เจ้าหน้าที่อุทยานมาเอง! เผยแก๊ง “กาละแมร์” พกลำโพงขึ้นถ้ำ หลังถูกแฉแหกกฎ
กลายเป็นดราม่าร้อนแรงในโลกโซเชียล หลังเพจๆ หนึ่งได้ออกมาเผยอักษรย่อ ดาราหอยทาก ใช้ความเป็นดาราทำตัววีไอพีจัดพาชาวคณะไปปีนถ้ำนาคา ก่อนแหกกฎหลายอย่าง ทั้งจัดเต็มพิธีบวงสรวง มูเตลูจัดหนัก อธิษฐานเป็นชั่วโมงไม่เกรงใจคนอื่น เปิดเพลงดังกระหึ่ม
อ่านข่าวต่อ : “กาละแมร์” เคลียร์ยาว หลังถูกโยง “ดาราหอยทาก” แหกกฎทำตัว VIP ขึ้นถ้ำนาคา
โดยงานนี้ชาวเน็ตหลายคนได้พุ่งเป้าไปที่สาว “กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” เพราะเนื่องจากมีรูปที่เจ้าตัว พร้อมมีดอกไม้พานบูชาวางอยู่ด้วยที่หินข้างๆ
ต่อมาสาว “กาละแมร์” ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ใช่ตน พร้อมบอกว่าไปมือเปล่า และไม่เคยทำพิธีบวงสรวงใดๆ ส่วนหมากพลู มีคนบนนั้นเขาใส่เป้ไป แบ่งมาให้ถือ เพื่อจบที่ศีรษะตอนไหว้ ไหว้เสร็จ เขาก็เก็บกระทงหมากพลูไปไหว้กันต่อ นำกลับไปบูชาที่บ้าน
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ได้ลงพื้นที่ยังไป กรมอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ และได้มีโอกาสคุยกับ หัวหน้ากรมอุทยานภูลังกา ซึ่งได้เปิดเผยว่า กฎกติกาที่นักท่องเที่ยวต้องปฎิบัติตาม คือ ต้องจองคิวล่วงหน้า 60 วัน ผ่านแอปพิเคชัน QUEQ (QQ) จำกัดนักท่องเที่ยวจำนวน 500 คนต่อวัน ต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ตามมาตราการของ ศคบ. ปกติแล้วจะไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวนำเครื่องบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน โฟม เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ถุงพาสติก และสิ่งอื่น ๆ ที่เป็นขยะ ยกเว้นน้ำดื่ม สิ่งของจำเป็น เท่านั้น และสิ่งที่นักท่องเที่ยวนำขึ้นไป เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ เพียงแต่ให้คำแนะนำเท่านั้น
กรณีดาราหรือวีไอพีนั้น หรือหากต้องการถ่ายทำรายการ ก็ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ดาราที่ขึ้นเขาล่าสุดก็คือ คุณกาละแมร์ และทีมงานประมาณ 29 คน แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดขณะที่ขึ้นไป ในประเด็นดราม่านำพานเครื่องบูชาขึ้นไปบนภูลังกานั้น ตนทราบเบื้องต้นว่าก่อนขึ้นไปคณะดารากลุ่มนี้ไม่ได้แจ้งว่าจะนำขึ้นไป ตนไม่แน่ใจว่าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าหรือไม่ แต่เห็นว่าถือติดมือและนำลงมาในช่วงขากลับ
สำหรับเรื่องการเปิดเพลงก็เป็นลำโพงเครื่องเล็ก เพลงที่เปิดก็เกี่ยวกับบทสวดมนต์ อาจเป็นเพราะอยู่ในถ้ำแล้วเงียบสงัด ทำให้ความก้องของเสียงดังกล่าปกติ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบว่าดารากลุ่มดังกล่าวจะพกลำโพงมาด้วย เพราะไม่ได้มีการตรวจค้นสัมภาระ หากเจ้าหน้าที่เห็นก็จะตักเตือนอยู่แล้ว และให้ฝากของไว้ที่จุดรับฝากด้านล่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก: รายการทุบโต๊ะข่าว