“เอ๊ะ จิรากร” ไม่รับคำขอโทษพร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
“เอ๊ะ จิรากร” เผยละเอียดถึงเหตุการณ์โดนชกหน้าในผับย่านรังสิตปทุมตามที่เป็นข่าวว่า เหตุการณ์วันนั้นประมาณเที่ยงคืนครึ่งผมเล่นดนตรีที่ร้าน Walkin 88 ปทุมธานี คลอง 3 ซึ่งผู้กรณีได้เดินเอาเครื่องดื่มมาให้ผมดื่ม 1 รอบแล้วผมก็ดื่มไปแล้วเรียบร้อยหลังจากนี้ประมาณ 15 นาทีเขาก็เดินมาอีก 1 รอบโดยที่มือขวาเขาถือแก้วมือซ้ายถือโทรศัพท์ ผมคิดว่าเขาน่าจะให้ผมดูว่าจะขอเพลงหรือจะมาเซลฟี่หรือไม่ผมไม่แน่ใจ แต่ตอนเขาขึ้นไปเขาดันก้าวไปที่สเตปของสเตจขึ้นไป ตามกฎอยู่แล้วการ์ดต้องไม่ให้ขึ้นเวทีและการ์ดดึงไม่ให้ขึ้นแต่เขาก็ผลักการ์ดเขาก็ใส่ผมเลย
อ่านต่อ:4 ศิลปินแชร์ประสบการณ์เลวร้ายบนเวทีคอนเสิร์ต
เขาเล่าว่า “ ผมเซไป3ก้าวแล้วมีอาการหูวิ้งและหูแดงเขาไม่ได้ทำอะไรมากก็โดนการ์ดเอาตัวลงไปพอดีเขาเลยหันไปใส่เลย ผมก็ยังเอามือไปโอบแขนเขาแล้วถามว่าพี่มีอะไรจะขอเพลงอะไรหรือจะเซลฟี่ผมเองยังไม่ทันได้พูดอะไรหูอื้ออย่างเดียว แล้วหลังนั้นการ์ดก็นำพี่ๆทั้งหลายออกไปนอกร้านและเขาไปเอาอะไรที่รถทำให้การ์ดถอยเข้ามาในร้านแล้วพี่เขาก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่ผมก็ได้ข้อมูลจากพี่ๆน้องๆที่อยู่ในนั้น และเขาก็ยังให้เราดูแลกันดีๆเพราะก็ไม่รู้ว่าเขามีอะไร ผมก็เลยต้องเข้าไปอยู่ในห้องพักศิลปินก่อนแล้วก็ไปเปลี่ยนรถแล้วผมก็ไปอยู่บ้านน้องก่อน ตอนนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ปลอดภัยเพราะว่าไม่รู้ว่าเขามีพักพวกเยอะมากแค่ไหน
“ช่วงประมาณตี 2 ผมได้คุยกับพนักงานที่ร้านว่าขอคุยกับทางผู้ใหญ่ก่อนว่าจะจัดการยังไงผมขอดูข้อมูลของเขาก่อน ตอนเช้าผมก็เอาข้อมูลนี้ให้กับเบนซ์ อาปาเช่ กับพวกพี่กัน ซึ่งพี่กันก็บอกว่าผมว่าเรื่องนี้เราต้องใส่กันเต็มๆแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นการขึ้นมาครั้งแรกที่มีคนขึ้นมาประชิดตัว เพราะผมเป็นคนเฟรนด์ลี่มากตลอด”
สำหรับอาการหลังพบแพทย์เขาบอกว่า “ผมก็ได้มีการตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้วมีใบตรวจมาแล้วด้วยที่โรงพยาบาลวิภาวดี และระดับการได้ยินของผมลดลงกว่าเดิมและหูยังอื้อยังวิ้งอยู่เลย เป็นที่หูข้างซ้าย คุณหมอก็มีให้ทานยา”
เรื่องของงานก็ยังทำงานได้ต่อแต่ไปแบบหวาดระแวงอยู่ก็มีการถามว่าที่นั้นมีการ์ดหรือใครคอยดูแลไหมก็ไม่ไว้ใจความปลอดภัยของตัวเองอยู่ ซึ่งก็มีข้อสงสัยว่ามีความแค้นส่วนตัวหรือกับทางร้านหรือไม่
“ซึ่งทางร้านก็ขอโทษในรายการ เรื่องเสียหายก็คือผมกับทางร้านและผมก็จะไปแจ้งความต่อเลยโดยที่มีพี่กันคอยดูแล
เรื่องที่เขาบอกว่าจะเอาไมค์ประกาศตามหาแฟนซึ่งผมคิดว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับผมนะครับ ผมมาถึงที่ร้านไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่เหมือนว่าผู้กรณีจะตามขอโทษเราเหมือนกัน”
“แล้วสิ่งที่เขาอ้างไปต่างๆนั้นที่จริงแล้วเขาไม่ได้คว้าไมค์ผมแต่เขาคว้าที่หูผม แต่เขาให้การว่าหลังจากที่เขาคว้าไมค์เหตุการณ์ข้างล่างไม่ได้มีการตะลุมบอนกัน”
.jpg "เอ๊ะ จิรากร")
“ผมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะว่าเราโดนทำร้ายผมมาตรฐานการให้เกียรติมันควรจะดีขึ้นและการทำงานของพวกเรามันควรจะดีขึ้น ค่ายเราก็ร้องขอไปทางร้านก็ควรจะซัพพอร์ต อย่าให้มันเกิดกรณีนี้ขึ้นมาอีกตอนหลังผมกับพี่กันคิดว่าหรือว่ามันจะเป็นเทรนด์เป็นกระแสหรือเปล่า และมาตรฐานความปลอดภัยของศิลปินด้วย ซึ่งเราก็ร้องขอทางร้านไปอยู่แล้ว”
สำหรับคำขอโทษ เขาบอกว่า “ ถ้าเขามาขอโทษผมก็ไม่จบครับ ผมก็ไม่ได้ใจร้ายผมแค่รู้สึกว่าถ้าไม่งั้นมันก็จะเกิดอะไรแบบนี้อีกเรื่อยๆถ้าเขาเอากระเช้ามาขอโทษก็รับทราบแต่ถ้าขอเจรจาก่อนผมก็ไม่รับผมอยากให้เป็นบรรทัดฐานผมยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างเดียวเลยทุกคน ก่อนหน้านี้ก็มีโยนเงินใส่ มีการแย่งไมค์ที่ไม่สามารถดำเนินคดีได้แต่การทำร้ายร่างกายดำเนินคดีได้ ทางด้านทนายยืนยันว่าจะเอาให้เต็มที่ทางร้านก็จะแจ้งความด้วย”
