คนเสื่อม “พุทธศาสนา” ไม่เสื่อม!
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาตมาได้เล่าถึงงานบุญใหญ่ของวัดงานหนึ่ง คือ การเททองหล่อพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก เพื่อประดิษฐาน ณ วิหารหลวงพ่อพูล ต้นสัปดาห์บุญหล่อพระ ปลายสัปดาห์มีบุญใหญ่อีกแล้ว
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 อาตมาพร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ หลากสายหลายสาขา ได้เดินทางไปรวมพลังบุญพลังกุศล จัดพิธีบวงสรวงเพื่อก่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรมหลวงพ่อพูล จังหวัดกาญจนบุรี บังเกิดเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ ทั้งจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อาตมา ศิษยานุศิษย์ที่มาร่วมงาน นำโดยเฮียเงี๊ยบ สมชาติ สาลีพัฒนา และประชาชนในละแวกสถานปฏิบัติธรรมที่กำลังจะสร้างขึ้นนี้ เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย เป็นสิริมงคลแก่พื้นที่ และแก่พวกเราทุกคนที่มีส่วนร่วมสร้างศาสนสมบัติขึ้นเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ตั้งให้เป็นแดนธรรม แผ่นดินทอง แผ่นดินเพชร อีกครั้งหนึ่ง โดยมีนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาคนใหม่ล่าสุดเป็นประธานในพิธี
โครงการสำนักปฏิบัติธรรมหลวงพ่อพูล ตั้งอยู่ที่บ้านเสรีธรรม หมู่ 8 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ที่ดินผืนนี้ คุณโยมสมเกียรติ ไกรนรา ได้อุทิศถวายให้เป็นที่ตั้งสำนักปฏิบัติธรรม เป็นที่ดินที่นับได้ว่าชัยภูมิดี ว่าตามฮวงจุ้ยก็นับว่าดี มีทิวทัศน์งดงาม อยู่ในที่อันเงียบสงบ แต่ก็ไม่ไกลจากแหล่งชุมชน จึงนับว่าเป็นที่สัปปายะแก่การเป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีอยู่ไม่น้อย
อาตมามีความตั้งใจจะให้การนี้เป็นการสืบสานเจตนารมณ์อีกประการของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข ที่จะส่งเสริมในเรื่องการปฏิบัติธรรม เพราะท่านเอง ท่านก็เป็นวิปัสสนาจารย์ ทรงคุณวิเศษเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว พระเดชพระคุณนั้นท่านพร้อมด้วยปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ การที่พระเดชพระคุณท่านมีพุทธาคมแก่กล้าก็ด้วยการฝึกจิตของท่านเป็นเวลานาน จนมั่นคงเป็นสมาธิ และอาตมาก็ได้รับการถ่ายทอดความรู้เรื่องกรรมฐานจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล เพราะกรรมฐานเท่านั้นที่จะทำให้เราเป็นนายของจิตได้โดยแท้จริง
อาตมาพร้อมด้วยศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศ ได้ตั้งพิธีบวงสรวงบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมเนียมพิธีอันมีมาแต่โบราณ ตั้งเครื่องบวงสรวงอย่างงดงาม บัณฑิตศิษย์มีครูบอกกล่าวเทพยดา ดนตรีปี่พาทย์เสียงเสนาะ สร้างบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาประทานพร ณ สถานที่แห่งนี้ซึ่งก็นับว่าเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ เป็นดินแดนมีตำนานเล่าขาน มีผู้คนอยู่อาศัยสืบมาไม่รู้กี่ชั่วอายุคน เป็นเส้นทางเดินทัพไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และวันนี้อาตมาจะให้ที่นี่เป็นแผ่นดินทอง แผ่นดินธรรม เป็นสถานที่ที่เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อพูล และเป็นสมบัติของแผ่นดิน สมบัติของพระพุทธศาสนาสืบไป โดย ณ ที่นี้ อาตมาจะได้จัดสร้างพระพุทธเจ้าปางเปิดโลกอีกองค์หนึ่งขึ้น เพื่อเป็นนิมิตหมายแห่งการปักธงชัยพระพุทธศาสนาลงบนแผ่นดินผืนนี้
ภายหลังเสร็จพิธีบวงสรวงตามประเพณี อาตมา ผู้อำนวยการสิปป์บวร เหล่าศิษยานุศิษย์ที่วันนี้เป็นผู้ใหญ่ใจดี และทางเมืองไทยประกันภัย มูลนิธิมาดามแป้ง (นวลพรรณ ล่ำซำ) นำข้าวสาร อุปกรณ์กีฬา สมุดจากโรงงานแสงรุ้ง แอลกอฮอล์ และเสื้อ มามอบให้แก่นักเรียนจากโรงเรียนโดยรอบพื้นที่โครงการ ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองขอน โรงเรียนสามัคคีธรรมานุสรณ์ โรงเรียนบ้านลุ่มผึ้ง และโรงเรียนหลุงกัง เรียกได้ว่าครบครันตามความต้องการของโรงเรียนแต่ละแห่ง นอกจากนี้ยังได้แจกข้าวสารคนละ 5 กิโลกรัม เสื้อ หน้ากากอนามัย และเงินหนึ่งร้อยบาท แก่พี่น้องประชาชนที่มาร่วมงาน คุณครู นักเรียน และประชาชนที่มารับของต่างยิ้มแย้มแจ่มใสถ้วนหน้า เป็นที่น่าชื่นใจอย่างยิ่ง อาตมาจึงขอถ่ายทอดสิ่งที่เห็นแก่ทุกท่านเพื่อให้ได้รับทราบทั่วกันว่า บุญนี้สำเร็จแล้ว ได้สร้างความสุขแก่ผู้อื่นแล้ว ขออนุโมทนาโดยทั่วกัน อาตมาชื่นใจจริง ๆ
อาตมาจัดพิธีบวงสรวงเพื่อเตรียมสร้างสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ท่ามกลางข่าว “คาว” ในวงการพุทธศาสนาชนิดที่เรียกว่า “รายวัน” เป็นช่วงเวลาที่ใคร ๆ ต่างอยากจะพูดว่า นี่หรือเมืองพุทธ หรือพุทธศาสนาจะเสื่อมลงแล้วในคราวนี้ แน่นอนแหละว่าหลายอย่างดูจะเป็นแบบนั้น พระดีไม่มีข่าว แต่พระคาว ๆ นี่มีข่าวจัง ข่าวที่ออกมาแต่ละที กระแสที่ออกมาแต่ละครั้งก็ช่างเป็นการย่ำยีพระพุทธศาสนาเสียกระไร
แต่เราต้องระลึกไว้ว่า แท้จริงแล้วความเสื่อมมาจากคน มาจากคนในพุทธศาสนานี้แหละ ไม่ใช่ตัวพุทธศาสนา พระพุทธศาสนานั้นแก่นแท้จริงคือพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงามเหนือมลทินทั้งปวงอยู่แล้ว เพราะเป็นธรรม เป็นกฎของโลกที่ไม่อาจมีใครหมุนวงล้อกลับได้ เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่คนนั่นแหละที่เสื่อมลง และเมื่อคนเสื่อม ๆ มาอยู่ในพระศาสนา ก็ย่อมทำให้พระศาสนามัวหมองจนเป็นมลทิน จนชวนทำให้ผู้คนเข้าใจว่านี่คือความเสื่อม
แท้จริงพระศาสนาไม่เสื่อม พระศาสนาก็อยู่เหมือนเดิมมากว่าสองพันหกร้อยปี มีเปลี่ยนแปลงบ้างตามสมัยแต่หลักการอุดมคติยังคงเดิมอย่างที่พระพุทธองค์ทรงสอน แต่คนนั่นแหละที่เสื่อม ถ้าเราจะแก้ไข เราก็ต้องแก้ที่คน เพราะคนขับเคลื่อนพระศาสนา พระศาสนาสร้างสรรค์สังคม มันเกี่ยวกับคน ถ้าพระธรรมอยู่ในจิตใจ
อาตมาจึงตั้งมั่นไว้ว่า ณ สถานที่แห่งนี้ที่อาตมาจะลงมือสร้างขึ้นมา จะเป็นที่สร้างคน นำพระศาสนา พระสัทธรรมอันเป็นของดีมาสร้างคนดี คนที่ไม่เสื่อม สร้างพระดี ที่ไม่ใช่พระเสื่อมเสีย ปลูกพระธรรมลงในจิตใจคน ให้พระธรรมงอกงามอยู่ในจิตใจ ให้มีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้คุณคน มีคุณธรรมประจำใจ นั่นจะทำให้คนไม่เสื่อม เราทุกคนในพระศาสนาของเราต้องร่วมด้วยช่วยกัน คนละไม้คนละมือตามกำลังที่เราทำได้ ทำตามหน้าที่ของตน ให้สมแก่ที่เป็นพุทธบริษัท
เมื่อที่นี่เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง เราก็จะค่อย ๆ ขยายให้แผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนั้นกว้างใหญ่ขึ้น จนเป็นแผ่นดินที่งดงาม ให้สมแก่เป็นเมืองพุทธอีกครั้งหนึ่ง ขอเจริญพร