ศาลนัดคู่ความคุ้มครองสิทธิหญิงในคดี “ทอป ณฐกร”
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ต.ค. ที่ ศาลแขวงพระนครเหนือ อาคาร เอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ น.ส.เก๋ อายุ 25 ปี เดินทางมาพร้อม ทนายเจมส์ “นิติธร แก้วโต”
ตามที่ศาลนัดการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้เสียหายและจำเลยในคดี “ทอป ณฐกร ไตรกิศยเวช”ดาราชายสังกัดช่อง 3 ที่คบหากันมาเป็นเวลานาน 2 ปี ทำร้ายร่างกาย
อ่านข่าวต่อ:“ท็อป ณฐกร” ควงอดีตภรรยา เปิดใจหลังถูกสาวปริศนาโยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นมีแค่ฝ่ายหญิงผู้เสียหายที่เดินทางมาตามศาลนัด ส่วนคู่กรณี “ทอป ณฐกร" ยังไม่เห็นว่ามาหรือไม่
สืบเนื่องจากกรณีโซเชียลฯ แชร์เรื่องของหญิงสาวรายหนึ่ง วัย 25 ปี ที่อ้างว่าโดนดาราชายชื่อดัง มาขอคบหาเป็นแฟนอยู่ 2 ปี โดยผู้ชายเซ็กซ์จัด และมารู้ทีหลังว่าฝ่ายชายมีโลกสองใบ มีภรรยาอยู่แล้ว และมาหลอกเธอ ภายหลังเกิดมีปากเสียงกันเรื่องถ่ายรูปเล่น แล้วฝ่ายชายเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว ทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอ สุดท้ายต้องไปแจ้งความเอาผิด ต่อมาในรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ทางช่อง 3 ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้ โดยได้บอกว่านักแสดงคนดังกล่าว คือ “ทอป ณฐกร ไตรกิศยเวช”
ต่อมา “ทอป ณฐกร” ออกมาเปิดเผยว่าพร้อมยืนยันว่าไม่ได้บีบคอผู้หญิงหลังมีเซ็กซ์ เผยถูกฝ่ายหญิงอัดคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กัน และภาพลับอื่นๆ ยืนยันไม่เคยทำร้ายร่างกายตลอดระยะเวลาที่คบหากัน 2 ปี และคบหาอย่างจริงจังไม่ได้หลอกฟันเพราะได้เลิกกับภรรยาแล้ว
หลังจากที่มีข่าวหญิงสาวไปแจ้งความว่าถูกดาราหนุ่มทำร้ายร่างกายบีบคอหลังมีเพศสัมพันธ์จนเกือบจะตายคาเตียง พร้อมกับเผยเรื่องราวความสัมพันธ์ว่า คบหากับดาราชายมา 2 ปีในฐานะแฟน พึ่งจะจับได้ตอนหลังว่าฝ่ายชายมีลูกมีเมียแล้วแต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมรับ กระทั่งเกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันจนเป็นเหตุให้เลิกกันและกลายเป็นคดีความทำร้ายร่างกาย ล่าสุดสื่อทีวี ก็ได้ไปสัมภาษณ์ “ทอป ณฐกร ไตรกิศยเวช” นักแสดงหนุ่มวัย 35 ปี ซึ่งกำลังมีผลงานละครพิภพหิมพานต์ ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า ตนเองคือคนที่ตกเป็นข่าว พร้อมกับเปิดเผยเรื่องราวว่า ได้คบหากับหญิงคนดังกล่าวจริง โดยคบกันเป็นแฟนอย่าเปิดเผย 2 ปี ไม่ได้ไปหลอกอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะได้เลิกกับภรรยาแล้วถึงได้มาคบหากัน
ขณะเกิดเหตุได้นอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวปิดที่ร่างกาย แล้วตื่นขึ้นมาเห็นโทรศัพท์ของฝายหญิงวางอยู่บนเตียงและกล้องเปิดอยู่ จึงหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าในโทรศัพท์มีคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กันและแชตต่างๆ จึงทำการลบภาพแต่ก็ลบไม่หมด ยืนยันไม่ได้ทำร้ายร่างกาย และชตลอดระยะเวลา 2 ปีที่คบกันก็ไม่เคยทำร้ายร่างกาย พร้อมกับเผยถึงสิ่งที่ฝ่ายหญิงต้องการในวันที่นัดไกล่เกลี่ย ไม่ใช่แค่คำขอโทษ
ด้านหญิงสาวคู่กรณีก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องที่ไปปรึกษาการลงทุนขายครีมและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพกับท็อป และท็อปก็รับปากที่จะลงทุนให้เป็นจำนวน 200,000 แต่ก็ยังไม่ได้มีการให้เงินดังกล่าว จึงไม่ใช่การนำภาพลับในโทรศัพท์มาเพื่อเรียกร้องเงินจำนวนนี้ ส่วนเรื่องการถ่ายภาพต่างๆ เป็นการถ่ายภาพตามปกติของคนที่คบหากันเป็นแฟน ไม่ได้เป็นการแบล็คเมลแต่อย่างใด ถ้าจะทำคงทำไปนานแล้ว
กมล แย้มอุทัย เครดิตภาพ