“บิวกิ้น” เป็นทุกอย่างให้ “พีพี” แล้ว พร้อมเล่าที่มาฉายา “ลุงสมหมาย”
เรียกว่าใจตรงกันแบบสุดสำหรับน้องร้อง -นักแสดงวัยรุ่นสุดฮอต “บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” และ “พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” ที่ล่าสุดเพิ่งหลังเดินทางกลับจากรับรางวัลงาน Seoul International Drama Awards 2021 ที่ประเทศเกาหลีใต้ทาง “บิวกิ้น” ก็ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Songs About (ซองส์ อะเบาท์) บน “JOOX ROOMS” โดยมีพิธีกรอารมณ์ดี “ไตเติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม” รับหน้าที่ชวนดาราและคนดังมาเล่าเรื่องราวในชีวิตผ่านเพลงโปรด งานนี้ “บิวกิ้น” เลือกเพลงเดียวกับ “พีพี” เป๊ะ พร้อมเปิดใจแบบหมดเปลือกถึงช่วงเวลาที่ประทับใจ ส่ง #JOOXROOMSxBILLKIN ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับหนึ่ง
อ่านข่าวต่อ : เปิดประวัติ! “บิวกิ้น พุฒิพงศ์” หนุ่มหล่อมากความสามารถ!
โดยถามว่าเพิ่งกลับจากรับรางวัล Seoul International Drama Awards 2021 ที่ประเทศเกาหลีใต้? ซึ่งตอน “พีพี” รับรางวัล Asian Star Prize ก็ดีใจมาก เพราะเป็นรางวัลระดับนานาชาติ พอลงมาเราก็กอดเขาทีนึง ให้กำลังใจกัน จริง ๆ ทุกครั้งที่ได้รางวัล เราไม่ได้อยากได้รางวัลคนเดียว เพราะเรากับ “พีพี” คือนักแสดงเรื่องเดียวกัน เลยอยากได้รางวัลซีรีส์ หรือทีมนักแสดงที่จะได้รับด้วยกัน ก่อนหน้านี้ตนเพิ่งรับรางวัลนาฏราช ก็อยากให้เขาได้ด้วยพอเขาได้รางวัลก็ดีใจ ภูมิใจในตัวเขา เพราะเราเล่นมาด้วยกัน ร่วมสร้างมาด้วยกัน เลยภูมิใจในกันและกัน ซึ่งจริงตั้งแต่ซีรีส์ “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” ชีวิตก็ค่อนข้างก้าวกระโดดตนเป็นเด็กธรรมดา อาจจะมีโอกาสได้ทำงานเล็ก น้อยบ้างแต่เรื่องนี้แอบพลิกชีวิตนิดหนึ่ง แต่เรื่อง “แปลรักฉันให้ใจเธอ” ถือว่าเป็นการพลิกชีวิตครั้งใหญ่เลยก่อนหน้านี้แคสงานไม่เคยได้ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา หรือหนังไม่เคยเล่นเป็นตัวหลักเลย ไม่ว่าจะเป็น ฉลามเกมโกง , โฮมสเตย์ ฯลฯ แต่แค่เราได้เข้าไปแคส ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีและเกินฝันแล้ว ตอนนั้นยอมรับว่าก็เสียใจแหละ แต่ ณ วันนี้มองกลับไป ก็สมเหตุสมผลแล้ว”
ส่วนเรื่องการเรียนก็จะจบสิ้นปีนี้แล้วเทอมนี้เรียนทั้งหมด 5 วิชา ตั้งใจว่าจะเรียนจบ 3 ปีครึ่ง จะได้ม้วนเดียวจบ แล้วไปทำอย่างอื่น คือปกติตามหลักสูตร 4 ปี จะมีวิชาที่คณะลงให้ แล้วเทอมสุดท้ายจะมีแค่ 3-4 วิชาเลยเอาวิชาเทอมสุดท้ายมาเฉลี่ยในแต่ละเทอมจะได้จบเร็วขึ้นอีกครึ่งปี แต่เรื่องรับปริญญาน่าจะอีกนานเลยครับ เพราะโควิด-19 รุ่นพี่ปีก่อน ๆ ยังไม่ได้รับเลย โดยหากจะให้พูดถึงความเป็นตัวตนของ "บิวกิ้น"นั้นส่วนตัวเป็นคนจริงจัง เวลาทำอะไรจะทำเต็มที่ไม่ได้ทำทุกอย่างนะ แต่ว่าถ้าเลือกจะทำอะไรแล้ว เราจะเต็มที่ร้อยเปอร์เซนต์ แล้วจะไม่มีข้อแม้กับมัน ไม่ว่าจะต้องเหนื่อย หรือต้องเสียอะไร เพื่อไปถึงเป้าหมายจะยอม เพราะทำทุกอย่างด้วยแพชชั่น ถ้าไม่อินจะไม่ทำเลย ทั้ง ธุรกิจ งานแสดง งานเพลง และทุกอย่างที่ทำ ถึงจะเป็นงานแต่สุดท้ายเราก็ใช้ชีวิตขับเคลื่อนด้วยความสุข
สำหรับฉายาว่า “ลุงสมหมาย” นั้นคือเหมือนตนไปรับเขาที่บ้านเพื่อไปกินข้าว ปกติก็จะสลับกันขับรถ ถ้าผมขับ “พีพี” ก็จะนั่งข้างหน้า ถ้า “พีพี” ขับตนก็จะนั่งข้างหน้า แล้วชอบขับรถกันทั้งคู่ เพราะรู้สึกว่าอีกคนนึงขับจะไม่ได้ดั่งใจ ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นแย่งกันขับรถตนเลยบอกว่าจะขับเองเขาเลยแกล้งไปนั่งข้างหลัง แล้วก็ถ่ายสตอรี่ว่า “ออกรถเลยสมหมาย” ขับรถไปเลยขำๆคราวนี้ก็เลยยาวเลย ซึ่งตอนนี้ได้เวลาเอาคืนแล้ว มีอะไรอยากเมาท์ “พีพี” คืนบ้างเขาเป็นคนสั่งอาหารไม่สัมพันธ์กับปริมาณการกิน สมมติเขาสั่งเขาสั่งพิซซ่าก็จะสั่งถาดใหญ่สุด แต่กินชิ้นเดียว ไม่กินขอบด้วย คือช่วงแรก ๆ เหมือนเขาคุมน้ำหนัก แต่ตอนนี้ก็เหมือนกินน้อยเป็นปกติแล้ว ก็จะสั่งมาเยอะ แต่กินนิดเดียว แล้วตนเป็นลูกคนจีน ก็จะถูกสอนมาให้กินให้หมด แล้วเวลาเขากินเหลือขำๆก็ต้องกินให้หมด เพราะเสียดายแต่บางทีก็จะกินไม่หมด ก็จะต้องมีพี่ทีมงานช่วยจัดการ หรือบางทีผมก็จะเอากลับบ้าน”
พร้อมกันนี้ได้พูดถึงเพลง “ห่มผ้า” 1 ใน 5 เพลงที่เลือกในเรื่องของการทำเพลงก็ได้ทำก่อนเขา ได้เริ่มก่อนเขา จริง ๆ เขาก็คอยซับพอร์ทตนมาตลอด พอได้เห็นเขาออกเพลงตัวเองก็ภูมิใจในตัวเขาเหมือนทุกครั้งที่เห็นเขาเติบโตเก่งขึ้น ยิ่งเพลงนี้เราได้เห็นถึงความตั้งใจของเขา เพลงนี้เป็นเพลงแรกของเขา ซึ่งเขาทำได้ดี ถ้าเทียบกับเพลง You are my everything เขาร้องได้เซ็กซี่ตีโจทย์แตก ซึ่งตนทำไม่ได้และจำได้ว่าวันนั้นไปงานอีเวนท์ พอได้เห็นเขาร้องเพลงบนเวทีก็รู้สึกภูมิใจมากเลยส่วนตัวก็ได้ฟังเพลงนี้เป็นคนแรก เพราะวันนั้นที่ “พีพี”อัด หลังจากนั้นเราไปงานรับรางวัลด้วยกันพอดี
มีอีกหนึ่งเพลงที่ใจตรงกัน “บิวกิ้น” ชอบเพลง ทิ้งแต่เก็บ เหมือน “พีพี” เลยก็บังเอิญมากเลยไม่รู้เลยว่า “พีพี” เลือกเพลงนี้จริงๆตนชอบเพลงนี้มาก อย่าง เก็บไว้ตลอดไป (Once & Forever) ก็เป็นการให้คุณค่ากับความทรงจำเหมือนกัน เราเป็นคนให้คุณค่ากับความทรงจำ และของที่มีคุณค่าต่อความทรงจำ กับที่เคยบอกว่าบนตู้เสื้อผ้า มีดอกกุหลาบที่เก็บไว้ในนามของความรัก เมื่อ2ปีที่แล้วประมาณ 30 ดอก ตอนนี้เพิ่มขึ้นบ้างหรือเปล่า ก็มีเพิ่มขึ้นบ้างนิดหน่อยตนก็ไม่ได้เก็บทุกช่อ จะเก็บเฉพาะเพื่อนที่สนิทให้ หรือครอบครัวให้ แต่จะเก็บทุกอย่างที่เป็นความทรงจำ การ์ด พวกกุญแจ อะไรที่ทำขึ้นมาเพื่อเราโดยเฉพาะจะเก็บหมดเพราะจะเป็นความทรงจำของเวลานั้น ไทม์ไลน์นั้น แต่ละอันจะทำให้เรานึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนได้ของชิ้นนั้นๆได้