ไขข้อข้องใจอาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกของ “จัสติน บีเบอร์”
จากกรณีที่ “จัสติน บีเบอร์”ซุปตาร์ระดับโลกป่วยด้วยภาวะใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก โดยมีอาการ ปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ล่าสุดเพจหมออร หรือ @DoctorOrnvenus
อ่านต่อ:“Justin Bieber” ประกาศด่วน!! เลื่อนทัวร์คอนเสิร์ตชั่วคราว เหตุ
ได้มาไขข้อข้องใจถึงอาการดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรและมีอาการอย่างไร แก้ไขหรือป้องกันได้อย่างไรว่า
Justin Bieber กับอาการปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท จากโรค Ramsay Hunt Sundrome
เมื่อวาน Justin ได้โพสต์ IG แจ้งข่าวกับแฟนๆว่าเป็นโรค Ramsay Hunt Syndrome พร้อมอธิบายอาการของเขาให้ฟัง เนื่องจากมีบางส่วนเกี่ยวกับตาหมอเลยจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเป็นกำลังใจให้ คุณ Justin Bieber และแฟนคลับด้วยค่ะ
Ramsay Hunt Syndrome จะมีอาการของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 เป็นอัมพาต และมักจะมีความผิดปกติของการได้ยินร่วมด้วย
อาการ
หน้าเบี้ยว
หลับตาไม่สนิท
กระพริบตาไม่สุด
เคืองตา, แสบตา, น้ำตาไหล
มุมปากตก ยกไม่ขึ้น อาจมีน้ำหกมุมปากได้
พบตุ่มน้ำใส หรือผื่นแดงๆ ที่หน้าหู หรือ ใบหูส่วนนอก บางรายมีผื่นที่ปากและลิ้นด้วย
ปวดหู หรือ มีเสียงดังผิดปกติในหู เวียนศีรษะ บ้านหมุน
สาเหตุ ของ Ramsay Hunt Syndrome
อาจเกิดหลังการกำเริบของไวรัส varicella zoster virus (เชื้อเดียวกับอิสุกอิใส, เริม) ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของคนที่เคยเป็นมา และเมื่อมีการกำเริบที่เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 จึงแสดงอาการดังกล่าว
อาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกมีหลายสาเหตุ
Ramsay Hunt sundrome (RHS) พบได้ 12% รุนแรงกว่า Bell’s palsy
Bell’s palsy
หลังผ่าตัดเนื้องอกต่อมน้ำลายหน้าใบหู หรือผ่าตัดถูกเส้นประสาทหน้าหู
เป็นต้น
เนื้องอกของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 Acoustic Neuroma
การวินิจฉัย RHS
จากอาการและร่วมกับมีผื่นตุ่มน้ำใสบริเวณหน้าหู และปวดหูร่วมกับอาการอัมพาตครึ่งซีกของใบหน้า
ตรวจ PCR หาเชื้อไวรัสจากน้ำตา (แต่อาจพบผลบวกลวงได้ 25-35%)
หากมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบร่วมด้วยให้เจาะหลังนำน้ำไขสันหลังมาตรวจ และ CT scan สมอง
Direct immunofluorescene assay against varicella zoster antigen มีความไวและจำเพาะสูง
การรักษา
การรักษาหลัก ให้สเตียรอยด์ และให้ยารักษาเชื้อไวรัส (Acyclovir) ให้เร็วเป็นปัจจัยให้อาการดีขึ้นจนหายได้
รักษาทางตา เนื่องจากหลับตาไม่สนิทอาจจะมีการระคายเคืองตา ตาแดง ตาพร่า ให้การรักษาด้วยการหยอดน้ำตาเทียมและป้ายยาที่ตาบ่อยๆ ติดเทปช่วยปิดตา และ กรณีไม่หาย หรือ ตาอักเสบมากทั้งที่หยอดยาบ่อยแล้ว ต้องได้รับการผ่าตัด เพื่อช่วยให้ตาปิดได้มากขึ้น
การผ่าตัด มีทางเลือกตั้งแต่
- เย็บเปลือกตาบนล่างทางหางตาให้ติดกัน
- ผ่าตัดใส่แผ่นทองคำที่เปลือกตาบน
- ผ่าตัดเสริมเนื้อเยื่อที่เปลือกตาล่างและดึงมุมหางตาให้สูงขึ้น เป็นต้น
การผ่าตัดมักทำในระยะหลังที่อาการไม่ดีขึ้นแล้ว หรือมีปัญหากระจกตาแห้งถลอกมาก
ทั้งนี้ทั้งนั้นกรณีที่มีอาการเช่นนี้ ควรเข้ารับการรักษากับอายุรแพทย์ ร่วมกับจักษุแพทย์ในเบื้องต้น
และหากเมื่อจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปลือกตาแก้ไข ก็ปรึกษาจักษุแพทย์ด้านศัลยกรรมจักษุตกแต่ง เพื่อเลือกวิธีการผ่าตัดรักษาที่เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายค่ะ
ที่มา IG : Justinbieber