ภูมิปัญญาฝ่าวิกฤต! คุยกับ “พท.ป. ทรงกลด” โครงการ “หมอไทยพร้อม” ช่วยคนติดโควิดฟรี ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย
“โครงการเราจะช่วยคนเรื่อยๆ จะช่วยคนติดโควิดจนกว่าเค้าจะหายกันหมด หรือไม่ต้องการศาสตร์การแพทย์แผนไทย” นี่คือประโยคในตอนหนึ่งระหว่างการสัมภาษณ์ “พท.ป. ทรงกลด วัฒนพรชัย” หรือ “หมอเบิร์ด” ประธานโครงการ “หมอไทยพร้อม” โครงการที่ทำด้วยใจเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ฟรี ด้วยการรักษาแบบแพทย์แผนไทย ที่ ณ ตอนนี้มีคนไข้อยู่ในความดูแลแล้วกว่า 3,500 เคส และวันนี้ “ดาราเดลี่” จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ภูมิปัญญาไทย...เพื่อเพื่อนมนุษย์ทุกคนให้มากยิ่งขึ้น
โดย “หมอเบิร์ด” ได้เปิดใจว่า “โครงการนี้เริ่มทำมาเมื่อช่วงเดือน กรกฎาคมครับ เกิดขึ้นมาจากที่มีคนไข้ที่ติดโควิดแล้วยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล ซึ่งในช่วงวิกฤตินี้เราก็ทำยาและจ่ายยาให้คนไข้ตามภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่เราใช้ในคลินิก ซึ่งยาที่จ่ายจะไม่ใช่เฉพาะ ฟ้าทะลายโจรตัวเดียว แต่จะมีเป็นยาตำรับหลายๆ ตัว อีกทั้งมีคนสอบถามเรื่องของการใช้สมุนไพรกันมาเยอะ และประเด็นสำคัญคือเค้าไม่สามารถหาสมุนไพรได้ หรือหาได้ก็มีราคาสูง เจอของปลอมบ้างและไม่ถูกต้องบ้าง เราจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และดูแลศาสตร์การแพทย์แผนไทยเพื่อผู้ป่วยโควิด-19”
แนวทางการรักษาจากภูมิปัญญาไทย
“สำหรับแนวทางในการรักษา เราจะมีการจ่ายยาตามตำรับ จะดูว่าคนไข้มีการอาการใดๆ บ้าง ก็จะเป็นสมุนไพรที่บรรเทาอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งเราจ่ายยาภายใต้การดูแลของ ‘ทรงกรด คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์’ ตาม พ.ร.บ. เพราะฉะนั้นคนไข้มา เราจะลง OPD CARD ในทุกๆ ราย แล้วในส่วนของการแนะนำการรักษา เราจะอธิบายให้เค้าปรับตัว และประพฤติตัวอย่างถูกต้อง มีพฤติกรรมอะไรอยู่บ้าง จะซักประวัติทุกเคส ให้คำแนะนำเฉพาะราย แล้วคนไข้จะดีขึ้นภายในระยะเวลา 5 วัน ซึ่งตามปกติ เราจะมีการคุยกันครั้งแรกกับคนไข้วันที่ 1 ที่เข้ามาในโครงการ เพื่อดูว่าคนไข้เป็นมากี่วัน และมีสภาวะธาตุยังไงบ้าง เพื่อจะได้จ่ายยาให้ถูกต้อง แล้วเราต้องติดตามผลอีกทีในวันที่ 3 ว่าคนไข้ดีขึ้นมั้ย โดยปกติแล้วคนไข้จะต้องดีขึ้นภายในวันที่ 3 ถ้าไม่ดีขึ้นเราจะต้องมีการปรับยาให้ และในวันที่ 5 ในเคสที่ดีขึ้นส่วนใหญ่ก็จะจบ เพราะที่ให้ไปคือ 5 วัน แล้วเราจะติดตามอีกทีวันที่ 7 ถ้าคนไข้ไม่มีอาการ เป็น Long Covid หรือ Post Covid เราก็ถือว่าโอเคแล้ว เพราะเชื่อว่าคนไข้ดีขึ้นแล้ว แต่ก็จะทิ้งคอนแทคไว้ให้คนไข้เผื่อมีอาการใดๆ ที่สงสัยให้รีบติดต่อมา”
ทำงาน 2 ด้าน เพื่อกลุ่มผู้ป่วยที่ดูแล
“ซึ่งตามหลักการเราจะดูแลในกลุ่มของคนที่สามารถอยู่ home isolation ได้ ตอนแรกเราตั้งเป้าว่าจะรักษาในกลุ่มของคนที่สีเขียว แล้วก็ยังไม่ได้มีอาการที่รุนแรงมากที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ในกรณีหลังๆ ก็จะมีกลุ่มบุคคลที่เป็นสีเหลืองเข้มๆ หายใจไม่ค่อยดี แล้วก็หน่วยงานรัฐยังไม่ได้เข้าไปดูแล เราก็จะทำงาน 2 ด้าน คือ 1. เราใช้สมุนไพรในการช่วย ปรับในเรื่องของระบบทางเดินหายใจ 2. คือเราก็พยายามหาเตียงให้คนไข้ ด้วยการติดต่อหน่วยงาน เพราะจริงๆ แล้วผมทำงานสมาคมแพทย์อายุรเวท เป็นอุปนายกสมาคมแพทย์อายุรเวทแห่งประเทศไทย เราก็จะโคงานกับสภาการแพทย์แผนไทย แล้วก็องค์การแพทย์แผนไทยอยู่ระดับนึง ก็มีคอนเนคชั่นในการช่วยเหลือครับ”
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่กระบวนการรักษา
“คนไข้สามารถ เข้าไปที่เพจ ‘หมอไทยพร้อม’ แล้วส่งชื่อ-นามสกุล พร้อมเซลฟี่รูปผลตรวจมาที่ช่องอินบ็อก เป็นผลจาก ATK ก็นะเลยครับ เราจะมีทีมแพทย์ติดต่อไปในช่วงเวลา 9 โมง- 6 โมงเย็น แต่หากในกรณีฉุกเฉินเราก็มีแพทย์คอยสแตนบายสามารถทักเข้ามาได้ ซึ่งตอนนี้เราดูแลมีคนไข้ในโครงการทั้งสิ้น 3,500 คน แต่ของเรามีทั้งประเทศไทยและประเทศเมียนม่าด้วยที่เราส่งยาไปช่วยเค้า”
“ตั้งมั่น” ในการช่วยเหลือด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์
“เราก็ยังช่วยคนเรื่อยๆ โครงการเราจะช่วยคนติดโควิด จนกว่าเค้าจะหายกันหมด หรือไม่ต้องการศาสตร์การแพทย์แผนไทย เราจะช่วยเค้าให้ตลอดรอดฝั่ง จริงๆ ยายังสามารถหาได้อยู่ครับ ดีที่ช่วงนี้ยอดลดลงและคนไข้ก็หายาได้มากขึ้น เราก็เลยได้ยาที่ต้นทุนต่ำลงอีกก็เลยช่วยคนได้ดีขึ้น และสำหรับการใช้ตัวยาสมุนไพรนั้นตามจริงแล้ว ควรจะปรึกษาแพทย์แผนไทยจะดีที่สุด ต้องดูสมดุลธาตุเป็นหลัก ก็ทักมาที่เพจหมอไทยพร้อมก็ได้ เราก็ให้คำปรึกษาฟรีโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย มีการลงทะเบียน แล้วจะเข้าไปใน Line oa ซึ่งเราจะมีทีมแพทย์หลายท่านมาคอยตอบปัญหาให้มีแพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนไทย และเภสัชกรแผนปัจจุบัน แนะนำว่ายาสมุนไพรกับยาแผนปัจจุบันอะไรกินควบคู่ได้บ้าง หรือไม่ได้บ้างฉะนั้นจะมีการให้ความรู้คนไข้เป็นเคสบายเคส เหมือนตรวจคนไข้จริงแต่เป็น เทเลเมดิซีน เค้าก็จะได้รับการดูแลที่ถูกต้องมากกว่า หรือถ้าติดต่อมาก่อนเที่ยง เราสามารถส่งยาให้ภายในวันนั้นได้เลย หรือถ้าอยู่ในบริเวณแถวๆ คลินิกหรือฮับของเรา ตอนนี้มีจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานครก็สามารถให้ญาติมารับยาเองได้เลย หรือให้ส่งผ่านขนส่งต่างๆ ก็ได้ครับ”
ความรู้สึกจากใจคุณหมอ…
“จริงๆ แล้ว คำว่าเหนื่อย ท้อใจมั้ย มันไม่มีหรอกครับ มันเหมือนกับได้เติม Passion เรามากกว่า เพราะบางทีคนเป็นหมอรักษาโรคมานานๆ บางทีก็รู้สึกอิ่มตัวกับวิชาชีพ แต่พอได้มีโครงการนี้ก็ได้กลับมาจุดหมายเดิมที่เราเคยตั้งใจไว้แต่แรกว่า เราอยากช่วยเหลือคน มันเลยได้เติมเต็ม Passion ที่เราอาจจะลืมไป ผมเลยมองว่ามันเป็นสิ่งที่มาเติมไฟของเรา เราก็ไม่รู้สึกเหนื่อยครับ และเราก็ได้เห็นมุมดีๆ คือเค้ายื่นมือมาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคทุนทรัพย์ บริจาคตัววัตถุดิบยาสมุนไพร หรือแม้กระทั่งขนส่งที่ผมส่ง เค้าเห็นผมส่งยาคนไข้เค้าก็ช่วยผมในการไม่เก็บค่าใช้จ่าย ทำให้คนไข้ได้รับยาที่รวดเร็วแล้วก็ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย”
ทั้งนี้คุณหมอได้กล่าวปิดท้าย ถึงความมั่นใจเกี่ยวกับสมุนไพรและแพทย์แผนไทย ว่า “โดยปกติแล้วครับ คนจะเข้าใจว่าสมุนไพรหรือแพทย์แผนไทยจะเป็นศาสตร์ที่รักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป จะค่อยๆดีขึ้น เพราะฉะนั้นเค้าก็เลยเชื่อว่า แพทย์แผนไทยถ้าเกิดรักษาโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดัน เค้าก็จะเชื่อมั่นว่ารักษาได้ แต่พอมาในโรคที่ดูรุนแรง ดูรวดเร็ว เค้าก็ไม่เชื่อว่ายาแพทย์แผนไทยจะส่งผลได้ไว ซึ่งจริงๆ แล้วยาแพทย์แผนไทย ถ้าจัดถูกตำหรับ ถูกตัวธาตุของคนอย่างถูกต้องนะครับสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่กินเลยครับ กินเข้าไปปุ๊บประมาณไม่เกินซักครึ่งชั่วโมงจะรู้สึกอาการดีขึ้นเลย แต่ในการรักษาโรคจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการจ่ายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หากต้องการรักษาแบบแพทย์แผนไทย
และผมให้ความยืนยันได้เลยครับว่าสมุนไพรไทยออกฤทธิ์ได้ไว อย่างกรณีที่เราดูแลมากกว่า 3 พันกว่าเคส เค้ากินภายในระยะเวลา 3 วันอาการดีขึ้นอย่างมากครับ แล้ว 5 วันสามารถอาการหายได้เลย เพราะฉะนั้นสมุนไพรไม่จำเป็นต้องกินแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆไป เว้นแต่ในกรณีของคนที่เป็นลองโควิดหรือหายจากโควิดแล้วยังมีอาการต่างๆ พวกนี้เหมือนกับเมืองเค้าถูกทำลายและจำเป็นที่จะต้องสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ก็คือต้องมาปรับธาตุปรับสมดุลพวกนี้ต้องใช้เวลาครับ”
และนี่คือ “โครงการหมอไทยพร้อม” โครงการที่เกิดมาเพื่อใช้ภูมิปัญญาไทย...รักษาเพื่อนมนุษย์ทุกคนในการต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 หากวันนึง “เรา” หรือ “ใคร” ต้องเผชิญ!