“ทนายเดชา” จุ๊กกรู๊ ร้องกองปราบฯ เอาผิด “สส.เต้” ขู่กระทืบ

“ทนายเดชา” จุ๊กกรู๊ ร้องกองปราบฯ เอาผิด “สส.เต้”  ขู่กระทืบ
       11.00 น.วันที่ 30 พ.ค.65 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร “นายเดชา กิตติวิทยานันท์”  ทนายความคดีของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม นิดา”  เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี  เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมกับเข้าแจ้งความที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โทรศัพท์ข่มขู่ว่าจะส่งคนไปทำร้ายร่างกาย หากยังไม่หยุดวิพากษ์วิจารณ์คดีแตงโม ที่มีลักษณะข่มขู่อาจทำให้ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโมนิดา เกิดความกลัว

อ่านต่อ:ด่วน! “ทนายเดชา” ขอถอนตัวคดี “แตงโม” เนื่องจากมีความคิดเห็น

       นายเดชา เปิดเผยว่า วันนี้จะมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายมงคลกิตติ์ในข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ ตามมาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งนายเดชาได้นำหลักฐานคลิปเสียงการสนทนามาให้กับพนักงานสอบสวนด้วย
และหลังจากนี้จะไปร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม และจริยธรรมนักการเมือง ของนายมงคลกิตติ์ที่เป็นถึง ส.ส. แต่กลับมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่ประชาชน

       นายเดชายังบอกว่า การที่ตนไลฟ์สดวิพากษ์วิจารณ์คดีของแตงโม นิดา เป็นสิทธิ์ตามกฏหมายที่สามารถทำได้ แต่พอถูกนายมงคลกิตติ์ข่มขู่ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงใช้วิธีการตามกระบวนการของกฏหมาย เพื่อปกป้องตนเองและครอบครัว รวมทั้งสุนัขอีก 2 ตัว ที่รู้สึกหวาดกลัวกันทางบ้าน
ส่วนที่นายมงคลกิตติ์ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าเป็นการพูดล้อเล่นนั้น ตนเองฟังจากสำเนียงน้ำเสียงที่พูด ไม่ได้เป็นการล้อเล่น เป็นการจงใจข่มขู่คุกคาม เพราะส่วนตัวก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกันแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบยังพบว่า มีบุคคลที่ถูกนายมงคลกิตติ์ข่มขู่อีกหลายคน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะทำให้นายมงคลกิตติ์พ้นสภาพความเป็น ส.ส. เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ไม่เหมาะที่จะเป็น ส.ส.ของประชาชน
        ต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาจาก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายเดชาได้ไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์วิพากษ์วิจารณ์แบะเตือนกรณีที่นางภนิดาจะให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายและทยานความชุดมใหม่ที่แต่งตั้งขึ้นฟ้องร้องดำเนินคดีกับ 5 ผู้ต้องหาที่อยู่บนเรือสปีทโบ้ท ในข้อหาฆาตกรรมว่า หากไม่มีหลักฐานแน่นพอ ฟ้องร้องไปแล้วแพ้คดี อาจถูกฝ่ายตรงข้ามฟ้องกลับในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ ควรหาที่ปรึกษาทางกฎหมายดีๆ เพราะถ้าถูกฟ้องกลับแล้วแพ้คดี อาจได้รับโทษหนักเพียงคนเดียว ซึ่งจากการไลฟ์สดดังกล่าว ทำให้นายมงคลกิตติ์ไม่พอใจโทรศัพท์ไปข่มขู่นายเดชาดังกล่าว
ด้านทนายรัชพล โพสต์เฟซบุ๊กว่า….
“เจอแรงกดดันแค่นี้ก็หัวร้อนสันดานโผล่ซะแล้ว เด็กกับผู้ใหญ่มันต่างกัน ผู้ใหญ่เค้าจะรู้จักควบคุมอารมณ์ รู้ดีชั่ว ส่วนเด็กๆ อยากทำอะไรก็ทำตามใจ ไม่สนใจกฎหมาย ทำตามใจตัวเอง อะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะงอแง หรือบางทีก็เน้นใช้แต่กำลัง เพราะสมองสู้เค้าไม่ได้ เป็นผู้ทรงเกียรติ ควรทำตัวให้น่าเคารพกว่านี้ ฝากไว้ให้คิด”
ส่วน ทนายรณรงค์ แห้วเพ็ชร์ แจ้งว่า “วันนี้ 30 พฤษภาคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จ.นนทบุรี 
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จะเข้าแจ้งความกรณีถูก สส.คนดังไลฟ์สดเฟสบุคข่มขู่ กรณีให้ความรู้คดีคุณแตงโม นิดาฯ เหตุที่ต้องมาแจ้งความดำเนินคดี เพราะมีคดีความที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดเยอะโดยเฉพาะ 3 ชายแดนภาคใต้ เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย