“เท่ง เถิดเทิง” เผยชีวิตตลกไม่เคยเล่นมุกบูลลี่ใคร รับอดีตเคยเจ้าชู้ตอนนี้หยุดทุกอย่างแล้ว
นักแสดงตลกชื่อดัง “เท่ง เถิดเทิง” หรือ “พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ” เปิดใจถึงเรื่องราวในอดีต สู้ชีวิตกว่าจะมีอย่างทุกวันนี้ไม่ง่าย เผยวงการตลกที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ลั่น! ไม่เคยเล่นมุกบูลลี่ใครและสอนลูกไม่ให้ดูถูกคน ยอมรับอดีตเคยเจ้าชู้ตอนนี้หยุดทุกอย่างแล้วในรายการ WOODY FM
Q : ต้องยอมรับว่า 10 ปีที่ผ่านมาวงการตลกเปลี่ยนไปเยอะ โดยเฉพาะสังคมเดี๋ยวนี้ก็ไม่โอเคกับมุกตลกต่างๆ ที่จะบูลลี่ คิดว่ามันยากขึ้นไหมหรือมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องเปลี่ยนไปกับกาลเวลา ?
เท่ง เถิดเทิง : คงจะเป็นกาลเวลา พอเรามานั่งคิดมันใช่นะ อีกอย่างคือมันไม่ดีอยู่แล้วการบูลลี่คน เป็นการไปเสียดสีปมด้อยเขาอะไรบางอย่าง มุกตลกร้าย ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยบูลลี่คน แล้วเพิ่งรู้จักไม่นานว่าคำว่าบูลลี่เป็นยังไง บอกลูกมาตั้งแต่เกิดเลยว่าจำไว้นะอย่าไปดูถูกคนใครก็ช่าง ให้ดูพ่อเป็นตัวอย่างจนมาถึงทุกวันนี้ได้ และก็ขอขอบคุณกับคำที่เขาดูถูกเรามันสร้างให้เราแกร่งขึ้น
Q : เขาดูถูกพี่ว่าอะไร ?
เท่ง เถิดเทิง : พวกลิเก พวกสามล้อ แต่เรารู้สึกว่ากลับมายิ้มในใจ คนที่ดูถูกนะ คำตอบคือทุกวันนี้ผมทำได้ โดยที่ผมยึดถือรักครูบาอาจารย์ ให้เกียรติทุกๆ คน
Q : ทำไมเวลาพูดถึงตลกไทยชอบพวงคำว่าเจ้าชู้ตลอดเวลา ?
เท่ง เถิดเทิง : ความเจ้าชู้ผมว่าผู้ชายมีทุกคนครับ แล้วแต่ว่าใครจะมากใครจะน้อย สำหรับผมมันไม่สามารถที่จะเอาครอบครัวไปแลกได้ ครอบครัวอยู่สูง
Q : หมายถึงว่าเคยมีบ้าง ต้องเคลียร์กับภรรยายังไง ?
เท่ง เถิดเทิง : เคยมีบ้าง เคลียร์กันตามหน้าสื่อจริงๆ เพราะแน่นอนเราผิดอยู่แล้ว เราทำไม่ถูก
Q : ส่วนไหนที่เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว พอแล้ว ?
เท่ง เถิดเทิง : ผมว่าด้วยลูกเต้าโตแล้ว แล้วอีกอย่างเราไม่สามารถพากิ๊กหรือผู้หญิงมานั่งกินข้าวได้ ทำไม่ได้ยุคนี้มันโซเชียล ถ่ายหมดอะไรหมด อยู่ไหนโลกรู้หมด ยิ่งพอเรามีชื่อขึ้นมามันยิ่งปิดประตูนะ แล้วส่วนตัวไม่ชอบเจอคนเยอะ ชอบสันโดษ มีโอกาสอยู่บ้านสวนจะชอบนั่งอยู่คนเดียว มีความสุขมาก เสพความเงียบแล้วมันจะทำให้มีโอกาสนึกถึงชีวิตเรา
Q : รู้สึกว่าชีวิตพี่เท่งสมถะมาก เงินทั้งหมดที่ได้มาพี่ไปทำอะไร ?
เท่ง เถิดเทิง : ส่วนมากก็จะเป็นทรัพย์สินมากกว่า แล้วก็ปูทางเอาไว้ตอนที่เราแก่แล้ว ไม่ได้ทำงานแล้วแต่ทุกอย่างเรามีให้ลูกเราหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรที่เราวางไว้หมดแล้ว เคยมีทองใส่นะเมียซื้อให้ แต่ไม่ได้ใส่ก็คนมันไม่เคยใส่ รู้สึกมันเคอะเขินทำตัวไม่ถูก
Q : อะไรที่แพงที่สุดที่พี่ซื้อในชีวิตนี้ ?
เท่ง เถิดเทิง : รองเท้าประมาณ 4-5 พัน แพงที่สุดในชีวิต
Q : เรื่องที่หนักสุดในชีวิตคือช่วงไหน ?
เท่ง เถิดเทิง : ช่วงที่เข้าวงการตลก ชีวิตไม่เคยตีรันฟันแทงกับใคร แต่แล้วก็มาเจอเหตุการณ์มีเรื่องกัน เป็นการเข้าใจผิดกัน เราก็โดนซ้อม เขาบังคับให้ก้มกราบเท้าแล้วก็เตะเสยเรา จนก็มีผู้ใหญ่ใจดีลงมาห้าม จำเป็นต้องย้ายออกจากที่นั่นไปอยู่กับเมีย ไม่มีงานไม่มีอะไร เช่าบ้านเขาอยู่ชั้นบน ชั้นล่างเขาขายข้าวแกง กลางคืนก็ไปลักไข่พะโล้เขามากินกัน ให้เมียกินตอนนั้นก็ท้อง ชุดคลุมท้องก็ยังไม่มีเลย ย้ายจากบางกะปิไปพุทธมณฑลสาย 3 ไปเริ่มต้นใหม่ โทรบอกไฟแนนซ์ให้มายึดรถ บอกเมียว่าเริ่มต้นกันใหม่
Q : ครอบครัวพี่มีทั้งหมดกี่คน ?
เท่ง เถิดเทิง : ลูก 3 ภรรยา 1
Q : ชีวิตของพี่เท่งที่เจอเรื่องราวมามากมายที่สามารถให้แรงบันดาลใจกับรุ่นน้องที่มีความฝันแต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง อยากจะบอกกับเขาว่า ?
เท่ง เถิดเทิง : ถ้าพูดถึงวงการบันเทิงทุกวันนี้คนเข้าวงการบันเทิงง่ายมาก แค่คุณมีมือถือแป๊ปเดียวคุณอาจจะดังในโซเชียลก็ได้ คุณเข้ามาในวงการบันเทิงแล้วคุณอย่าไปตั้งเป้าว่าคุณต้องดัง แล้วพอไม่ดังแล้วผิดหวัง ตั้งหวังได้แต่ถ้ามองไปข้างหน้าแล้วมันไม่ใช่ ก็มีเส้นทางหากินอีกเยอะมาก เพราะฉะนั้นอะไรก็ได้ที่คุณทำมาหากินแล้วสุจริตคุณทำไปเถอะ มันเกิดจากตัวคุณมีความภูมิใจในตัวเอง
สามารถติดตาม Woody FM ได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธ เวลา 19.00 น.