2 ประเด็นใหญ่ คดี “แตงโม นิดา”  ในรอบ 24 ชม.

2 ประเด็นใหญ่ คดี “แตงโม นิดา”  ในรอบ 24 ชม.

0

2 ประเด็นใหญ่ คดี “แตงโม นิดา”  ในรอบ 24 ชม.
     ประเด็น 1   “อัจฉริยะ นำทีมนักประดาน้ำ” ลงเก็บข้อมูลแม่น้ำเจ้าพระยา 3 จุด หาผ้าขาว- มีดพับ-แก้ว ในคดีแตงโม จ่อมอบหลักฐาน “รมว.ยุติธรรม-DSI”

อ่านต่อ:แฟนคลับ “แตงโม นิดา” นัดติดแฮชแทกใหม่ #เพื่อภัทรธิดา1

 อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์

 อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์


       (16 พ.ค.) ที่ท่าเรือพิบูลสงคราม1 นาย “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์”  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมนายเฉลิมพล หงษ์ยนต์ ประธานสมาคมกู้ภัยทางน้ำกาญจนบุรี ภาค 7 และพร้อมทีมนักประดาน้ำ ลงดำน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเก็บข้อมูล 3 จุด ในคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา”

       นายเฉลิมพล กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากนายอัจฉริยะ เพื่อมาเก็บข้อมูลใต้น้ำที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ “แตงโม” ซึ่งจะมีการลงดำน้ำเก็บข้อมูล 3 จุด โดยจุดแรก เป็นจุดที่คาดว่าแตงโมตกเรือ จุดที่สองเป็นจุดที่พบศพ และจุดที่สาม เป็นจุดที่นายอัจฉริยะคาดว่าจะเป็นจุดที่แตงโมตกเรือจริงๆ ทั้งนี้ ลักษณะการทำงานเป็นการลงไปถ่ายรูปใต้น้ำ และเก็บทั้งทรายและเลน และใช้เครื่องแสกนตรวจดูโลหะและอาวุธต่างๆ โดยจะมีการนำมาวิเคราะห์ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่

       ในส่วนของท่อ PVC เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เก็บชั้นทราย ชั้นหิน ชั้นเลน ชั้นโคลน โดยจะเป็นลักษณะจองการแทงลงไปในชั้นดินที่กล่าวข้างต้น โดนเราจะเก็บทั้ง 3 จุด นอกจากนี้จะมีอุปกรณ์ที่ใช้วัดความลึกและสภาพของน้ำ อุณหภูมิของน้ำ โดยจะอ่านค่าเป็นสามมิติ โดยจะเป็น เป็นการสแกนจากผิวน้ำลงไปซึ่งมีความละเอียด จะมีการวางแผนว่าแต่ละจุดมีความลึกเท่าไหร่จากนั้นจะทิ้งทุ่นลงไป นอกจากนี้จะมีการใช้อุปกรณ์สแกนโลหะใต้น้ำลึกได้ถึง 60 เมตร หากเจอโลหะจะหยิบขึ้นมาทุกชิ้น และวิเคราะห์ว่าสิ่งที่เจอคาดว่าน่าจะตกน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ มีลักษณะอย่างไร สามารถใช้เป็นอาวุธได้หรือไม่


       นอกจากนี้ ในส่วนของน้ำตื้นจะใช้ตัวสแกนโลหะอีกเครื่อง ซึ่งจะมาสามารถแยกประเภทโลหะได้ ซึ่งจะมีการอ่านค่าเป็นตัวเลข ซึ่งเครื่องดังกล่าวนี้กันน้ำลึกได้ 5 เมตร และย้ำว่าวัตถุที่พบได้น้ำวันนี้ไม่ว่าจะเป็นผ้า หรือลักษณะโลหะใดๆ จะนำมาวิเคราะห์ทั้งหมด

       ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวถึงทีมนักประดาน้ำที่มาในวันนี้เป็นทีมที่มีประสบการณ์ และเคยผ่านการผ่านการปฎิบัติภารกิจที่ถ้ำหลวงมาแล้ว สิ่งที่ต้องการเจอในวันนี้ คือ “ผ้าขาวของแตงโม แก้ว โดยเฉพาะมีดพับต้องสงสัย ซึ่งจะ ใช้นำมาเป็นหลักฐานในการตรวจ DNA ด้วย

 อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์


       ทั้งนี้จุดสำคัญของวันนี้ในการตรวจสอบ คือ จุดที่ 3 บริเวณท่าทราย ที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ตนคาดว่าแตงโมตกเรือ เนื่องจากเป็นจุดที่กล้องวงจรปิดปรากฏภาพคนบนเรือแวะที่ท่าทรายแห่งนี้ ซึ่งตนจะทำครั้งนี้ใก้ดีที่สุดเพื่อเก็บหลักฐานให้กับ DSI โดยจะมีการไปมอบให้ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ และคาดว่า แล้วเสร็จปฎิบัติภารกิจในครั้งนี้แล้วเสร็จไม่เกินเวลา 13.00 น. และหวังว่านายสมศักดิ์ เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดี DSI จะเห็นจะเห็นความตั้งใจของตนและทีมงาน ที่อยากให้มีการรับเป็นไว้เป็นคดีพิเศษ และนับหนึ่งใหม่ในการพิสูจน์หาการฆาตรกรรมอำพราง

อัยการดาว

อัยการดาว

 

       ประเด็น 2  “อัยการดาวเดือด”  ถูกมืดมืดส่ง จม.ชี้นำคดี "แตงโม" บรรยาราวอยู่ในเหตุการณ์
       อัยการดาวเดือด ถูกมือมืดลอบส่งคำฟ้องปริศนาถึงบ้านพัก เป็นลักษณะชี้นำคดี  “แตงโม นิดา”  ฉะต้องการสื่อสารหรือหวังอะไรในคดีดัง ฉุนล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว
         ร.ต.ท.ฉัตรราชย์ สังข์พระกร พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรืออัยการดาว อัยการจังหวัดนนทบุรี ให้เดินทางมาตรวจสอบเอกสารปริศนาที่ถูกส่งมาถึงบ้านพักส่วนตัว ที่ย่านเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง พบ น.ส.สุภาภรณ์ ยืนรออยู่พร้อมเอกสารปริศนาที่ถูกนำส่งไว้ในตู้รับจดหมายหน้าบ้าน เมื่อวานนี้ 14 พ.ค. 65 เวลา 17.30 น. จากการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวซึ่งเป็นกระดาษเอ 4 จำนวน 22 หน้า จ่าใบแปะหน้าถึง น.ส.สุภาภรณ์ เป็นเอกสารในลักษณะคำฟ้องของศาลยุติธรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาประมาณว่า คล้ายเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์บนเรือสปีดโบ๊ทที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นิดา จมน้ำเสียชีวิต โดยบรรยายรายละเอียดในเรื่องราวทุกขั้นตอนราวกับเป็นบุคคลที่ 7 ในเหตุการณ์ แต่ลักษณะคำที่เขียนไม่ถูกหลักของนักกฎหมาย ไม่ใช่ภาษาศัพท์ที่ผู้ชำนาญการด้านกฏหมายใช้กัน และเอกสารสำเนาดังกล่าวก็ใช้ชื่อเพียงอักษรตัวเดียวแทนชื่อจริง โดยใช้ตัวอักษรแค่ อ. ตัวเดียวก็ถือว่าผิดปกติแล้ว และสัญลักษณ์ตายางที่ใช้ก็ไม่ถูกต้อง 
น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ช่วงเย็นลูกชายตนได้เปิดไปเปิดตู้รับจดหมายนำเอกสารดังกล่าว ซึ่งจ่าหน้าระบุถึงตนมาส่งให้ ทีแรกตนก็เข้าใจว่าเป็นโปรชัวร์แนะนำสินค้า จนกระทั่งนำมาเปิดอ่านดูก็พบว่า เป็นเอกสารคล้ายคำฟ้องขอศาลยุติธรรมแห่งหนึ่งบรรยายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเรือสปีดโบ๊ทในคดีที่ประชาชนกำลังให้ความสนใจอยู่ขณะนี้ โดยสามารถเล่าเหตุการณ์ได้ละเอียดราวกับเป็นบุคคลที่ 7 บนเรือหรือไม่ก็แม่ย่านางของเรือเลยทีเดียว เป็นการเล่าแบบเหนือธรรมชาติเกินความเป็นจริงอีกต่างหาก ทำให้ตนไม่แน่ใจว่า คนที่ส่งเอกสารดังกล่าวมา ต้องการอะไร เท่าที่อ่านดู เหมือนต้องการชี้นำคดีที่อัยการกำลังรับผิดชอบคดีอยู่ในตอนนี้ ซึ่งตนเคยให้ข่าวไปแล้วว่าถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรให้ไปยื่นหรือส่งเอกสารไปที่สำนักงานอัยการจังหวัด แต่การที่นำเอกสารมาส่งตรงถึงที่บ้านพักอัยการส่วนตัวแบบนี้ ตนถือเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน 
       เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยเปิดเผยที่อยู่บ้านพักใด ๆ ในพื้นที่สาธารณะมาก่อน ตนถือนอกเวลางานตนคือประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ต้องการพื้นที่ความเป็นส่วนตัว การกระทำในลักษณะนี้จึงเข้าข่ายปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม เนื่องจากในเอกสารนั้นมีตราครุฑที่ใช้ในทางราชการร่วมอยู่ด้วย ตนจึงต้องแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ส่งเอกสารดังกล่าวมาที่บ้านพัก และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบด้วยว่าบุคคลที่ส่งเอกสารปลอมนี้มาให้ตน ไปนำข้อมูลที่อยู่บ้านพักตนมาได้อย่างไรน.ส.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า การใช้เอกสารปลอมส่งมาเพื่อต้องการชี้นำคดี นอกจากจะล้ำเส้นการทำงานในหน้าที่ของตนแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอีกด้วย คนดีๆเขาไม่ทำแบบนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆกับคดีที่ทางอัยการจังหวัดรับผิดชอบอยู่ ทุกอย่างยืนอยู่บนหลักเกณฑ์และกรอบที่กำหนดไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments