“ต่าย สายธาร” รับคำเชิญ “ลุงอัจ” ร่วมวิเคราะห์ภาพคราบเลือดบนเรือ
ความคืบหน้าล่าสุดใน “คดีแตงโม” เกิดความวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง หลังจากคุณแม่ พนิดา ร่วมกับ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ปลด “อัจฉริยะ” ฟ้าผ่า อ้างดำเนินการโดยพลการ งานนี้ อัจฉริยะ จึงเดินหน้าเปิดหลักฐานเด็ดให้ ต่าย-แต๊งค์ ดูในรายการ “ถกไม่เถียง”
วันที่ 15 มิ.ย. 2565 อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ - ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” โดยเล่าว่า หลักฐานที่อยากให้ ต่าย สายธาร และ แต๊งค์ พงศกร ดูคือวิดีโอกับภาพนิ่ง เกี่ยวกับเหตุการณ์บนเรือ ซึ่งมันจะเห็นคราบเลือด เลยอยากให้ทั้งคู่ได้ดู เพื่อให้เขามั่นใจในสิ่งที่ยังคงสงสัยอยู่หลาย ๆ อย่าง
จาก ล่าสุดที่ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ - หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ขอพูดความในใจนะครับ ผมเหนื่อยมาก กับ การคืนความยุติธรรมให้คดีแตงโม ผมอ่อนล้ามาก ตั้งแต่ 25 ก.พ. 65 ถึง ปัจจุบัน อยาก Move on ปล่อยวางฝาก พี่อัจฯ ดูต่อด้วยครับ” ตนไม่รู้สึกอะไร เพราะเหตุการณ์เมื่อวาน (14 มิ.ย. 65) ตนรู้สึกว่าถูกหยามมาก เพราะตนถูกยกเลิกหนังสือมอบอำนาจการฟ้อง ทั้งที่ตัวเองได้แจ้งเขาก่อนล่วงหน้าแล้ว ซึ่งตนก็งงว่ามันคือเรื่องอะไร เพราะตนก็ฟ้องตามที่ พนิดา ศิริยุทธโยธิน - แม่ของแตงโม ต้องการเลย คือมาตรา 290 และมีมาตรา 288 ประกอบ รวมแล้วทั้งหมด 8 มาตรา โดยเขาพูดมาตลอดว่าแม่อยากฟ้องมาตรา 290 และบอกว่าแม่ไม่อยากขึ้นศาล ตนก็รับอำนาจไปขึ้นศาลแทน
ตอนที่เขาส่งแฟกซ์มาขอยกเลิกหนังสือมอบอำนาจ ตอนนั้นยังไม่มีลายเซ็นแม่เลย จึงบอกกับเจ้าหน้าที่หน้าศาลตรงนั้นว่า นี่เป็นหนังสือที่ส่งมาโดยมิชอบ จะรับฟ้องได้อย่างไร แถมยังเลยเวลาราชการแล้วอีก พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนก็พยายามติดต่อกลับ ส.ส.เต้ แต่เขาไม่รับสาย
ทั้งนี้ ตนก็เห็นเจตนาของเขาชัดแล้ว เพราะระหว่างที่ตนอยู่ที่ศาล เขาได้มีการประชุมกัน จนมาไลฟ์สดโต้เลยว่า เขาได้ยกเลิกหนังสือมอบอำนาจแล้ว และแม่ได้บอกว่าขอหนังสือมอบอำนาจคืนมาแล้ว 2-3 วัน แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้มีการแจ้งก่อน เพิ่งยกเลิกเมื่อวาน ตอน 17.00 น. ในหนังสือเอกสารลงวันที่ 14 มิ.ย. 65 ด้วย และถ้าตามกฎหมายต้องเป็นคุณแม่ที่ต้องเป็นคนยกเลิก แต่ตนก็ไม่เคยได้คุยกับคุณแม่เลย ซึ่งตนมองว่า ถ้าจะถอนตนออก มาทำวันรุ่งขึ้นที่ศาลก็ได้ ส่วนเหตุผลที่เขาถอนตนออก ตนคิดว่า เป็นเพราะตนไม่ได้ให้ดูหลักฐานสำคัญ แต่พวกหลักฐานทางคอมพิวเตอร์ หรือจากแพทย์ เราให้ดู สาเหตุที่ตนไม่ให้ดูหลักฐานสำคัญเพราะ ไม่ไว้ใจ เนื่องจากหลักฐานพวกนี้มันมีราคา หากหลุดออกไป เขาจะเอาไปต่อรองราคาได้
ต่าย เล่าเหตุการณ์วันที่ค้นหาแตงโมว่า ตนและทีมงานได้ทำงานอยู่ 38 ชั่วโมง นับได้ว่าเป็นเคสที่หนักมาก มีทีมงานดำน้ำค้นหาจนเส้นเลือดฝอยในตาแตก และเป็นตะคริว และในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุ มีทีมงานมาเล่าให้ตนฟังว่า คนบนเรืออยู่ในสภาพที่เมา ชี้จุดที่คุณแตงโมตกเรือไปคนละทาง พร้อมกับด่ากู้ภัยว่ามาช้า คิดว่ากู้ภัยมาจากใต้น้ำ ตนจึงชี้แจงว่าการทำงานกู้ภัยมีระบบแบบแผน ทีมงานกู้ภัยอาศัยอยู่บนบก ต้องใช้เวลาเดินทาง ซึ่งคนบนเรือได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์นี้แล้ว