคะ พอสุดท้ายเราต้องห่างกันจริงๆด้วยภาวะอะไรบ้างอย่าง แรกๆมันก็เหมือนกับว่าเราสบายมีความสุข ก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือน10ปีที่แล้วที่เราเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คือเรื่องของเรื่องตอนนั้นวันปีใหม่ นุ๊กคิดว่าเที่ยงคืนเขาต้องโทรมาแน่เลย ปรากฏว่าเที่ยงคืนก็ไม่โทรมา ที่นี้พอเช้าขึ้นก็ไม่มีข้อความมากระแนะกระแหน ตอนเย็นเขาก็โทรมาคุยกับลูกปกติ คุยกับเราปกติ เราก็เลยรู้สึกว่าคนแบบนี้ไม่เข้าใจเรา ก็เลยไปหาจิตแพทย์
ด้านความสัมพันธ์ยังดี อยากจะบอกว่าผมรักเขามากๆ ที่เข้ามาในชีวิตผมและเป็นส่วนนึงในใจของผม และผมหวังว่าเราจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งไปด้วยกันตลอดชีวิตหลังจากนี้ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง เราผ่านอะไรกันมาเยอะมาก ในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมจะรักคุณตลอดไปไม่สิ้นสุด ทุกวันและตลอดเวลา จนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตผม
