ทนายดังชี้กรณีต่อย “ศรีสุวรรณ” ปรับ 1000 ตามกฎหมายอาญามาตรา 391
“สาคร ศิริชัย”ทนายความดังเผยแก่ดาราเดลี่ถึง กรณี “ศรีสุวรรณ จรรยา” โดยต่อยระหว่างยื่นหนังสือร้องกองปราบกรณีการวิจารณ์ของ “โน้ส อุดม” ว่า
อ่านต่อ:เปิดใจปมต่อย “วีรวิชญ์” มือชก “ศรีสุวรรณ” | daradaily
จากกรณีที่นาย “ศรีสุวรรณ จรรยา” ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ตรวจสอบการแสดงทอล์กโชว์เดี๋ยวไมโครโฟน 13 ของ “โน้ส อุดม” นักพูดทอล์กโชว์ชื่อดังกรณีวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ตลอดระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมาซึ่งมีเนื้อหาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การ บริหารงานภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาซึ่งมีเนื้อหาเป็นที่ชื่นชอบ และไม่ชื่นชอบของบุคคลหลายฝ่ายต่างกลุ่มต่างสีทางการเมือง โดยขณะที่นายศรีสุวรรณจรรยากำลังจะยื่นหนังสือและมีการแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนหลายสำนักนั้น “นายวีระวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล” ไ ด้แฝงตัวเป็นผู้สื่อข่าวและได้ทำร้ายร่างกาย นาย “ศรีสุวรรณ จรรยา” โดยมีการชกต่อยเตะหลายครั้งเป็นเหตุให้นายศรีสุวรรณ จรรยาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยบริเวณปลายคาง
ในกรณีดังกล่าวผมมองว่า ประเด็นแรกกรณีการเดี๋ยวไมโครโฟน 13 ของคุณ “โน้ส อุดม” ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลกรณีดังกล่าวคุณโน๊ตได้วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาตามวิสัยของประชาชนซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลและได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของรัฐบาล ย่อมมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้และการวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนเป็นเรื่องจริงซึ่งประชา ชนรับทราบกันดีอยู่แล้ว
กรณีดังกล่าวในความเห็นของผมถือว่าการกระทำของคุณโน้สอุดมเป็นการแสดงความเห็นหรือแสดงข้อความโดยสุจริตเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรมซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำได้ซึ่งจะได้รับข้อยกเว้นไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (3) อีกทั้งไม่ถือว่า เป็นความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพราะข้อเท็จจริงบางส่วนล้วนแล้วแต่เป็นความจริง
ประเด็นต่อมาการกระทำของนายวีรวิชญ์ ทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณด้วยการชกต่อยและเตะจำนวนหลายครั้งนั้นการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้นายศรีสุวรรณบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจึงเป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจซึ่ง เป็นความผิดลหุโทษมีความผิดระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 เท่านั้นซึ่งกรณีดังกล่าวหากทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาตกลงกันได้พนักงานสอบสวนสามารถเปรียบเทียบปรับได้แต่หากนายศรีสุวรรณไม่ยินยอมมีการยื่นฟ้องต่อศาลความผิดฐานดังกล่าวตามประสบการณ์ที่ผ่านมาหากผู้กระทำความผิดให้การรับสารภาพจะมีโทษเพียงปรับประมาณสามถึง 4000 บาทเท่านั้นไม่ถึงขั้นจำคุก
ประเด็นที่สามการกระทำของนายวีรวิชญ์ ดังกล่าวซึ่งมีโทษเพียงเล็กน้อยแต่ส่งผลสะเทือน หลายวงการเปรียบไปแล้วเหมือนนายศรีสุวรรณจรรยาเป็นปี๊บเมื่อตีแล้วจะมีเสียงดังสื่อทุกสำนักให้ความสนใจสัมภาษณ์ต่อไปหากมีการร้องเรียนจะมีพฤติกรรมเลียนแบบทำร้ายร่างกายในลักษณะเดียวกันเพราะข่าวลักษณะนี้ประชาชนให้ความสนใจ ดังนั้นต่อไปนี้นายศรีสุวรรณจรรยาจะร้องเรียนเรื่องใดก็ตามต้องตรวจสอบระมัดระวังและดูกระแสของสังคมด้วย อีกทั้งต้องดูเนื้อหาของ
คนที่ตนเองไปร้องเรียนว่าเจตนาที่เค้าทำเป็นอย่างไรมิใช่ไปร้องเสียทุกเรื่องซึ่งจะเป็นที่ไม่ถูกใจของบุคคลที่เขาชื่นชอบบุคคลที่ถูกร้องเรียนดังกล่าว
ผมมองว่ากรณีที่เกิดเหตุดังกล่าวนี้จะเป็นกรณี”เตะชายโครง สอยปลายคาง สะเทือนถึงดวงดาว” ดังนั้นต่อไปนี้จะร้องเรียนเรื่องอะไรต้องระมัดระวังตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ก็ขอแสดงความเสียใจกับนายศรีสุวรรณ ที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ และไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง แต่มนุษย์เรามีปรอทความอดทนแตกต่างกัน เมื่อถึงวันหนึ่งจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้เห็นบ่อยขึ้น