“ทนายตั้ม” โต้สภาไม่ได้ปล่อยภาพ ย. ด้าน “สาคร” ชี้แจงความหมายของมารยาททนาย
จากกรณีที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน “นายวิเชียร ชุบไธสง” นายกสภาทนายความฯ พร้อมคณะกรรมการสภาทนายความฯ ได้ตอบข้อซักถาม กรณีที่มีทนายความชื่อดังทางโซเชียล มีพฤติการณ์นำภาพข้อมูลส่วนบุคคลในคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลมาเผยแพร่โดยยกตัวอย่างการเผยแพร่ภาพของอดีตรองนายกรัฐมนตรี ย กรณีเรื่องบ้านเล็ก เป็นเรื่องไม่เหมาะสม อาจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท ตามที่สื่อได้นำเสนอไปแล้ว
อ่านต่อ: โพสต์พลีชีพทนาย “ดิว อริสรา” รับมีผู้ใหญ่ฝาก”ช่วยดูให้หน่อย”
ล่าสุดด้าน “ทนายตั้ม ษิทรา” เผยถึงกรณีดังกล่าวว่า อยากให้สภาทนายความ กลับไปอ่านข่าวดีๆ ว่าใครเป็นคนปล่อยภาพนี้ ตนเองไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพดังกล่าว ตนเองพร้อมอธิบายว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพ สภาทนายความทำแบบนี้ จะเป็นการเสียมารยาทด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ “สาคร ศิริชัย” ทนายความชื่อดังเผยว่า ในการประกอบวิชาชีพของทนายความจะมีข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 กำกับไว้ซึ่งในข้อบังคับดังกล่าวในหมวด 3 มรรยาทต่อตัวความ ข้อ 11 ซึ่งห้ามมิให้ทนายความเปิดเผยความลับของลูกความที่ได้รู้ในหน้าที่ของทนายความเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากลูกความนั้นแล้วหรือโดยอำนาจศาล กรณีทนายความชื่อดังที่ตกเป็นข่าวในประเด็นดังกล่าวที่ได้นำความลับจากการที่ได้รับการปรึกษาจากตัวความของตนเองหรือได้รับรู้มาโดยทางหนึ่งทางใดแต่ได้นำความลับดังกล่าว ไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่นหรือต่อสื่อมวลชนและได้มีการเผยแพร่ไปตามสื่อต่างๆจนเกิดความเสียหายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องก็อาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องมรรยาททนายความ และเป็นเรื่องที่มิบังควร
แม้จะกล่าวอ้างว่า ได้รับอนุญาตจากตัวความของตนเองแต่ความลับดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสร้างความเสียหายต่อบุคคลในวงกว้างทนายความควรใช้วิจารณญาณในกรณีดังกล่าวสูงกว่าบุคคลซึ่งเป็นประชาชนทั่วไป
เนื่องจากทนายความเป็นวิชาชีพ ที่บุคคลทั่วไปให้ความเชื่อถือ และอาจถูกบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงต่อเกียรติยศของวงศ์ตระกูล ดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาได้ถ้าเรื่องที่นำมาเปิดเผยมิได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ในการดำรงตนของวิชาชีพทนายความการรักษาความลับของลูกความเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ต้องพูดถึงลูกความทั่วๆไปที่มาปรึกษาคดีความซึ่งเราจะต้องรักษาความลับเค้ายิ่งชีวิต
แม้กระทั่งเพื่อนพ้องวงศาคณาญาติที่รู้จักทนายความและครอบครัวของทนายความเป็นการส่วนตัวหากเขานำมาปรึกษาอรรถคดีต่างๆถ้าเขา มาปรึกษาในฐานะที่เราเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ มิใช่ในฐานะญาติหรือเพื่อนความลับที่เขานำมาปรึกษาเราไม่สามารถนำความลับดังกล่าวไปบอกคนในครอบครัวหรือวงศาคณาญาติของเราได้เพราะเราคือ”ทนายความ”
ในยุคสื่อสังคมออนไลน์ที่แพร่หลายในขนาดนี้การที่ทนายความนำเรื่องราวต่างๆมาเปิดประเด็นเพื่อให้เป็นที่น่าสนใจหรือตกเป็นข่าว ต้องระมัดระวังและรักษามรรยาททนายความด้วย