น้อยคนจะรู้! “น้ำตาล ชลิตา” เผยกว่าจะมีวันนี้ ครั้งหนึ่งชีวิตลำบากต้องขอข้าววัดกิน
กว่าจะมีชีวิตที่สุขสบาย เชื่อว่าหลายๆคนต้องอเจอกับอุปสรรคต่างๆมากมาย เช่นเดียวกับสาวสวย “น้ำตาล ชลิตา” ที่ดว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังและกลายเป็นที่รู้จักได้อย่างทุกวันนี้ ต้องผ่านเรื่องราวที่เป็นบททดสอบมาแล้วมากมาย น้อยคนจะรู้ครั้งหนึ่งในชีวิตลำบากขอข้าววัดกิน ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อช่วยแบ่งเบาแม่ อีกทั้งยังเผยถึงเรื่องราวฟาดเกรียนคีย์บอร์ด กับแฮชแท็ก #ทุกคำด่ามีราคาเสมอ ผ่านรายการชื่อดังว่า
อ่านข่าวต่อ : งานจบดราม่าไม่จบ “น้ำตาล ชลิตา” โผล่คอมเมนต์ชาวเน็ต ลั่น! หยุดใส่ร้าย
ชีวิตตอนเด็ก แม่เคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ ที่ออกมาจากพ่อ แม่เอาหนูมาคนเดียวไม่มีเงินสักบาท ต้องไปขอข้าววัดกิน ไปให้ป้าช่วย ให้เพื่อนๆ แม่ช่วย ชีวิตแม่กับหนูจะมีอุปสรรคในทุกๆ ช่วงตลอดที่โตมาเลย แม่เจอเพื่อนโกง พอผ่านไปเรื่อยๆ เหมือนลำบากขึ้น เราเจอหลายๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ต้องไปอยู่ห้องแถวสังกะสีช่วงประถม มัธยม ตอนนั้นมันเหนื่อยจนน้อยใจโชคชะตามาก
แม่ไปทำงานถ้าวันไหนว่างจากแคดดี้แม่จะไปขับแท็กซี่หรือไปเป็นกระเป๋ารถเมล์ หนูเองจะไปเป็นแม่บ้านแทนแม่ ไปทำงานที่โบสถ์ที่ทองหล่อ ทำมาเรื่อยๆ ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยเราเป็นเด็กเรากลัวการเดินทาง เราไม่รู้เส้นทางเราจะกลัว เหนื่อยก็เหนื่อยไหนจะมากลัวว่าเลยป้ายไหมต้องลงตรงไหน ค่อนข้างเครียดนะตอนนั้นทำอยู่นาน เพิ่งมาทำสนามบินตอนช่วงม.3 รายได้ก็พอหาเช้ากินค่ำ พอในตรงนั้นแต่เราไม่ได้มีเงินเก็บ หนูไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวหรือไปเล่นกับเพื่อนเลย เราพยายามตั้งใจเรียนอยู่ห้องคิงมาตลอด วิทย์-คณิต เราเป็นคนใฝ่มากกว่า พยายามขยันให้เท่ากับคนเก่งมากกว่า
เรื่องการฟาดกลับเกรียนคีบอร์ด คือหนูไม่ได้ปรี๊ดแตกอะไรใส่เขา หนูรู้สึกว่าเขาก็คนเราก็คน เขาคอมเมนต์เราได้ เราก็คอมเมนต์กลับเขาได้เหมือนกัน หนูไม่ได้รู้สึกว่าเขาบูลลี่อะไร แค่ตอบกลับขำ อย่างมีป้าคนนึงบอกหน้าเหมือนคางคกเลย เราเลยบอกคุณป้าหน้าเหมือนเขียดตะปาดเหมือนกันนะคะ ที่รับไม่ได้ก็มาแซะเรื่องครอบครัวด่าถึงพ่อแม่ไม่ค่อยโอเค ตาลเป็นคนที่ฟังวิจารณ์ความเห็นของทุกๆ คนเยอะมาก เพราะว่าเราก็รู้ว่าอยู่ในจุดไหนที่เราต้องฟังกับเขา แต่ถ้ามันมากเกินไป มันต้องมีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งนี้มันล้ำเส้นเกินไปแล้ว
#ทุกคำด่ามีราคาเสมอ? มันเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมากกว่าค่ะ โซเชียลมีเดียมันไวมาก ใครอยู่ที่ไหนก็พิมพ์ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองพิมพ์ ไม่ใช่คึกคะนองพิมพ์ไปพร้อมความสะใจของตัวเอง หรืออกมาพูดให้ทุกคนแบบฉันแน่ ฉันเจ๋ง ตอนนี้ก็ส่งเรื่องไปทางเขา คำวิจารณ์ที่มาด่าๆ ถ้าหนูใส่ใจจริงๆ ได้หลายล้าน แต่ไม่อยากใส่ใจมากบางคนโปรไฟล์ยังอวตารอยู่เลย แล้วมาด่าคนอื่นเขา หนูอยากรู้ว่าชีวิตเขาดีมากแล้วใช่ไหมถึงมาใส่กับคนอื่นแบบนี้ อันไหนที่มากเกินไปจริงๆ เราก็ต้องทำ