“นิหน่า” โบกมือลาช่อง 7 หลังร่วมงานกันมา 16 ปี
ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมงานอดใจหายไม่ได้ เมื่อพิธีกรสาวมากความสามารถอย่าง “นิหน่า สุฐิตา ปัญญายงค์” ได้ขอลาจอรายการ “สปอร์ตแฟน” ของช่อง 7 ที่ทำงานมานานถึง 16 ปีเต็ม
โดยล่าสุดพิธีกรคู่ขวัญอย่าง “แจ๊คกี้ อดิสรณ์” ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าหมดเปลือกหลังจากร่วมงานกันมานาน โดยระบุว่า ".....#ขอให้นิหน่าโชคดี เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ผมได้ทำงานกับ น้อง "นิหน่า" สุฐิตา ปัญญายงค์ เป็นวันสุดท้ายทางรายการสปอร์ตแฟน ซึ่งปัจจุบันคือรายการออนไลน์ของช่อง 7 บังเอิญนั่นคือวันแรกที่ เจอร์เก้น คลอปป์ เซ็นสัญญาคุมทีมเมื่อปี 2015 พอดี หาเหตุให้บังเอิญกัน...วันแรกกับวันสุดท้าย
ปกติผมไม่ค่อยเขียนอะไรแบบนี้ แต่ครั้งนี้ถือว่า "ต้องเขียน" ละครับ ด้วยเพราะผมและ "นิหน่า" ทำงานด้วยกันมานานด้วยระยะเวลาเกินทศวรรษ ทางช่อง 7 ผ่านรายการสปอร์ตแฟน รายการกีฬากึ่งๆวาไรตี้ ที่มีพิธีกรชาย-หญิง นำเสนอประเด็นข่าวกีฬาและเรื่องสีสันกีฬาให้ครบและจบในเวลา 12-15 นาที ช่วงเที่ยงๆ จันทร์ ถึง ศุกร์นอกจากนี้ก็มีงานอีเว้นต์ของช่อง7 บ้าง งานนอกบ้างประปรายที่ได้ทำร่วมกันครับ ยอมรับนะครับว่าก่อนร่วมงานกับ "นิหน่า" ความรู้สึกของผมคือ "ตั้งแง่" เหตุผลก็น่าจะทำให้หลายท่านพอเข้าใจนะครับ
ในฐานะที่ผมเป็นคนกีฬาพื้นที่หรืออาณาบริเวณที่เป็น territory กีฬาแห่งนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็แปลงร่างมาจากนักข่าวกีฬา เริ่มต้นในการเป็นนักข่าวมาก่อนก็ตั้งแต่ พี่ย.โย่ง, คุณพิษณุ นิลกลัด , อาบิ๊กจ๊ะ สาธิต กรีกุล หรือพี่แอดดี วีรศักดิ์ นิลกลัด
ดังนั้นเมื่อ "นิหน่า" ย่างเท้าเข้ามาในอาณาเขตนี้ ภาพของคนบันเทิงที่ข้ามแดนเข้ามาย่อมติดตามมาด้วยและนั่นทำให้การตั้งแง่ของผมเกิดขึ้น มันเหมือนกำแพงความคิดก็แล้วกัน เพียงแต่มันเป็นกำแพงที่ "นิหน่า" ไม่ต้องปีนข้ามขึ้นมา และผมก็ไม่ได้ปีนลงไป
หลังจากร่วมงานไม่นานนัก "กำแพง" ความคิดที่ว่านี้ก็ทลายลงอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะความน่ารักสดใสของ นิหน่า นะครับ หากแต่เป็นความรอบรู้ในเรื่องกีฬาของผู้หญิงคนหนึ่งอย่างเข้าใจกีฬา บวกกับความเป็นคนตื่นตัวต่อทุกสิ่งอย่างในการกีฬา และความตั้งใจที่จะทำข่าว, อ่านข่าวกีฬาของน้อง ได้ทำให้กำแพงที่ทลายลงไปกลายเป็นความรู้สึกชื่นชมขึ้นมาแทนที่
.jpg "นิหน่า สุฐิตา สปอร์ตแฟน")
ทุกสิ่งอย่างที่นิหน่าทำงานออกมานั้นเป็นธรรมชาติ มันไม่ใช่การแสดง ไม่ใช่เล่นตามบท แต่เป็นการทำงานในฐานะคนข่าวกีฬาตัวจริง นิหน่า ไม่ต้อง "อุปโลก" ตัวเองว่าเชียร์ลิเวอร์พูล ไม่ต้องปั้นแต่งเพื่อให้คนรู้ว่าเชียร์ เพราะมันเกิดขึ้นในหัวใจ ดังนั้นมันจึงออกมาเป็นภาพที่เนียนตาเมื่อดู รื่นหูเมื่อฟัง นอกเหนือไปจากงานแล้วอุปนิสัยใจคอของน้องก็เหมือนคนกีฬา มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีอะไรไม่ต้องบอก น้องยื่นมือเข้ามาช่วยเองอย่างเต็มใจ ก็ไม่แปลกน้องเป็นที่รักของคนใกล้ชิดมากมาย
แม้ผมกับนิหน่ามีวัยที่แตกต่างกันหนึ่งรอบ (เกิดปีจอเหมือนกัน) แต่การทำงานในฐานะคู่หู ก็เป็นไปอย่างไม่มีช่องว่างมากนัก ไม่ใช่เพื่อนแต่ก็เหมือนเพื่อน ทำงานแล้วก็เข้าขา รับลูกกันได้ดี อันนี้ผมไม่ได้คิดเอง ผู้ชมบอกมา นอกจากนี้ผมเองต้องขอบคุณนิหน่าด้วยซ้ำจากต้นทุนความมีชื่อเสียงของ นิหน่า พอผมมาทำงานกับนิหน่า นั่นก็ทำให้ผมเป็นที่รู้จักมากขึ้นตามไปด้วย
10 ปีก่อนเวลาเดินทางไปต่างจังหวัด เจอแม่ค้าส้มตำจนถึงพนักงานโรงแรม มักจะชอบถามว่า....."แล้วคุณ นิหน่า ไม่มาด้วยหรือ" ทั้งที่ผมไปเที่ยวนะครับ ไม่ได้ไปทำงาน และน้องก็ไม่ได้เป็นแฟนผมด้วย 5555นั่นสิ..แต่มันคือคำทักทายไม่ใช่คำถามนะครับ
ผมเลยจับความได้ว่า... คนที่ไม่ได้เป็นแฟนกีฬาก็รู้จักผมไปด้วยเลยเมื่อได้ทำงานกับ นิหน่ามีอีกเยอะสิ่งนะครับที่ได้มีประสบการณ์ทำงานกับนิหน่า....เขียนไปแล้วอาจยาวหลายหน้าเพจ เดี๋ยวจะกลายเป็นอวยกันใหญ่โต ทั้งที่มันก็ไม่เกินเลยหากจะเขียนถึงน้องสาวคนนี้ ตลอดระยะเวลาที่ทำรายการสปอร์ตแฟนด้วยกันเชื่อว่า นิหน่า เองก็ต้องภูมิใจ เมื่อครั้งหนึ่ง (เกือบสิบปีก่อน) มีผู้บริหารช่อง7 บอกว่า "สปอร์ตแฟน" ทำเรทติ้งได้ดีนะ ในช่วงเวลาเดียวกัน สปอร์ตแฟนคืออันดับหนึ่ง
คนทำงานยังไงก็หัวใจพองโตกับคำชมเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแข่งขันในแวดวงทีวีเรื่องเรทติ้ง ที่รายการกีฬาแค่สิบกว่านาที กลายเป็นส่วนที่เข้าไปในนั่งใจผู้ชม นั่นก็ทำให้ความรู้สึกของเราภูมิใจไปด้วยเพราะมันเหมือนกันกับว่าเราสองคนลงแข่งขันแบดมินตันคู่ผสมแล้วชนะเลิศ ผมคือบาส เดชาพล นิหน่า เป็นปอป้อ ทรัพย์สิรี อะไรทำนองนั้น
เรื่องเรทติ้งช่วงเที่ยงเนี่ยมีหลักฐานยืนยันที่เชื่อว่าคุณผู้อ่านต้องเห็นด้วยกับผม เพราะแฟนรายการระดับนักเรียนนอกท่านหนึ่งติดรายการสปอร์ตแฟนงอมแงม จากแฟนรายการกลายเป็นแฟนพิธีกรและปัจจุบันเป็นมีครอบครัวที่อบอุ่น คุณ แบงค์ พชร ปัญญายงค์ นั่นแหละครับ แค่ภาพคุณแบ้งค์ ขอ นิหน่า แต่งงานกลางรายการเนี่ย (เขียนถึงยังขนลุกเลย) ก็ทำให้ความโรแมนติกแผ่กระจายไปทั้งประเทศ วันนี้สปอร์ตแฟนไม่มี "นิหน่า" ร่วมเดินทางไปด้วยกันอีกแล้ว ความรู้สึกในเบื้องต้นก็ต้องบอกว่า "เดียวดาย" walk alone ครับ จนกว่าจะปรับตัวเข้าที่เข้าทางได้ก็สักพักหนึ่ง
ผมเคารพการตัดสินใจของน้องครับ มันไม่ง่ายนะครับที่จะตัดสินใจเดินออกไปจากช่อง7 ที่เหมือนบ้านแสนอบอุ่นอีกหลังหนึ่งของนิหน่า ซึ่งทำงานมาอย่างยาวนาน ถ้านับช่วงที่เล่นละครด้วยก็ครึ่งค่อนชีวิตนั่นแหละ
ผมเชื่อว่าน้องก็ไม่ได้ตัดสินใจแค่วันสองวัน เดือนสองเดือน คงต้องผ่านความคิดคุยเหตุผลรอบด้านกับคนใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจโบกมือลาช่อง 7 เพื่อไปค้นหาความท้าทายบนเส้นทางสายใหม่ ลาทีมิใช่ลาจาก... ไม่ว่าน้องจะไปทำงานอยู่ตรงไหน ที่แห่งใด ขอให้น้องโชคดี มีความสุขกับการทำงานเหมือนที่ “สปอร์ตแฟน”"
