ผู้ประกอบการสถานบันเทิงรวมตัว ยื่นข้อเสนอรัฐ ขอเปิดธุรกิจกลางคืน (มีคลิป)
หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกมายืนยันว่า จำเป็นต้องเลื่อนการเปิดผับ บาร์ จากที่เคยกำหนดไว้เบื้องต้นในเดือน ธ.ค.64 ออกไปก่อน เพราะมาตรการต่างๆ ยังไม่มีความพร้อมเพียงพอ
อ่านข่าวต่อ: สู้โควิด “ต้น พิทักษ์” ทำกับข้าวหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือ |
ล่าสุดผู้ประกอบการสถานบันเทิงรวมตัวระดมความเห็นหาแนวทางร่วมกัน ณ ร้านโรงเหล้าแสงจันทร์ สาขาเกษตรนวมินทร์ โดยเป้าหมายอยากให้เปิดสถานบันเทิง รวมไปถึงร้านอาหารกลางคืน พร้อมมีมาตรการการดูแลที่รัดกุมและเข้มงวด เว้นระยะห่าง และฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
นาย “อนันต์ สุวรรณปาน” ประธานผู้บริหารร้านในเครือแสงจันทร์ เผยว่า “เกือบ 2 ปีที่ร้านโดนสั่งปิด แต่ค่าใช้จ่ายกลับยังดำเนินอยู่ ทั้งค่าเช่า และค่าพนักงาน ซึ่งพอมีข่าวว่ารัฐบาลจะให้กลับมาเปิดสถานบันเทิง ก็เตรียมคน เตรียมความพร้อม มาตรการการดูแลผู้ที่จะมาใช้บริการ แต่ทางรัฐกลับเลื่อนการเปิดไปอีก ทำให้จะต้องสูญเสียรายได้เพิ่ม พร้อมย้ำอยากขอความชัดเจนจากทางรัฐบาล ว่าจะให้เปิดให้คนได้เข้ามาใช้บริการเมื่อไหร่
โดยโมเดลเบื้องต้นที่คิดกันไว้ คือพนักงานจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการก็ต้องฉีดครบ 2 โดสเหมือนกัน และพนักงานทางร้านจะต้องมีการตรวจ Swab ทุกอาทิตย์ มาตราการการเว้นระยะก็มีเตรียมไว้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ยังไม่ได้รับก็คือมาตราการจากทางรัฐบาลที่ชัดเจน ว่าเราเปิดแล้วต้องทำอย่างไร ซึ่งถ้าหากเปิดแล้วหากเกิดความหละหลวมทางสถานบริการก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ”
ด้าน “ธเนส สุขวัฒน์” ตัวแทนนักดนตรีและผู้จัดคอนเสิร์ต, สุดา ชื่นบาน อุปนายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ วรพจน์ นิ่มวิจิตร ตัวแทนผู้จัด Event และ Digital Content เผยต่อว่า
“คือพวกเราไม่ได้จะต่อต้าน แต่เราจะนำเสนอมาตราการที่สมควรจะทำ เพื่อที่รัฐบาลและทุกคนจะได้ไม่ต้องเหนื่อย รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจะได้ไม่สับสน อย่างนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยว พอมีข่าวแบบนี้ออกไป เขาก็จะหยุดไปเลย เพราะฉะนั้นเราควรมีมาตราการที่เป็นมาตฐานจัดแยกประเภทอย่างผับ โรงแรม ร้านอาหาร แบ่งกันไปเลย จะได้ควบคุมกันง่ายขึ้น ส่วนเรื่องมาตฐานความปลอดภัยก็เอาความรู้จากหมอต่างประเทศเข้ามาศึกษา และปรับใช้กับประเทศของเรา มั่นใจว่ามาตฐานความปลอดภัยจะทำให้คนกลับมามีความสุขได้อีกครั้งหนึ่ง”
ด้านนายนนทเดช บูรณะสิทธิพร เจ้าของร้านสถานบริการแห่งหนึ่ง เผยต่อว่า ตั้งแต่ที่ร้านโดนสั่งปิดคือรวมๆแล้วประมาน 400 วันแล้ว รายได้เป็นศูนย์ ไม่ว่าจะปรับตัวเป็นอะไร ร้านหาร คาเฟ่ มันก็ไม่ใช่จุดขายของเราที่เราจะขายได้ เหมือนกับเปิดเพื่อให้พนักงานมีงานทำ เจ้าของที่ก็ลดค่าเช่าให้ 3-4 เดือน นอกนั้นเราก็แบกรับเอง รายได้เราเป็นศูนย์มาตลอด
นาย “ธัญญ์นิธิ ปภัสสุรีย์โชติ” กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะคอนเสิร์ต แอปพลิเคชันขำกัด เสริมต่อว่า กลุ่มทางสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทย คือเรามีการเคลื่อนไหว ยื่นหนังสือต่อภาครัฐมากกว่า 9 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ในแง่ของสถานบันเทิงเราก็เห็นตรงกันว่าควรจัดประเภท ที่เป็นร้านอาหาร หรือร้านที่จะหน่ายแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จริงๆ แล้วสถานบันเทิงมีฟังชั่นที่หลากหลายเลยอยากให้ทางรัฐบาลลงมาช่วยพิจารณา เพราะคิดว่ากลุ่มผู้ประกอบการทุกคนอยากกลับมาเปิดร้าน แน่นอนผู้ประกอบการเองก็ยอมรับความเสี่ยงในการรับลูกค้า เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้ามารับบริการเองก็ต้องได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน เจ้าของสถาบริการก็ต้องมีความรับผิดชอบ ที่จะยื่นหนังสือพรุ่งนี้สิ่งที่อยากจะขออันดับแรกคืออย่าปิดพวกเราแบบเหมารวม พบผู้ติดเชื้อร้านไหนให้ปิดร้านนั้น และบอกไทม์ไลน์อย่างชัดเจน ร้านอื่นไม่ควรเป็นแพะรับบาปไปด้วย ส่วนเรื่องมาตราการอยากให้ชัดเจน เราก็พร้อมที่จะช่วยภาครัฐ
นาย “ธนวัฒน์ ศรีสุข” ตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เสริมต่อว่า ผลกระทบที่ผ่านมาเป็นปีหนัก ค่าเช่า ค่าพนักงาน ไม่มีลด และไม่มีใครมาช่วย อยากให้รัฐบาลมองมาถึงตรงนี้ด้วย ตอนแรกบอกจะเปิดแต่ก็ประกาศเลื่อนไปอีกทำให้เราต้องควักค่าใช้จ่ายเอง ก็ไม่รู้จะไหวรึเปล่า เลยอยากให้ทบทวนเรื่องการเปิด พร้อมที่จะทำตามมาตราการของรัฐทุกอย่าง พอทราบว่าจะเลื่อนเปิดอีกก็เข่าทรุดไปเลย เรายืมเงินคนอื่นมาแล้วไม่มีรายได้ บอกเลยว่าเหนื่อยมาก
ด้านฝอยทอง เชิญยิ้ม ตัวแทนสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) ขอเป็นตัวแทนตลกและนักดนตรี ตั้งแต่โควิดเข้ามาก็เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ไม่มีงานเกือบจะ 2 ปีแล้ว ก็พยายามไปหาทำอาชีพอื่น พยายามเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันว่าโควิดจะต้องหยุดก่อน แต่เมื่อรัฐบาลจะเปิดประเทศแล้ว ก็อยากขอวิงวอนอยากจะให้เปิดสถานการณ์หรือที่โชว์ของพวกเราได้แล้ว ไม่ได้เร่งแต่แค่อยากให้ชัวร์