เถลิงศกใหม่ด้วยข้าวเหนียวมะม่วง 3 ร้านดังเมนูไทยโกอินเตอร์
วัฒนธรรมในการทานผลไม้สุกคู่กันกับข้าวหุงนั้น เข้าใจว่ามีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และได้รับความนิยมสืบมาจนกระทั่งถึงยุคกรุงเทพเมืองฟ้าอมรในปัจจุบัน ในวันที่เรากำลังฉลองสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 240 ปี คิมหันตฤดูก็มาเยี่ยมเยือนอีกวาระ เมนูที่อยู่คู่คนไทยทั้งเหนือใต้ออกตกมาช้านาน ก่อนที่จะมีกระแส soft power ของหนู “มิลลิ ดนุภา”
อ่านต่อ:ข้าวเหนียวมะม่วงฟีเว่อร์ 7 ดาราแชร์ราดกะทิบนข้าวเหนียวหรือ
จนกระทั่งทูตานุทูตหลากหลายประเทศออกแคมเปญชิมของหวานจานนี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์กันเป็นว่าเล่น ของว่างกลางฤดูร้อนที่ทุกเพศทุกวัยโหยหามาทุกยุคทุกสมัย ในภาวะที่อากาศร้อนรุ่มทะลุ 40 องศาเดือด อาหารอะไรหนอที่จะพอช่วยบรรเทาความครุกรุ่นในอารมณ์ได้ดี
1.ข้าวเหนียวมะม่วง ส.บุญประกอบพาณิช บางรัก
ในวันนี้ผม “กานต์ สุวรรณกิติ” จะพาไปชิมข้าวเหนียวมะม่วงระดับตำนานที่อยู่เคียงคู่กับชาวตลาดบางรักมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 ในฐานะที่เป็นคนต่างจังหวัด ยังทันมาเห็นตลาดบางรักในยุคที่หลังคามุงสังกะสี ก่อนจะถูกรื้อไปกลายเป็นห้างโรบินสัน บางรักในปัจจุบัน ในยุคนั้นถามชาวตลาดบางรักว่าข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าไหน เด็ดขาดที่สุด ได้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันโดยเอกฉันท์ว่า ข้าวเหนียวมะม่วง บุญประกอบ นั้นอร่อยเอร็ดกว่าใครเพื่อน ของอร่อยนั้นไซร้จะอร่อยจริงหรือไม่ หาใช่อร่อยเพราะคำพูดที่ลอยลมมากระทบโสต อย่ากระนั้นเลย ขอจัดมาให้ชิมซักชุดนึง จักเป็นพระคุณยิ่ง
2.ข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊อ้วน เชียงใหม่
ในครั้งนั้นตื่นตาตื่นใจกับของอร่อยเมืองกรุง เรียกว่าลืม ข้าวเหนียวมะม่วง เจ๊อ้วน ที่เชียงใหม่ไปชั่วขณะ ข้าวเหนียวเม็ดเล็กที่มูนมาอย่างดี กับมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ปอกมาเป็นริ้วๆ ทั้งหอม ทั้งหวาน ยิ่งได้เจอกับน้ำกะทิที่ข้นกำลังดี เป็นตัวชูรสชูรักให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่พิธีกรประกาศชื่อบนเวทีว่านางสาวมะม่วงกับนายข้าวเหนียว ได้เป็นอย่างดี
เวลากินต้องราดน้ำกะทิลงบนข้าวเหนียวพอให้ชุ่มแล้วค่อยตักข้าวเหนียวพร้อมกับมะม่วง ทานเข้าไปพร้อมๆกัน ถึงจะเข้ารสเข้าชาต เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครบรสกำลังดี หลังจากนั้นก็มีโอกาสกลับไปชิมข้าวเหนียวมะม่วงบุญประกอบอีกหลายหนหลายวาระ ซึ่งก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
จนกระทั่งสายลมคิมหันต์ผันผ่านเข้ามาอีกหน จึงได้เวลากลับไปชิมเมนูนี้อีกครั้ง พบว่าในส่วนของข้าวเหนียวมูน ยังคงความอร่อยไว้ได้เช่นเดิม มีการผสมอัญชันเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักชิมขี้เบื่อ ในส่วนของมะม่วงได้มีการเปลี่ยนวิธีการปอกมะม่วงให้เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ยุค 5G ไปเรียบร้อยโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
นอกจากข้าวเหนียวมะม่วงแล้ว ร้านนี้เขามีขนมหวานโบราณอีกหลากหลายอย่างให้ได้ลิ้มลองกัน อาทิเช่น ขนมไข่นกกระสา เครื่องทองรวม เปียกปูนใบเตยกะทิสด วุ้นกะทิสด ข้าวเหนียวหน้าสังขยา กระยาทิพย์ พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ขนมต้มอัญชันใบเตย ถั่วกวนมะพร้าว เผือกกวน ขนมโค แต่ละอย่างน่าชิมน่าลองไปเสียสิ้นทุกสิ่งอย่าง
3.ข้าวเหนียวมะม่วงแม่นงนุช ตรงข้ามตลาดฉัตรไชย หัวหิน
อีกร้านที่อยากจะพาแฟนพันธุ์แท้ข้าวเหนียวมะม่วงไปชิมคือ ข้าวเหนียวมะม่วงแม่นงนุช ตั้งอยู่ตรงข้ามกับตลาดฉัตรไชย ในตัวเมืองหัวหิน ปกติจะได้พบเจอกับแม่นงนุชทุกครั้งที่ได้แวะไปเยี่ยมเยียน ด้วยอาศัยประสบกาณ์อันยาวนาน คุณแม่นงนุชจะทราบว่ามะม่วงลูกไหนจะหวานฉ่ำได้ที่ ลูกไหนยังต้องรอจังหวะเวลา เมื่อก่อนจะมีให้เลือกทั้งมะม่วงอกร่องและมะม่วงน้ำดอกไม้ คุณแม่นงนุชยังมีเมตตา อนุญาตให้เข้าไปนั่งทานข้าวเหนียวมะม่วงในร้านได้
ซึ่งปกติในอดีตจะอนุญาตให้ซื้อกลับเพียงอย่างเดียว และยังแย้มให้ฟังถึงเคล็ดลับความอร่อย ว่าต้องใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ตรา 7 งูเท่านั้น หุงข้าวให้ข้าวเป็นเม็ดๆ เรียงกันสวยแล้วค่อยมามูน
ในส่วนของกะทินั้นทำออกมาได้เค็ม มัน กำลังดี ไม่เลี่ยน ในช่วงเสด็จแปรพระราชฐาน เป็นข้าวเหนียวมะม่วงที่ได้เข้าไปถวายงานอยู่ในพระตำหนักไกลกังวล หัวหิน ในวันนี้วันที่แม่นงนุชไม่อยู่แล้ว ทายาทได้มารับช่วงต่อ มีส่วนนั่งรับประทานในร้านได้อย่างสะดวกสบาย ตบแต่งร้านอย่างทันสมัย รองรับลูกค้าที่เข้ามารับบริการได้เป็นอย่างดี ในส่วนของความอร่อยก็ยังรักษาสูตรที่แม่นงนุชถ่ายทอดไว้ให้ได้เป็นอย่างดี
ท่านใดได้ลิ้มลอง รับประกันได้ว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน น่าดีใจที่วันนี้อาหารไทยจะได้โกอินเตอร์ไปอีกเมนูหนึ่ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ต้มยำกุ้ง และผัดไท สมกับการเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ หรือว่านี่จะเป็นบทพิสูจน์อีกบทหนึ่งของคำพูดที่ว่า ครัวไทยสู่ครัวโลก
โดย “กานต์ สุวรรณกิติ”