“เบนซ์ พริกไทย” ไม่เข้าใจกระแสสังคม บอกคดียังไม่ตัดสินชี้ชัด ทำไมถึงมาวิพากษ์วิจารณ์ ประจานคนอื่น
ออกมาเปิดใจสำหรับนักร้องสาว “เบนซ์ พริกไทย” ภรรยาของ “ไฮโซปอ” 1 ในสมาชิกของแก๊งเรือสปีทโบ๊ทที่อยู่บนเรือกับสาว “แตงโม นิดา” ก่อนพลัดตกเรือเสียชีวิต โดยล่าสุดทั้ง “ไฮโซปอ” และ “โรเบิร์ต” ได้ย่องเงียบบวชพราหมณ์เมื่อเช้าที่ผ่านมา (16 มี.ค.) โดย “เบนซ์ พริกไทย” ภรรยาของไฮโซปอ ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงการบวชของสามีในครั้งนี้ว่า
อ่านข่าวต่อ : 7 โมเมนต์ทัชใจจากงานไว้อาลัย “แตงโม”
วันนี้เบนซ์ไม่ได้เข้าร่วมพิธี เป็นการบวชภายในที่หลวงพ่อท่านเมตตา แล้วก็อนุญาตบวชให้ แต่ก็เป็นบวชในลักษณะพราหมณ์ เพื่อที่จะไม่ได้มีปัญหา อย่างที่ทราบว่าตอนนี้กระแสค่อนข้างแรง มีทั้งคนที่หวังดีและไม่หวังดี อาจจะทำให้ไม่ราบรื่น เลยจัดการบวชกันเองง่ายๆ และเป็นการบวชเข้าธรรมจริงๆ ไม่ได้เชิญใครมา ส่วนระยะเวลาในการบวชอย่างต่ำ 15 วันค่ะ และธุดงค์เข้าป่าเลย
ส่วนที่ก่อนหน้านี้หลายคนสงสัยว่าสรุปแล้ว ปอ นับถือศาสนาอะไรกันแน่ คือจริงๆ เบนซ์เรียนโรงเรียนคริสต์มาตลอด แล้วก็มีความเชื่อและศรัทธาในศาสนาคริสต์ ส่วนพี่ปอเป็นคริสต์ตั้งแต่สมัยครอบครัวเขามาตั้งนานแล้ว แต่หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็มาเริ่มเลื่อมใสในศาสนาพุทธ ตอนหลังพี่ปอก็เลยปรับมาเป็นศาสนาพุทธ ส่วนตัวเบนซ์เองไม่ติดเลยทั้งศาสนาคริสต์และศาสนาพุทธ เพราะจริงๆ ครอบครัวของเบนซ์ก็นับถือศาสนาพุทธ เพียงแค่ว่าเบนซ์เรียนโรงเรียนคริสต์ค่ะ
อย่างภาพตอนที่แต่งงานเป็นศาสนาคริสต์ คือทางครอบครัวขอไว้ว่าอยากให้แต่งเป็นคริสต์ เราก็ทำตามหน้าที่และเข้าสู่ศาสนาคริสต์ตามพิธี ส่วนที่พี่ปอเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธทางครอบครัวก็รับทราบ อย่างที่บอกว่าเราศรัทธาทั้งศาสนาคริสต์และศาสนาพุทธ เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องของความศรัทธาและสิ่งที่ทำแล้วเราสบายใจ อย่างเช่นการบวชครั้งนี้มันไม่ใช่ว่าเราทำเพื่อให้ลบกระแสสังคม แต่มันคือสิ่งที่เราทำแล้วสบายใจ ทำด้วยความตั้งใจ ต้องการที่จะอุทิศส่วนกุศล และแก้ไขวิบากกรรมของเราจริงๆ
ถามว่าสามีได้มาปรึกษาให้ฟังตั้งแต่แรกเริ่มเลยไหมว่ามีความตั้งใจอยากจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้แตงโม คือตั้งแต่แรกๆ ก็มีการคุยกันอยู่แล้ว เบนซ์ว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึกทางใจ เหมือนเรารู้สึกว่าเราทำสิ่งนี้แล้วเราสบายใจ แล้วเราตั้งใจว่าถ้าทำแล้วเราก็ได้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขาด้วย ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละศาสนาก็ตาม แต่เบนซ์เชื่อว่าการทำความดีมันคือความตั้งใจที่เราจะทำให้เขา เพราะสุดท้ายแล้วทุกศาสนาก็สอนให้คนเป็นคนดี ฉะนั้นการที่เราคิดและตั้งใจทำอะไรสักอย่างหนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจมันก็น่าจะถึงเขา
ส่วนที่หลายคนมองในแง่ลบเกี่ยวกับการบวชครั้งนี้ คือ เบนซ์ว่าคนที่มองอคติในแง่ลบก่อนอื่นเลยเขาอาจจะไม่ศรัทธาในศาสนาหรือเปล่า ถ้าใครก็ตามอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเราสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ณ ตอนนี้ก็คือทำแบบนี้ เราได้ทำแล้วเราได้สบายใจ แล้วทำให้เขาและครอบครัวเขาด้วย เบนซ์ว่ามันเป็นมุมมองของความศรัทธา กับคนที่คิดว่าทำแล้วมันได้อะไรหรือเลิกได้แล้วนะตรรกะนี้ คือต้องบอกก่อนว่าพี่ปอไม่ได้บวช 3 วัน ไม่ได้บวชวันเดียวแล้วสึก แต่บวชแล้วธุดงค์และปฏิบัติ ฉะนั้นมันคนละมุมมองกัน แต่ว่าอันนี้เราก็ไปเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้เพราะถ้าหากเขามองเราในแง่ลบแล้ว ต่อให้เราพูดหรือตะโกนออกไปหรือทำความดียังไง เขาก็ตั้งใจที่จะมองในแง่ลบ
ส่วนสภาพจิตใจปอก็ดีขึ้น ด้านครอบครัวคือเบนซ์ไม่เข้าใจกระแสสังคมหรือหลายๆ คนที่ออกมาพูด คือเบนซ์เข้าใจในกระบวนการถ้าหากทำผิดและมีการตัดสินแล้ว เราก็อาจจะมีการวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่เบนซ์ไม่เข้าใจว่าในเมื่อมันยังไม่ได้ชี้ชัดหรือบอกว่ามันผิด ทำไมคุณถึงมาตัดสินเรา ประจานเรา หรือวิพากษ์วิจารณ์ คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าเขาไม่ได้ทำ หรือถ้ามันเป็นอุบัติเหตุ แล้วภรรยา ลูก ครอบครัว พ่อแม่ เขาจะอยู่กันยังไง เบนซ์อยากให้มองตรงนี้ คือถ้ามันผิดและมีหลักฐานที่จับเข้าคุกได้เลย อันนั้นโอเคเพราะว่าเราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราทำในส่วนหนึ่ง แต่ถ้ามันยังไม่ใช่ทำไมถึงได้ตัดสินคนอื่นแบบนี้ เบนซ์เลยมองว่ามันเป็นยุคเสื่อมของโซเชียลที่มันสามารถจะทำร้ายคนอื่นได้ทั้งเป็น