“นอท กองสลากพลัส” ปฏิเสธทุกข้อหา ไม่ได้ขายเกินราคา เผยลูกค้าโดนคุกคามกว่า 50 ราย
ภายหลังที่ “นอท กองสลากพลัส” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาครั้งที่สองกรณี ขายสลากเกินราคาที่ ดีเอสไอ จากนั้นเขาออกมาให้ข่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า “ทุกคนไม่น่าจะมาสนใจกับการขายสลากเกินราคาเพราะมันต้องมีค่าบริการต่างๆ อยากให้นักข่าวทุกคนเข้าไปหน้าเฟซบุ๊กผมมีตำรวจจากทั่วประเทศไปลุกคามลูกค้าผมถึงหน้าบ้าน”
อ่านต่อ: “กองสลากพลัส” โยนให้ผู้ถูกล็อตเตอรี่เช็คขึ้นรางวัลจากดีเอสไอ
“บังคับให้มาเป็นพยานเอาผิดผมฐานจำหน่ายสลากเกินราคาโดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของ ตร. ผมไม่รู้ว่าใครกลั่นแกล้งผมรึป่าวแต่ผมยืนยันว่าไม่ได้จำหน่ายสลากเกินราคา”
“ผมว่ามันไม่ถูกอยู่แล้ว คุณจะไปหน้าบ้านลูกค้าประมาณ 2-3 ทุ่มแล้วไปบอกให้ลูกค้ามาเป็นพยานเรื่องจำหน่ายสลากเกินราคาแล้วโดนลูกค้าผมด่ากลับทั้งที่ลูกค้าเต็มใจซื้อ ลูกค้าจะโดนผมฟ้องกลับด้วยแต่ผมไม่ได้คิดอะไร มีการแต่งเครื่องแบบไป ใส่หมวกไปมันเหมือนไม่ใช่ตำรวจจนลูกค้าผมกังวล เขาไม่ได้เลือกมั้งครับแต่เขามาจับของผมที่เดียว”
“ลูกค้าสามารถปฏิเสธการเป็นพยานได้ เสียเวลาที่ต้องไปสน.ต้องไปขึ้นศาลไปชนกับผมบนศาลอีก ล็อตเตอรี่ผมขาย 80 บาท ผมเสียเวลาต้องเดินทางไปสน.ทั่วประเทศไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วบัญชีโดนอายัดหมดแล้วผมไม่มีเงิน ผมจะทำยังไงผมยังเครียดอยู่”
“เขาเผยอีกว่าสำหรับ ขั้นตอนของคนที่ถูกรางวัลที่1 คือเราคัดแยกล็อตเตอรี่กันอยู่น่าจะเสร็จวันอาทิตย์ วันจันทร์เราจะขึ้นเงินแล้วเราจะโอนเงินให้ลูกค้าไม่เกินวันอังคารได้เงินแน่นอน และไม่มีใครโทรไปหาไม่มีใครจ่ายตังก่อนเพียงแต่งวดนี้ล็อตเตอรี่ไม่ได้อยู่ในมือเราและตอนนี้โดนล็อคบัญชีบริษัท เราต้องหักภาษี 0.5 %ตามปกติ สำหรับคนที่ถูกรางวัลที่1 ตอนนี้ลูกค้ามาที่บริษัทแล้วมารอรับใบจริง”
เรื่องจดภาษีบริษัทผมจดถูกต้องจ่ายครบหมด ตอนนี้เราก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาไปแล้วตอนนี้ก็แค่ขึ้นอยู่กับกระบวนการต่อไปก็ขี้นอัยการและก็ขึ้นศาลไป
เครดิตภาพ กมล แย้มอุทัย
การกลับมาของกองสลากพลัสก็ต้องดูตามข้อกฎหมายรอดูต่อไป
ผมจะเริ่มขายเสื้อกองสลากพลัสราคา 299 บาท เสื้อจะเป็นทุนที่จะใส่ไปรับทราบข้อกล่าวหาทั่วประเทศและก็จะทำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเลยจะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส