“เปิ้ล นาคร” พร้อมทีมค้นหาแจงคาดสาเหตุการตกเรือของ “แตงโม” ผ่านรายการโหนกระแส
กว่า 14-15 ชั่วโมงแล้ว สำหรับการตามหาตัวของ “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ที่เกิดอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ทแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณระหว่างสะพานพระราม 7 และสะพานพระราม 5 โดยเหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 22.40 น.ของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดทางทีมค้นหานำทีมโดย “เปิ้ล นาคร ศิลาชัย” ได้มาให้สัมภาษณ์กับ รายการโหนกระแส เผยถึงสาเหตุการตกเรือดังนี้
“เปิ้ล นาคร” เล่าว่า “ผมรู้เรื่องตอนประมาณเกือบ 5 ทุ่ม เพื่อนโทรมาบอกจูนว่าแตงโมตกเรือขอให้พี่เปิ้ลไปช่วย จูนบอกต้องไปด่วนเลย ระหว่างขับรถก็พยายามติดต่อเพื่อนในทีมที่อยู่แถวนั้นมาช่วยหา ต้องบอกก่อนเลยว่าช่วงที่ตกนี้เป็นช่วงปราบเซียน ระหว่างสะพานพระราม 7 และสะพานพระราม 5 พื้นที่ตรงนี้ข้างล่างน้ำวนแรงมาก ไม่ง่ายเลย เป็นเรื่องใหญ่ ผมไปถึงเพื่อนๆ มาสแตนบายรอแล้ว ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ริมแม่น้ำจะมี 2 แบบ แบบบริเวณที่เป็นเขื่อนกั้นสูงถ้าว่ายน้ำเป็นต้องเอามือเกาะเขื่อนไว้ กับอีกแบบใต้ถุนบ้านประชาชน ต้องว่ายเข้าไปเกาะเพื่อขอความช่วยเหลือ เราเลยไม่รู้ว่าเค้าไปเกาะตรงไหน มีใครช่วยหรือยัง ซึ่งเราภาวนาให้มีคนช่วยแล้ว”
ทีมค้นหากล่าวว่า “ตกตรงหัวโค้งที่ไปซ้ายหรือขวาก็ได้ มันเลยยากกับการตามหา เป็นจุดที่คิดว่าน้องตกไป เพราะช่วงตอนที่ตกประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ เป็นช่วงกระแสน้ำตาย น้ำจะหยุดสนิท ข้างบนน้ำจะนิ่งไม่ขยับ แต่ใต้น้ำจะมีการไหลเวียนอยู่ ผมไปถึงช่วงประมาณ 5 ทุ่ม น้ำขึ้นไหลจากพระราม 7 ไปพระราม 5 น้ำเปลี่ยนทิศแล้ว ทีมค้นหาก็จะเริ่มหาจากจุดตกก่อน แต่เพราะมันเป็นโค้งที่พัดไปซ้ายหรือขวาก็ได้เลยค่อนข้างยาก โอกาสค่อนข้างน้อย ไหนจะจุก กระแทก ตะคริว บาดเจ็บ”
เจ้าของอู่เรือเสริมว่า “สปีดโบ๊ทลำดังกล่าวขนาด 25 ฟุต ใบพัดอยู่ข้างนอก ถ้าตกลงไปด้านหลังก็มีโอกาสที่โดนใบพัดได้ แต่เรือเคลื่อนที่เลยอาจจะไม่โดน แต่จะได้รับบาดเจ็บจากการกระแทก ซึ่งเรือลำดังกล่าวกลับเข้าอู่หลังจากการตามหาประมาณตี 3 ผมเองยังติดต่อกับคนเรือไม่ได้ แต่ที่คุยล่าสุดกับคนเรือคือตอนค้นหา คุณแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือเพราะในเรือไม่มีห้องน้ำเลยต้องไปทำธุระที่ท้ายเรือ ซึ่งตรงนั้นมันจะมีแพลตฟอร์มกว้างๆ ให้ไปยืนหรือนั่ง และก็จะมีที่จับให้นั่งหย่อนลงไปปัสสาวะ ปกติถ้าจะปัสสาวะต้องแจ้งคนขับให้ขับช้าๆ แต่คนเรือแจ้งว่าเค้าไม่ได้บอกเลย เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้ลื่นได้เพราะใส่ส้นสูงด้วย”
“หนุ่ม กรรชัย” กล่าว “ทุกคนก็หวังให้มีการติดต่อมา แต่ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งตอนนี้เรือลำนี้เอาไปจอดที่อู่เดิมแล้ว” และได้ต่อสายหาพี่ชายของ “แตงโม” พี่ชายเล่าว่า “จากคำแจ้งของคุณแม่น้องว่ายน้ำเก่งแต่จะเก่งขนาดไหนไม่ทราบเลย ส่วนทางเพื่อนและผู้จัดการยังไม่ได้ติดต่อมาเลย ผมแยกกับแม่ประมาณ 8 โมง ผมไม่แน่ใจว่าเค้าติดต่อแม่ไปไหม หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์”
ถามว่ามีโอกาสลอยคอได้ไหม ต้องยอมรับเลยว่าทุกคนอยากให้เกิดปาฏิหาริย์แต่ความจริงเป็นไปได้ยากมากเพราะปกติ 5-10 นาทีต้องเจอแล้ว ต้องเข้าฝั่งได้แล้ว แต่อาจจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ “พี่เปิ้ล” เคยตกเรือแล้วลอยคอ น้ำก็พัดไปไกลถึง 3 จังหวัดกว่าคนจะเจอ แต่ “พี่เปิ้ล” มีชูชีพ ถ้ามียังไงก็รอดล้านเปอเซ็นต์ ขนาดเป็นนักแข่งตกทียังจุกเลย “พี่เปิ้ล” เคยตกซี่โครงหัก 3 ซี่ จุกมากนะ ถ้าเราตกไปเราจุกเราจะทำอะไรไม่ได้ มันจะจมลงไปเรื่อยๆ ซึ่งในเรือมีชูชีพทุกลำ เค้าก็ให้ใส่แหละแต่ถ้าจะถ่ายรูปเค้าก็คงจะถอดออก